Notion คืออะไร? แอป จดโน้ต วางแผน เขียนโค้ด จัดการงาน ได้หมด

บทความโดย Yes Web Design Studio

Notion คืออะไร? แอป จดโน้ต วางแผน เขียนโค้ด จัดการงาน ได้หมด
Table of Contents

เครื่องมือที่รวบรวมทุกฟังก์ชั่นเข้าไว้ด้วยกันค่อนข้างมีความสำคัญและเป็นที่ต้องการอย่างมากในการทำงานยุคดิจิตอล และ Notion ก็คือคำตอบสำหรับคนที่มองหาแพลตฟอร์มที่จะช่วยจัดระเบียบความคิด จัดการงาน และทำงานร่วมกับทีมได้อย่างไร้รอยต่อ แทนที่จะต้องสลับไปมาระหว่างแอปต่าง ๆ มาทำความรู้จักกับ Notion ที่กำลังเปลี่ยนวิธีที่เราทำงานในโลกดิจิทัลกัน

 

 

Notion คืออะไร?

 

Notion คืออะไร?

 

Notion คือแพลตฟอร์มจัดการข้อมูลแบบ all-in-one ที่ผสมผสานฟีเจอร์ของเครื่องมือหลายประเภทเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการจดโน้ต สร้างฐานข้อมูล จัดการโปรเจกต์ เขียนเอกสาร และอื่น ๆ อีกมากมาย แนวคิดหลักของ Notion คือการสร้างพื้นที่ทำงานที่ยืดหยุ่น ปรับแต่งได้ตามความต้องการของผู้ใช้ และรวมทุกอย่างไว้ในที่เดียว แพลตฟอร์มนี้สร้างขึ้นบนแนวคิด “building blocks” หรือการต่อบล็อกข้อมูลเพื่อสร้างระบบที่ซับซ้อนได้ตามใจชอบ ผู้ใช้สามารถเริ่มจากหน้าเปล่าแล้วเพิ่มองค์ประกอบต่าง ๆ เช่น ข้อความ ตาราง รายการงาน รูปภาพ หรือแม้แต่โค้ด เพื่อสร้างระบบจัดการข้อมูลที่เหมาะกับความต้องการเฉพาะของตัวเอง

 

ทำความรู้จักกับ Notion

Notion ก่อตั้งในปี 2016 โดย Ivan Zhao และ Simon Last ที่ซานฟรานซิสโก แรงบันดาลใจในการสร้าง Notion มาจากความผิดหวังกับเครื่องมือการทำงานที่มีอยู่ในตลาด ซึ่งมักจะแยกส่วนและไม่สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างลงตัว

 

ในช่วงแรก Notion ประสบปัญหาด้านการเงินจนเกือบต้องปิดตัวลง แต่ด้วยความมุ่งมั่นของทีมผู้ก่อตั้ง พวกเขาได้พัฒนาเวอร์ชันใหม่ของ Notion จนประสบความสำเร็จและดึงดูดผู้ใช้จำนวนมาก จากนั้น Notion เติบโตอย่างรวดเร็วด้วยการบอกต่อปากต่อปาก โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ประกอบการ สตาร์ทอัพ และคนทำงานสายครีเอทีฟ

 

ปัจจุบัน Notion กลายเป็นหนึ่งในเครื่องมือจัดการความรู้และการทำงานที่มีผู้ใช้ทั่วโลกหลายล้านคน บริษัทได้รับเงินลงทุนมูลค่าสูงและมีมูลค่าตลาดเกินพันล้านดอลลาร์

 

ทำไม Notion ถึงเป็นที่นิยมในสายงานดิจิทัล

Notion ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มคนทำงานสายดิจิทัลด้วยเหตุผลหลายประการ

  1. ความหลากหลายของการใช้งาน – Notion สามารถแทนที่แอปหลายตัวได้ในเครื่องมือเดียว ทั้ง Evernote, Trello, Google Docs และอื่น ๆ
  2. ปรับแต่งได้สูง – ผู้ใช้สามารถออกแบบระบบการทำงานได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นการจัดการโปรเจกต์ การเก็บความรู้ หรือการวางแผนส่วนตัว
  3. การแชร์และทำงานร่วมกัน – ความสามารถในการทำงานร่วมกันของ Notion ทำให้ทีมสามารถแชร์ข้อมูลและทำงานพร้อมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  4. ระบบนิเวศที่เติบโต – มีชุมชนผู้ใช้งานขนาดใหญ่ที่แบ่งปันเทมเพลต เทคนิค และวิธีการใช้งาน
  5. การออกแบบที่สวยงาม – อินเทอร์เฟซที่สะอาดและเรียบง่าย ทำให้การใช้งานเป็นไปอย่างราบรื่น

 

 

ฟีเจอร์เด่นของ Notion ที่ควรรู้

 

การจดบันทึกและจัดระเบียบโน้ต

 

ฟีเจอร์เด่นของ Notion ที่ควรรู้ - การจดบันทึกและจัดระเบียบโน้ต

 

จุดเริ่มต้นของ Notion คือการเป็นเครื่องมือจดบันทึกที่ทรงพลัง การจดโน้ตใน Notion แตกต่างจากแอปอื่นตรงที่คุณสามารถจัดโครงสร้างข้อมูลได้อย่างยืดหยุ่น สร้างลิงก์เชื่อมโยงระหว่างหน้าต่างๆ และฝังไฟล์หรือมีเดียต่างๆ ได้โดยตรง

 

คุณสามารถจัดหมวดหมู่โน้ตด้วยระบบไซด์บาร์ แท็ก และการค้นหาที่รวดเร็ว ทำให้การเข้าถึงข้อมูลทำได้ง่ายแม้จะมีโน้ตจำนวนมาก นอกจากนี้ Notion ยังสนับสนุนการจัดรูปแบบ Markdown ซึ่งช่วยให้การเขียนและจัดรูปแบบเอกสารทำได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

 

หน้า (Pages)

องค์ประกอบพื้นฐานของ Notion แต่ละหน้าสามารถมีเนื้อหาได้ไม่จำกัด และยังซ้อนหน้าย่อยได้หลายระดับ ทำให้สามารถสร้างโครงสร้างข้อมูลแบบลำดับชั้นได้ การจัดการข้อมูลแบบนี้ช่วยให้แยกเนื้อหาตามโปรเจกต์ แผนก หรือหัวข้อได้อย่างเป็นระเบียบ

 

หน้าแต่ละหน้าสามารถกำหนดไอคอน สีพื้นหลัง และภาพหน้าปกเพื่อให้ดูสวยงามและจดจำได้ง่าย คุณยังสามารถกำหนดสิทธิ์การเข้าถึงของแต่ละหน้าเพื่อควบคุมว่าใครสามารถดูหรือแก้ไขข้อมูลได้บ้าง

 

บล็อก (Blocks)

บล็อกคือหัวใจสำคัญของ Notion ทุกองค์ประกอบที่คุณเพิ่มลงในหน้า ไม่ว่าจะเป็นข้อความ รายการ ตาราง รูปภาพ หรือแม้แต่เสียงและวิดีโอ ล้วนเป็นบล็อกทั้งสิ้น ความพิเศษคือความสามารถในการปรับเปลี่ยนได้ คุณสามารถเปลี่ยนบล็อกจากรูปแบบหนึ่งเป็นอีกรูปแบบได้ง่าย ๆ เช่น เปลี่ยนจากข้อความธรรมดาเป็นรายการตรวจสอบ หรือจากย่อหน้าเป็นโค้ด

 

นอกจากนี้บล็อกยังสามารถลากและวางเพื่อจัดเรียงใหม่ได้ และยังซ้อนกันเป็นชั้น ๆ เพื่อสร้างโครงสร้างข้อมูลที่ซับซ้อนได้ ซึ่งทำให้การจัดการเนื้อหามีความยืดหยุ่นสูง

 

มุมมอง (Views)

มุมมองใน Notion ช่วยให้คุณสามารถดูข้อมูลชุดเดียวกันในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป เช่น ข้อมูลที่อยู่ในรูปแบบตารางสามารถสลับไปแสดงในรูปแบบปฏิทิน แกลเลอรี่ หรือบอร์ด Kanban ได้โดยไม่ต้องสร้างข้อมูลซ้ำ ฟีเจอร์นี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการจัดการโปรเจกต์ที่ต้องการมุมมองหลากหลาย เช่น ดูรายการงานเป็นตาราง เมื่อต้องการเห็นรายละเอียดทั้งหมด หรือสลับเป็นมุมมอง Kanban เมื่อต้องการเห็นสถานะของงานแต่ละชิ้น

 

ศูนย์รวมความรู้ (Wiki)

 

ฟีเจอร์เด่นของ Notion ที่ควรรู้ - ศูนย์รวมความรู้ (Wiki)

 

ฟีเจอร์ Wiki ใน Notion เป็นเครื่องมือที่ออกแบบมาเพื่อสร้างและจัดการฐานข้อมูลความรู้แบบทำงานร่วมกัน โดยผสานความยืดหยุ่นของหน้า Notion เข้ากับโครงสร้างที่เป็นระเบียบของฐานข้อมูล ทำให้ทีมและบุคคลทั่วไปสามารถรวมศูนย์และแบ่งปันข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

เทมเพลต (Templates)

 

ฟีเจอร์เด่นของ Notion ที่ควรรู้ - เทมเพลต (Templates)

 

เทมเพลตใน Notion ช่วยประหยัดเวลาในการสร้างหน้าหรือฐานข้อมูลใหม่ แทนที่จะต้องเริ่มจากศูนย์ทุกครั้ง คุณสามารถใช้เทมเพลตที่มีโครงสร้างและเนื้อหาพร้อมใช้งานได้เลยโดยใช้เทมเพลตสำเร็จรูปให้เลือกมากมาย ครอบคลุมการใช้งานหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการจัดการโปรเจกต์ บันทึกการประชุม ติดตามนิสัย วางแผนการเดินทาง หรือแม้แต่การวางแผนงานแต่งงาน

 

นอกจากนี้ คุณยังสามารถสร้างเทมเพลตของตัวเองเพื่อใช้ซ้ำในอนาคต หรือแบ่งปันกับเพื่อนร่วมงานได้ ทำให้ทีมมีมาตรฐานเดียวกันในการจัดการข้อมูล

 

การผสานรวม (Integrations)

 

ฟีเจอร์เด่นของ Notion ที่ควรรู้ - การผสานรวม (Integrations)

 

Notion สามารถเชื่อมต่อกับแอปและบริการอื่น ๆ ได้หลากหลาย ช่วยให้การทำงานระหว่างแพลตฟอร์มเป็นไปอย่างราบรื่น การเชื่อมต่อที่พบบ่อย ได้แก่

  • Google Drive สำหรับการฝังไฟล์จาก Google Docs, Sheets หรือ Slides
  • Slack เพื่อส่งข้อมูลระหว่างแพลตฟอร์ม
  • GitHub สำหรับติดตามปัญหาและการอัปเดต
  • Figma สำหรับฝังไฟล์ออกแบบ
  • Zapier เพื่อสร้างการเชื่อมต่ออัตโนมัติกับแอปอื่น ๆ อีกมากมาย

 

การผสานรวมเหล่านี้ช่วยให้ Notion กลายเป็นศูนย์กลางของการทำงาน และลดความจำเป็นในการสลับไปมาระหว่างแอปต่าง ๆ

 

AI Assistant

 

ฟีเจอร์เด่นของ Notion ที่ควรรู้ - AI Assistant

 

Notion AI Assistant เป็นฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการทำงานด้วย AI โดยสามารถช่วยเหลือในงานเขียนต่าง ๆ เช่นเขียนเนื้อหาตามหัวข้อที่กำหนด สรุปข้อความยาว ๆ ให้กระชับ แก้ไขไวยากรณ์และการสะกดคำ แปลงรูปแบบการเขียน สร้างไอเดียและแผนงาน หรือตอบคำถามจากข้อมูลที่มีอยู่ในเอกสาร

 

ฟีเจอร์นี้ช่วยประหยัดเวลาและทำให้การทำงานกับเนื้อหามีประสิทธิภาพมากขึ้น แม้จจะต้องจ่ายเพิ่ม แต่หลายคนพบว่าคุ้มค่ากับการลงทุน

 

การวางแผนงานและโปรเจกต์ (Project & Task Management)

 

ฟีเจอร์เด่นของ Notion ที่ควรรู้ - การวางแผนงานและโปรเจกต์ (Project & Task Management)

 

Notion เป็นเครื่องมือจัดการโปรเจกต์ที่ทรงพลัง สามารถปรับแต่งให้เข้ากับวิธีทำงานของทีมได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น Kanban, Scrum หรือแนวทางอื่น ๆ

 

คุณสามารถสร้างรายการงาน กำหนดผู้รับผิดชอบ วันครบกำหนด และติดตามความคืบหน้าได้ นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มฟิลด์กำหนดเองเพื่อติดตามข้อมูลที่สำคัญต่อโปรเจกต์ของคุณโดยเฉพาะ และการแสดงงานในหลายมุมมอง ทั้งตาราง บอร์ด ปฏิทิน และไทม์ไลน์ ช่วยให้ทีมเห็นภาพรวมและรายละเอียดของโปรเจกต์ได้อย่างครบถ้วน

 

การเขียนโค้ดและจัดเก็บเอกสารโปรแกรมเมอร์

สำหรับโปรแกรมเมอร์และนักพัฒนา Notion มีฟีเจอร์ที่เป็นประโยชน์หลายอย่างบล็อกโค้ดที่รองรับภาษาโปรแกรมมิ่งหลากหลาย พร้อมการไฮไลต์ไวยากรณ์ พื้นที่จัดเก็บเอกสารทางเทคนิค API documentation หรือคู่มือต่าง ๆ การติดตามบั๊กและฟีเจอร์ที่กำลังพัฒนา ไปจนถึงพื้นที่รวบรวมความรู้ (Knowledge base) สำหรับทีมพัฒนา

 

ทีมพัฒนาหลายทีมใช้ Notion เพื่อการจัดเก็บข้อมูลของโปรเจกต์ การวางแผนสปรินท์ และการจัดการบั๊ก โดยเชื่อมโยงกับเครื่องมืออื่น ๆ เช่น GitHub

 

การใช้ฐานข้อมูล (Database) และตาราง Kanban

ฐานข้อมูลของ Notion คือจุดเด่นที่ทำให้แตกต่างจากเครื่องมือจดบันทึกอื่น ๆ คุณสามารถสร้างฐานข้อมูลที่มีโครงสร้างซับซ้อน กำหนดประเภทข้อมูล และความสัมพันธ์ระหว่างฐานข้อมูลต่าง ๆ ได้

 

ฐานข้อมูลสามารถแสดงผลได้หลากหลายรูปแบบ ตามความต้องการในการใช้งาน

ตาราง – สำหรับดูข้อมูลในรูปแบบสเปรดชีต

บอร์ด – แบบ Kanban สำหรับติดตามสถานะของรายการต่าง ๆ

ปฏิทิน – สำหรับวางแผนตามวันเวลา

ไทม์ไลน์ – สำหรับดูกำหนดการของโปรเจกต์

แกลเลอรี่ – สำหรับแสดงผลในรูปแบบการ์ดรูปภาพ

รายการ – สำหรับดูข้อมูลในรูปแบบรายการอย่างง่าย

 

นอกจากนี้ คุณยังสามารถกรองและจัดเรียงข้อมูลตามเงื่อนไขที่ต้องการได้ ทำให้การหาข้อมูลทำได้อย่างรวดเร็ว

 

การแชร์และทำงานร่วมกัน (Collaboration)

 

ฟีเจอร์เด่นของ Notion ที่ควรรู้ - การแชร์และทำงานร่วมกัน (Collaboration)

 

Notion สนับสนุนการทำงานร่วมกันเป็นทีมได้อย่างดีเยี่ยม โดยมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้การแชร์ข้อมูลและการทำงานร่วมกันเป็นไปอย่างราบรื่น ดังนี้

  • การแชร์หน้าหรือ workspace ทั้งหมดกับสมาชิกในทีม
  • การกำหนดสิทธิ์การเข้าถึงที่แตกต่างกัน เช่น ดูอย่างเดียว แก้ไขได้ หรือแก้ไขและแชร์ต่อได้
  • การแสดงชื่อและอวาตาร์ของคนที่กำลังแก้ไขเอกสารในเวลาเดียวกัน
  • การแสดงความคิดเห็นและการแจ้งเตือนเมื่อมีการกล่าวถึง (@mention)
  • ประวัติการแก้ไขที่สามารถย้อนกลับไปดูการเปลี่ยนแปลงก่อนหน้าได้

 

ฟีเจอร์เหล่านี้ช่วยให้ทีมสามารถทำงานร่วมกันได้แม้จะอยู่คนละสถานที่หรือคนละเวลา ลดความสับสนและทำให้การสื่อสารเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

 

ไม่จำกัดพื้นที่จัดเก็บข้อมูล

Notion ไม่มีการจำกัดพื้นที่จัดเก็บข้อมูลในแพลนแบบจ่าย ทำให้คุณสามารถสร้างหน้าและเก็บข้อมูลได้ไม่จำกัด อย่างไรก็ตาม มีข้อจำกัดในการอัปโหลดไฟล์ แต่ละไฟล์มีขนาดได้ไม่เกิน 5MB ในแพลนฟรี หรือ 50MB ในแพลนแบบจ่าย

 

ข้อดีอีกประการของ Notion คือการซิงค์ข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ทั้งหมดของคุณ ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือสมาร์ทโฟน ทำให้คุณสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ทุกที่ทุกเวลา

 

ฟังก์ชันเสริมที่น่าสนใจ

นอกจากฟีเจอร์หลักแล้ว Notion ยังมีฟังก์ชันเสริมที่น่าสนใจอีกมากมาย

 

Web clipper – ส่วนเสริมบนเบราว์เซอร์ที่ช่วยให้คุณบันทึกหน้าเว็บ บทความ หรือรูปภาพจากอินเทอร์เน็ตลงใน Notion ได้อย่างรวดเร็ว

Formulas – สูตรคำนวณที่ช่วยให้คุณสร้างฟิลด์อัตโนมัติ เช่น คำนวณผลรวม เฉลี่ย หรือแม้แต่สร้างเงื่อนไขที่ซับซ้อน

Relations & Rollups – การเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างฐานข้อมูลต่าง ๆ และแสดงผลรวมหรือค่าที่เกี่ยวข้อง

Sync blocks – บล็อกที่สามารถซิงค์ข้อมูลกัน เมื่อแก้ไขที่หนึ่ง อีกที่หนึ่งจะอัปเดตตาม

Widgets – การฝังวิดเจ็ตต่าง ๆ เช่น แผนที่ ปฏิทิน หรือแม้แต่เกม

 

 

ราคาและแพลนต่าง ๆ

Notion มีแพลนให้เลือกหลายรูปแบบ เหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกัน

 

ฟีเจอร์เด่นของ Notion ที่ควรรู้ - ราคาและแพลนต่าง ๆ

 

แพลนฟรี (Free Plan)

  • เหมาะสำหรับการใช้งานส่วนตัวหรือเริ่มต้น
  • ไม่จำกัดจำนวนหน้าและบล็อก
  • แชร์กับผู้ใช้อื่นได้ไม่เกิน 10 คน
  • อัปโหลดไฟล์ได้สูงสุด 5MB ต่อไฟล์
  • ไม่มี version history

 

แพลน Plus

  • เหมาะสำหรับผู้ใช้ขั้นสูงหรือฟรีแลนซ์
  • ไม่จำกัดการแชร์
  • อัปโหลดไฟล์ได้สูงสุด 10MB ต่อไฟล์
  • เก็บประวัติการแก้ไขได้ 90 วัน
  • สามารถเข้าถึงเก็บประวัติการแก้ไขได้

 

จ่ายรายเดือน : $12 per seat/month

จ่ายรายปี : $10 per seat/month

 

แพลน Business

  • เหมาะสำหรับทีมและธุรกิจขนาดเล็กถึงกลาง
  • มีเครื่องมือสำหรับการทำงานเป็นทีมเพิ่มเติม
  • อัปโหลดไฟล์ได้สูงสุด 10MB ต่อไฟล์
  • เก็บประวัติการแก้ไขได้ไม่จำกัด
  • การบริหารสมาชิกและสิทธิ์การเข้าถึงขั้นสูง

 

จ่ายรายเดือน : $18 per seat/month

จ่ายรายปี : $15 per seat/month

 

แพลน Enterprise

  • เหมาะสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ที่ต้องการความปลอดภัยสูง
  • อัปโหลดไฟล์ได้สูงสุด 50MB ต่อไฟล์
  • มี SAML SSO และการควบคุมการเข้าถึงขั้นสูง
  • ทีมสนับสนุนเฉพาะและ SLA
  • เครื่องมือวิเคราะห์การใช้งาน

 

นอกจากนี้ Notion ยังมีแพลนสำหรับการศึกษาฟรีสำหรับนักเรียน นักศึกษา และอาจารย์ที่มีอีเมลสถาบันการศึกษา

 

 

Notion เหมาะกับใคร?

 

นักเรียนและนักศึกษา

Notion เป็นเครื่องมือที่ช่วยจัดระเบียบการเรียนของนักศึกษาได้อย่างครบวงจร สามารถจัดเก็บโน้ตเรียน วางแผนกำหนดส่งงาน ติดตามความคืบหน้าของวิชาต่าง ๆ และรวบรวมทรัพยากรการเรียนไว้ในที่เดียว ข้อดีสำหรับนักศึกษาคือการสร้างหน้าเฉพาะสำหรับแต่ละวิชา แยกตามเทอมหรือปีการศึกษา พร้อมการเชื่อมโยงข้อมูลเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมโยงโน้ตไปยังกำหนดการสอบ หรือการจับกลุ่มโปรเจกต์ต่างๆ ตามหมวดหมู่

 

ที่สำคัญคือ Notion มีแพลนฟรีสำหรับนักศึกษาและบุคลากรทางการศึกษา เพียงลงทะเบียนด้วยอีเมลของสถาบันการศึกษา ทำให้เข้าถึงฟีเจอร์ระดับพรีเมียมโดยไม่มีค่าใช้จ่าย

 

ฟรีแลนซ์และนักพัฒนา

สำหรับฟรีแลนซ์และนักพัฒนา Notion เป็นเสมือนสำนักงานดิจิทัลที่รวมทุกอย่างไว้ในที่เดียว ช่วยบริหารโปรเจกต์ จัดการลูกค้า และติดตามชั่วโมงการทำงานได้ ฟรีแลนซ์สามารถสร้างระบบติดตามงานที่ปรับแต่งตามความต้องการเฉพาะของตน จัดเก็บเอกสารอ้างอิง แบบสอบถามลูกค้า และข้อกำหนดโปรเจกต์ต่าง ๆ ไว้ในที่เดียว

 

นักพัฒนาโปรแกรมยังสามารถใช้ Notion เป็นพื้นที่จัดเก็บข้อมูลด้านเทคนิค เช่น การจัดการบั๊ก การบันทึกคำสั่งที่ใช้บ่อย หรือแม้แต่การทำเอกสาร API โดยใช้บล็อกโค้ดที่สนับสนุนภาษาโปรแกรมมิ่งจำนวนมาก

 

ทีมงานและองค์กร

Notion ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การทำงานร่วมกันเป็นทีม องค์กรสามารถใช้ Notion เป็นศูนย์กลางความรู้ (Knowledge Hub) ที่รวมเอกสารสำคัญ ขั้นตอนการทำงาน และข้อมูลที่ทีมต้องใช้ร่วมกัน ทีมสามารถสร้างพื้นที่เฉพาะสำหรับแต่ละแผนก เช่น ฝ่ายการตลาด ฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ หรือฝ่ายบุคคล โดยแต่ละพื้นที่มีการจัดการสิทธิ์การเข้าถึงที่แตกต่างกัน

 

ฟีเจอร์การทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์ การแสดงความคิดเห็น และการแจ้งเตือน ช่วยให้การสื่อสารในทีมราบรื่น ลดการประชุมที่ไม่จำเป็น และทำให้ข้อมูลโปร่งใสสำหรับทุกคนในองค์กร

 

ข้อดีของการใช้ Notion

 

ความยืดหยุ่นในการใช้งาน

จุดแข็งหลักของ Notion คือความยืดหยุ่นที่ไม่มีขีดจำกัด แทนที่จะกำหนดวิธีการทำงานให้คุณ Notion เปิดโอกาสให้คุณสร้างระบบที่เหมาะกับความต้องการเฉพาะของตัวเอง ไม่ว่าคุณจะต้องการจัดการข้อมูลแบบใด Notion สามารถทำได้ตั้งแต่จดโน้ตอย่างง่าย ไปจนถึงการสร้างฐานข้อมูลที่ซับซ้อนพร้อมความสัมพันธ์แบบเชื่อมโยง ความยืดหยุ่นนี้ทำให้ Notion เหมาะกับการใช้งานหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการจัดการโปรเจกต์ การวางแผนงานแต่งงาน การจัดทำแผนการเรียน หรือการติดตามความคืบหน้าของเป้าหมายส่วนตัว

 

อินเทอร์เฟซที่ใช้ง่าย

แม้จะมีฟีเจอร์ที่ทรงพลัง แต่ Notion ยังคงรักษาอินเทอร์เฟซที่สะอาดและเรียบง่าย ช่วยให้ผู้ใช้มุ่งเน้นไปที่เนื้อหาโดยไม่มีสิ่งรบกวน ผู้ใช้มือใหม่สามารถเริ่มต้นได้ง่ายด้วยการจดโน้ตพื้นฐาน และค่อย ๆ เรียนรู้ฟีเจอร์ขั้นสูงเพิ่มเติม โดยไม่รู้สึกว่าถูกบังคับให้ใช้ฟีเจอร์ทั้งหมดตั้งแต่แรก

 

รองรับการใช้งานหลากหลายอุปกรณ์

Notion มีแอปพลิเคชันที่รองรับการใช้งานได้เกือบทุกแพลตฟอร์ม ทั้ง Windows, Mac, iOS, Android และเว็บเบราว์เซอร์ ข้อมูลทั้งหมดจะซิงค์ระหว่างอุปกรณ์โดยอัตโนมัติ ช่วยให้คุณทำงานได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน จะเป็นการจดโน้ตด่วนบนสมาร์ทโฟนระหว่างเดินทาง หรือการทำงานแบบเต็มรูปแบบบนคอมพิวเตอร์

 

นอกจากนี้ Notion ยังมีโหมดออฟไลน์ ที่ช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงและแก้ไขข้อมูลได้แม้ไม่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และจะซิงค์ข้อมูลโดยอัตโนมัติเมื่อกลับมาออนไลน์

 

มีเทมเพลตให้เลือกมากมาย

Notion มาพร้อมเทมเพลตสำเร็จรูปจำนวนมากที่ออกแบบมาสำหรับการใช้งานแต่ละประเภท ช่วยประหยัดเวลาและไม่ต้องเริ่มจากศูนย์ โดยเทมเพลตเหล่านี้ครอบคลุมหลากหลายหมวดหมู่ เช่น การจัดการโปรเจกต์ การวางแผนส่วนตัว การติดตามเป้าหมาย การวางแผนการเงิน และอื่น ๆ อีกมากมาย

 

นอกจากเทมเพลตทางการของ Notion แล้ว ยังมีชุมชนผู้ใช้ที่แบ่งปันเทมเพลตที่สร้างขึ้นเอง ทำให้คุณสามารถค้นหาและดาวน์โหลดเทมเพลตที่ตรงกับความต้องการเฉพาะได้

 

ข้อจำกัดของ Notion ที่ควรรู้ก่อนใช้งาน

 

การทำงานแบบออฟไลน์ที่ยังไม่สมบูรณ์

แม้ Notion จะมีโหมดออฟไลน์ แต่ก็ยังมีข้อจำกัดในการทำงานแบบไม่เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต ผู้ใช้สามารถดูและแก้ไขข้อมูลที่เคยเข้าถึงก่อนหน้านี้ได้ แต่ไม่สามารถสร้างหน้าใหม่หรือใช้ฟีเจอร์บางอย่างได้ และในบางครั้งการซิงค์ข้อมูลเมื่อกลับมาออนไลน์อาจมีปัญหา เช่น ความขัดแย้งของข้อมูลเมื่อมีการแก้ไขเดียวกันในหลายอุปกรณ์ ผู้ใช้ที่ต้องทำงานในพื้นที่ที่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ตไม่เสถียรควรระมัดระวัง

 

หากการทำงานออฟไลน์เป็นความต้องการหลัก ผู้ใช้อาจต้องพิจารณาใช้แอปจดบันทึกอื่นที่ออกแบบมาเพื่อการทำงานออฟไลน์โดยเฉพาะ

 

เรียนรู้เบื้องต้นอาจต้องใช้เวลา

ความยืดหยุ่นและความหลากหลายของฟีเจอร์ใน Notion เป็นดาบสองคม ในขณะที่ช่วยให้คุณสามารถปรับแต่งได้มากมาย แต่ก็ทำให้มีเส้นโค้งการเรียนรู้ที่สูงขึ้นสำหรับผู้เริ่มต้น

 

ผู้ใช้ใหม่อาจรู้สึกท่วมท้นกับตัวเลือกที่มากมาย และอาจไม่ทราบว่าควรเริ่มต้นจากตรงไหน หรือวิธีจัดโครงสร้างข้อมูลที่ดีที่สุด แม้แต่การดูตัวอย่างของผู้อื่นก็อาจสร้างความสับสนเนื่องจากวิธีการใช้งานที่หลากหลาย ดังนั้นการใช้ประโยชน์จาก Notion อย่างเต็มที่ต้องอาศัยการลงทุนเวลาในการเรียนรู้ ทดลอง และปรับแต่งจนกว่าจะพบวิธีที่เหมาะกับรูปแบบการทำงานของตัวเอง

 

ความเร็วในการโหลดเมื่อข้อมูลมีจำนวนมาก

เมื่อเริ่มสะสมข้อมูลจำนวนมากใน Notion คุณอาจสังเกตเห็นความเร็วในการโหลดที่ลดลง โดยเฉพาะในหน้าที่มีฐานข้อมูลขนาดใหญ่หรือมีการฝังมีเดียจำนวนมาก ปัญหานี้อาจรุนแรงขึ้นเมื่อใช้งานบนอุปกรณ์มือถือหรือคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพต่ำ ทำให้การเลื่อนดูหน้าหรือการแก้ไขข้อมูลมีความล่าช้า

 

Notion ทำงานบนเว็บเทคโนโลยี ซึ่งแม้จะมีข้อดีด้านความยืดหยุ่นและการเข้าถึงจากทุกที่ แต่ก็มีข้อจำกัดด้านประสิทธิภาพเมื่อเทียบกับแอปพลิเคชันที่พัฒนาเฉพาะสำหรับแต่ละแพลตฟอร์ม

 

 

วิธีเริ่มต้นใช้งาน Notion สำหรับมือใหม่

 

สมัครและสร้าง Workspace

 

การเริ่มต้นใช้งาน Notion ทำได้ง่าย ๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอน:

  1. เข้าไปที่เว็บไซต์ Notion.so และคลิกที่ปุ่ม “Sign up” หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชันสำหรับอุปกรณ์ของคุณ
  2. ลงทะเบียนด้วยอีเมล หรือเข้าสู่ระบบด้วยบัญชี Google, Apple หรือ Microsoft
  3. เลือกวัตถุประสงค์ที่คุณจะใช้งาน Notion เช่น ส่วนตัว งาน การศึกษา หรือทีม
  4. Notion จะสร้าง Workspace เริ่มต้นให้คุณพร้อมกับหน้าตัวอย่างที่แสดงวิธีการใช้งานพื้นฐาน

 

จากนั้นคุณสามารถปรับแต่ง Workspace โดยการเพิ่มไอคอน เปลี่ยนชื่อ และเริ่มสร้างหน้าแรกของคุณได้ทันที

 

การใช้งาน Template เบื้องต้น

เทมเพลตเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับผู้ใช้ใหม่ ช่วยให้คุณเห็นโครงสร้างที่เป็นไปได้และวิธีการจัดการข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ

  1. คลิกที่ปุ่ม “+ New page” ที่มุมล่างของไซด์บาร์ด้านซ้าย
  2. เลือก “Templates” จากเมนูที่ปรากฏขึ้น
  3. เลือกหมวดหมู่ที่ตรงกับความต้องการของคุณ เช่น Personal, Work, Education หรือ Design
  4. เลือกเทมเพลตที่ต้องการและคลิก “Use this template”

 

เมื่อเทมเพลตถูกเพิ่มเข้าไปใน Workspace ของคุณแล้ว คุณสามารถแก้ไขและปรับแต่งให้เหมาะกับความต้องการได้ทันที

 

การสร้าง Page และ Block

การสร้างหน้าและเพิ่มบล็อกเป็นทักษะพื้นฐานที่สำคัญในการใช้งาน Notion

 

1. การสร้างหน้าใหม่

  • คลิกที่ปุ่ม “+ New page” ในไซด์บาร์
  • หรือวางเคอร์เซอร์ในหน้าปัจจุบันและพิมพ์ “/” ตามด้วย “page” เพื่อสร้างหน้าย่อย

 

2. การเพิ่มบล็อก

  • วางเคอร์เซอร์ในตำแหน่งที่ต้องการและพิมพ์ “/”
  • เลือกประเภทของบล็อกที่ต้องการ เช่น Text, Heading, Bulleted list, Table, Image, Code เป็นต้น

 

3. การจัดการบล็อก

  • ลากและวางเพื่อเปลี่ยนตำแหน่ง
  • คลิกที่หกจุดด้านซ้ายของบล็อกเพื่อเปิดเมนูตัวเลือกเพิ่มเติม
  • ใช้คีย์ลัด เช่น Ctrl+Shift+Arrow เพื่อย้ายบล็อกขึ้นหรือลง

 

การฝึกฝนการใช้บล็อกต่าง ๆ จะช่วยให้คุณสร้างหน้าที่มีประสิทธิภาพและน่าสนใจมากขึ้น

 

การเชื่อมโยงข้อมูลข้ามหน้า

การเชื่อมโยงระหว่างหน้าต่าง ๆ เป็นหนึ่งในฟีเจอร์ที่ทรงพลังของ Notion ช่วยสร้างโครงสร้างความรู้แบบเชื่อมโยงสามารถทำได้โดย

 

1. การสร้างลิงก์ไปยังหน้าอื่น

  • พิมพ์ “[[” แล้วตามด้วยชื่อหน้าที่ต้องการลิงก์
  • เลือกจากรายการที่แสดงขึ้น
  • หรือไฮไลต์ข้อความแล้วกด Ctrl+K (Cmd+K บน Mac) และเลือกหน้าปลายทาง

 

2. การสร้าง Backlinks

  • คลิกที่ “…” ที่มุมขวาบนของหน้า
  • เลือก “Show backlinks” เพื่อดูว่ามีหน้าใดบ้างที่ลิงก์มาที่หน้านี้

 

3. การเชื่อมต่อฐานข้อมูล

  • สร้างความสัมพันธ์ระหว่างฐานข้อมูลด้วยคอลัมน์ประเภท “Relation”
  • ใช้ “Rollup” เพื่อแสดงข้อมูลจากฐานข้อมูลที่เชื่อมโยงกัน

 

การเชื่อมโยงข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยให้คุณสร้างระบบจัดการความรู้ที่เข้าถึงได้ง่ายและมีประสิทธิภาพ

 

 

ตัวอย่างการใช้งาน Notion ในชีวิตจริง

 

การวางแผนโปรเจกต์สำหรับฟรีแลนซ์

ฟรีแลนซ์กราฟิกดีไซเนอร์คนหนึ่งใช้ Notion จัดการลูกค้าและโปรเจกต์ทั้งหมดด้วยระบบดังนี้

 

ฐานข้อมูลลูกค้า – เก็บข้อมูลติดต่อ ประวัติการทำงาน และโน้ตสำคัญเกี่ยวกับลูกค้าแต่ละราย

ระบบติดตามโปรเจกต์ – ใช้มุมมองบอร์ด Kanban แบ่งงานตามสถานะ “รอดำเนินการ” “กำลังทำ” “รอฟีดแบค” และ “เสร็จสิ้น”

ฐานข้อมูลการเงิน – ติดตามค่าใช้จ่าย รายได้ ใบแจ้งหนี้ และใบเสร็จ พร้อมคำนวณรายได้รวมและภาษีอัตโนมัติ

แกลเลอรี่ผลงาน – จัดเก็บผลงานที่ทำเสร็จแล้วพร้อมคำอธิบาย เพื่อใช้อ้างอิงและนำเสนอลูกค้าใหม่

 

ระบบนี้ช่วยให้ฟรีแลนซ์สามารถติดตามงานทั้งหมดได้ในที่เดียว และมองเห็นภาพรวมของธุรกิจได้อย่างชัดเจน

 

การจัดการชีวิตประจำวัน เช่น Habit Tracker

คนทำงานที่สนใจการพัฒนาตนเองคนหนึ่งใช้ Notion เป็นเครื่องมือติดตามพฤติกรรมและเป้าหมายประจำวัน

 

Habit Tracker – สร้างฐานข้อมูลที่บันทึกพฤติกรรมที่ต้องการฝึกฝนในแต่ละวัน เช่น ออกกำลังกาย อ่านหนังสือ ดื่มน้ำ และมีมุมมองปฏิทินเพื่อดูความสม่ำเสมอ

วางแผนรายสัปดาห์ – หน้าที่มีตารางสำหรับวางแผนกิจกรรมแต่ละวัน พร้อมลิงก์ไปยังโปรเจกต์ที่เกี่ยวข้อง

การเงินส่วนบุคคล – ติดตามรายรับ-รายจ่าย งบประมาณ และเป้าหมายการออม พร้อมกราฟแสดงความคืบหน้า

บันทึกความคิดและไอเดีย – พื้นที่สำหรับจดบันทึกแนวคิด สิ่งที่เรียนรู้ และข้อคิดประจำวัน

Reading List – รายการหนังสือที่อยากอ่าน กำลังอ่าน และอ่านจบแล้ว พร้อมบันทึกสรุปและข้อคิดจากหนังสือแต่ละเล่ม

 

ระบบนี้ช่วยให้ผู้ใช้มีภาพรวมของชีวิตและเป้าหมาย ช่วยสร้างความรับผิดชอบต่อตนเอง และเห็นความก้าวหน้าในระยะยาว

 

 

สรุป

Notion เปรียบเสมือนกระดานวาดฝันดิจิทัลที่ไม่มีขอบเขตจำกัด เครื่องมือที่เริ่มต้นจากแนวคิดเรียบง่ายได้เติบโตกลายเป็นระบบนิเวศที่หลอมรวมความสามารถของแอปหลากหลายประเภทเข้าด้วยกัน จากอดีตที่เราต้องสลับไปมาระหว่างแอปจดโน้ต แอปจัดการงาน และเครื่องมือทำงานร่วมกัน Notion ได้สร้างพื้นที่ทำงานที่ทุกอย่างหลอมรวมอยู่ในที่เดียว

 

ในยุคที่ข้อมูลท่วมท้นและความสนใจกระจัดกระจาย Notion มอบโอกาสให้เราจัดระเบียบความคิด รวบรวมความรู้ และสร้างระบบที่ช่วยให้เราโฟกัสกับสิ่งสำคัญ ไม่ใช่แค่เครื่องมือดิจิทัลอีกหนึ่งตัว แต่เป็นวิธีคิดใหม่เกี่ยวกับการทำงานในโลกที่เต็มไปด้วยข้อมูลและการเชื่อมต่อ

 

ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ใช้ใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้น หรือผู้ใช้ที่ต้องการยกระดับทักษะการใช้งาน Notion เป็นเครื่องมือที่เติบโตไปพร้อมกับคุณ และมีศักยภาพที่จะเปลี่ยนวิธีที่คุณทำงาน เรียนรู้ และสร้างสรรค์ในยุคดิจิทัล

 

หากธุรกิจของคุณต้องการคำปรึกษาเกี่ยวกับการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาประยุกต์ใช้ สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของ Yes Web Design Studio ได้ เราเป็นบริษัทเว็บดีไซน์ชั้นนำในไทยที่ไม่เพียงรับทำเว็บไซต์ แต่ยังให้คำปรึกษาด้านการตลาดดิจิทัลและ AI Solution อย่างครบวงจร

 

 

 

 

Yes Web Design Studio
Tel. : 096-879-5445
LINE : @yeswebdesign
E-mail : [email protected]
Address : ชั้น 17 อาคารวิทยกิตติ์ ถนนพญาไท วังใหม่ ปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330 (สถานี BTS สยาม)

มีโปรเจกต์ในใจแล้วใช่ไหม ?