ธุรกิจ B2B ในปี 2025 กำลังเผชิญกับความท้าทายใหม่ที่เน้นทั้งความรวดเร็วและความแม่นยำในการเข้าถึงลูกค้า เทคโนโลยี AI จึงกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ทีมขายทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตั้งแต่การวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าไปจนถึงการสร้างข้อความสื่อสารที่ตอบโจทย์อย่างตรงจุด และยังกลายเป็นเครื่องมือจำเป็นที่ช่วยยกระดับทักษะทีมขาย เพิ่มยอดขาย และประหยัดเวลาได้อย่างชัดเจน บทความนี้จะนำเสนอ 12 เครื่องมือ AI ชั้นนำที่จะช่วยพลิกโฉมกระบวนการขาย B2B ของคุณให้ก้าวหน้าขึ้น
B2B คืออะไร?
B2B หรือ Business-to-Business คือ การค้าขายระหว่างธุรกิจกับธุรกิจ ซึ่งแตกต่างจาก B2C (Business-to-Consumer) ที่ขายให้กับลูกค้าทั่วไป การขาย B2B มักมีลักษณะพิเศษที่ต้องใช้กลยุทธ์และเครื่องมือที่แตกต่างออกไป ในยุคปัจจุบันธุรกิจรูปแบบนี้ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก การสร้างแพลตฟอร์มออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพและการใช้เทคโนโลยี AI จึงเป็นกุญแจสำคัญในการเข้าถึงลูกค้าธุรกิจ
อ่านบทความเพิ่มเติม : การตลาด B2B คืออะไร? แตกต่างจาก B2C และ B2B2C ยังไงบ้าง
ทำไมทีม B2B ควรใช้ AI Sales Tools?
ลดเวลางานซ้ำซ้อน
ทีมขาย B2B มักต้องเสียเวลากับงานธุรการที่ซ้ำซากจำเจ เช่น การค้นหาข้อมูลลูกค้า การเขียนอีเมลขาย หรือการติดตามผลลูกค้า AI จะช่วยทำงานพวกนี้แทนคุณ ทำให้มีเวลาไปโฟกัสกับการพูดคุยกับลูกค้าจริง ๆ มากขึ้น
วิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าและจัดลำดับลีด
แทนที่จะเดาว่าลูกค้าคนไหนมีโอกาสซื้อสูง AI จะช่วยวิเคราะห์จากข้อมูลต่าง ๆ เช่น การเปิดอีเมล การคลิกลิงก์ หรือการเข้าเว็บไซต์ เพื่อบอกว่าลีดไหนควรติดต่อก่อน ลีดไหนควรหยุดไว้ก่อน
เพิ่มประสิทธิภาพข้อความขาย
การเขียนอีเมลขายที่ดีไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ AI ช่วยให้คุณเขียนข้อความที่เข้าใจลูกค้าแต่ละคนได้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการปรับโทนเสียง การเลือกคำที่เหมาะสม หรือการสร้างหัวข้อที่น่าสนใจ
คาดการณ์แนวโน้มการขาย
AI ช่วยให้เห็นภาพอนาคตของยอดขายได้ชัดเจนขึ้น จากการวิเคราะห์แพทเทิร์นในอดีต ทำให้วางแผนกลยุทธ์การขาย จัดสรรทรัพยากร และตั้งเป้าหมายได้อย่างสมจริง
12 เครื่องมือ AI สำหรับฝ่ายขาย B2B ที่แนะนำในปี 2025
1. Cognism
Cognism เป็นเครื่องมือที่โดดเด่นด้วยข้อมูลลูกค้าที่แม่นยำผ่านเทคโนโลยี Diamond Data® ที่ช่วยให้ทีม outbound sales หาข้อมูล prospect ได้อย่างรวดเร็ว ฟีเจอร์ AI Search ช่วยค้นหาลูกค้าเป้าหมายได้แม่นยำ ส่วน Intent Data บอกได้ว่าบริษัทไหนกำลังมองหาผลิตภัณฑ์แบบคุณอยู่
กลุ่มเป้าหมาย : เหมาะกับทีมที่ทำ outbound sales เป็นหลัก และต้องการข้อมูลลูกค้าที่สดใหม่และแม่นยำ
Link : https://www.cognism.com/
2. Overloop AI
เครื่องมือที่เชี่ยวชาญการสร้างอีเมลแบบ personalized และระบบ multi-channel automation ที่เชื่อมต่อ email, LinkedIn และโทรศัพท์เข้าด้วยกัน AI จะช่วยปรับแต่งข้อความให้เข้ากับลูกค้าแต่ละคน และจัดการลำดับการติดต่อแบบอัตโนมัติ
กลุ่มเป้าหมาย : เหมาะสำหรับ SDR และ AE ที่ทำ cold outreach เป็นประจำ และต้องการระบบที่ดูแลลูกค้าได้หลายช่องทางพร้อมกัน
Link : https://overloop.com/
3. Salesforce Sales Cloud (Einstein)
Einstein AI ที่อยู่ในระบบ Salesforce ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลการขายด้วย predictive analytics และจัดการ pipeline ได้อย่างชาญฉลาด AI จะแนะนำว่าดีลไหนควรโฟกัส ลูกค้าไหนมีโอกาสซื้อสูง และเวลาไหนควรติดต่อ
กลุ่มเป้าหมาย : เหมาะกับทีมที่ใช้ Salesforce CRM อยู่แล้ว และต้องการเพิ่มความชาญฉลาดให้กับข้อมูลที่มีอยู่
Link : https://www.salesforce.com/th/?ir=1
4. Fireflies.ai
เครื่องมือจดบันทึกและสรุปประชุมอัตโนมัติที่จะช่วยให้คุณไม่พลาดรายละเอียดสำคัญจาก sales call หรือ client meeting AI จะแปลงเสียงเป็นข้อความ สรุปประเด็นสำคัญ และสร้าง action items ให้
กลุ่มเป้าหมาย : เหมาะกับทีมขายที่ทำงานผ่าน call หรือ meeting จำนวนมาก และต้องการติดตามรายละเอียดของการสนทนาแต่ละครั้ง
Link : https://fireflies.ai/
5. Gong
แพลตฟอร์มที่วิเคราะห์บทสนทนาการขายและให้ feedback coaching แบบ real-time AI จะฟังการโทรขายของคุณ วิเคราะห์ว่าส่วนไหนดี ส่วนไหนควรปรับปรุง และแนะนำเทคนิคการขายที่เหมาะสม
กลุ่มเป้าหมาย : เหมาะกับทีมขายที่เน้นการปรับปรุง performance และต้องการระบบ coaching ที่ช่วยพัฒนาทักษะการขาย
Link : https://www.gong.io/
6. Crystal Knows
เครื่องมือที่วิเคราะห์บุคลิกภาพของลูกค้าผ่านโปรไฟล์ LinkedIn และข้อมูลออนไลน์อื่นๆ เพื่อแนะนำวิธีการสื่อสารที่ตรงใจแต่ละคน AI จะบอกว่าลูกค้าคนนี้ชอบการสื่อสารแบบไหน ใช้คำแบบไหน และหลีกเลี่ยงอะไร
กลุ่มเป้าหมาย : เหมาะกับทีมที่ต้องการสร้าง rapport กับลูกค้าได้ดี และเน้นการสื่อสารแบบส่วนตัว
Link : https://www.crystalknows.com/
7. Lavender
ผู้ช่วยเขียนอีเมลขายที่ช่วยปรับปรุงข้อความของคุณให้ดูมืออาชีพและน่าสนใจมากขึ้น AI จะวิเคราะห์อีเมลที่คุณเขียน แนะนำการปรับปรุงหัวข้อ เนื้อหา และ call-to-action
กลุ่มเป้าหมาย : เหมาะกับทีมที่ต้องส่งอีเมลขายจำนวนมาก และต้องการให้อีเมลแต่ละฉบับมีคุณภาพสูง
Link : https://www.lavender.ai/
8. HubSpot Sales Hub
ระบบ CRM ที่มี AI ช่วยทำ lead scoring และ automation ต่างๆ AI จะช่วยประเมินคะแนนลีดตามพฤติกรรม จัดการงานขายแบบอัตโนมัติ และแนะนำขั้นตอนถัดไปที่ควรทำ
กลุ่มเป้าหมาย : เหมาะกับธุรกิจที่ต้องการระบบครบวงจร ตั้งแต่การจัดการลีดไปจนถึงการปิดการขาย
Link : https://www.hubspot.com/products/sales
9. Copy.ai
เครื่องมือเขียน content ด้วย AI ที่เชี่ยวชาญการสร้าง cold message, sales script และ LinkedIn outreach AI จะช่วยเขียนข้อความขายที่น่าสนใจ ปรับแต่งตามกลุ่มเป้าหมาย และสร้างหลายเวอร์ชั่นให้เลือกใช้
กลุ่มเป้าหมาย : เหมาะกับทีมที่ต้องสร้าง content การขายจำนวนมาก และต้องการความหลากหลายในการสื่อสาร
Link : https://www.copy.ai/
10. InsightSquared
แพลตฟอร์มวิเคราะห์ performance และคาดการณ์รายได้ของทีมขาย AI จะวิเคราะห์ข้อมูลการขายในอดีต คาดการณ์แนวโน้มอนาคต และแนะนำกลยุทธ์ที่จะช่วยให้บรรลุเป้าหมาย
กลุ่มเป้าหมาย : เหมาะกับผู้จัดการทีมขายที่ต้องการข้อมูลเชิงลึกเพื่อการตัดสินใจและการวางแผนกลยุทธ์
Link : https://www.insightsquared.com/
11. Cirrus Insight
เครื่องมือที่ผสานระบบ Email และ CRM เข้าด้วยกัน ช่วยให้เห็นข้อมูลลูกค้าแบบ real-time ขณะเขียนอีเมล AI จะแนะนำข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ติดตามการเปิดอีเมล และจัดการงานขายได้จากใน inbox
กลุ่มเป้าหมาย : เหมาะกับทีมที่ทำงานผ่านอีเมลเป็นหลัก และต้องการข้อมูลลูกค้าที่ครบถ้วนในที่เดียว
Link : https://www.cirrusinsight.com/
12. Ringover
ระบบโทรศัพท์ AI สำหรับ outbound call ที่มีฟีเจอร์ call recording และ coaching AI จะวิเคราะห์คุณภาพการโทร แนะนำการปรับปรุง และช่วยจัดการรายชื่อลูกค้าที่ต้องโทรติดตาม
กลุ่มเป้าหมาย : เหมาะกับทีมที่ทำ outbound call เป็นหลัก และต้องการปรับปรุงคุณภาพการสื่อสารทางโทรศัพท์
Link : https://www.ringover.com/
วิธีเลือก AI Sales Tools ที่เหมาะกับธุรกิจของคุณ
ระบุเป้าหมายหลักของทีมขาย
ก่อนเลือกเครื่องมือไหน ให้คิดก่อนว่าทีมของคุณต้องการแก้ปัญหาอะไรมากที่สุด หากปัญหาคือการหาลูกค้าใหม่ ให้เลือกเครื่องมือที่เก่งด้าน prospecting หากปัญหาคือการปิดการขาย ให้เลือกเครื่องมือที่ช่วยวิเคราะห์และปรับปรุงกระบวนการขาย
พิจารณาขนาดและระดับความซับซ้อนของทีม
ทีมเล็กอาจเหมาะกับเครื่องมือที่ใช้งานง่ายและราคาไม่แพง ส่วนทีมใหญ่อาจต้องการเครื่องมือที่มีฟีเจอร์ครบครันและรองรับการทำงานหลายคน เครื่องมือบางตัวเหมาะกับ startup บางตัวเหมาะกับ enterprise
ตรวจสอบการเชื่อมต่อกับระบบ CRM เดิม
เครื่องมือ AI ที่ดีควรเชื่อมต่อกับ CRM ที่คุณใช้อยู่ได้อย่างราบรื่น หากเชื่อมต่อไม่ได้ คุณอาจต้องเปลี่ยนระบบทั้งหมด หรือทำงานซ้ำซ้อน ซึ่งจะทำให้เสียประโยชน์ของ AI ไป
วางแผนงบประมาณและคำนวณ ROI
เครื่องมือ AI มีราคาต่างกันมาก ตั้งแต่หลักร้อยจนถึงหลักหมื่นต่อเดือน ให้คิดว่าเครื่องมือนั้นจะช่วยประหยัดเวลาหรือเพิ่มยอดขายได้เท่าไหร่ และเปรียบเทียบกับค่าใช้จ่าย หากคุ้มค่า ก็เริ่มต้นจากเครื่องมือที่จำเป็นที่สุดก่อน
สรุป
เครื่องมือ AI สำหรับการขาย B2B ในปี 2025 มีให้เลือกหลากหลาย โดยแต่ละเครื่องมือล้วนมีจุดแข็งและการใช้งานที่แตกต่างกัน การเลือกใช้งานจึงควรอิงจากความต้องการเฉพาะขององค์กร ขนาดของทีมขาย และงบประมาณที่มีอยู่
สิ่งสำคัญคือการเริ่มต้นจากปัญหาหลักที่ต้องการแก้ไข แล้วค่อยขยายการใช้งานไปยังเครื่องมืออื่นเมื่อทีมมีความพร้อม การลงทุนในเครื่องมือ AI ตั้งแต่วันนี้ คือการวางรากฐานให้กับอนาคตของงานขาย B2B ที่เน้นการแข่งขันด้วยความชาญฉลาด ความแม่นยำ และการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ มากกว่าการพึ่งพาแรงงานเพียงอย่างเดียว
หากคุณกำลังมองหาผู้ช่วยมืออาชีพในการพัฒนาเว็บไซต์ รับทำการตลาดออนไลน์ครบวงจร หรือขยายธุรกิจด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ Yes Web Design Studio พร้อมให้บริการแบบครบวงจร ทั้งการออกแบบเว็บไซต์ รับทำ SEO โฆษณาออนไลน์ และการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ยั่งยืน
นอกจากนี้ หากคุณสนใจการนำ AI มาประยุกต์ใช้ในการทำตลาดออนไลน์ การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก หรืออยากเรียนรู้เครื่องมือ AI ที่เหมาะกับสายงาน Dev, Marketing หรือ Business Development อย่าพลาดติดตาม Yes AI แพลตฟอร์มที่คัดสรรเนื้อหาคุณภาพเกี่ยวกับเทคโนโลยีและการตลาดอนาคตสำหรับคนรักนวัตกรรมโดยเฉพาะ
Yes Web Design Studio
Tel. : 096-879-5445
LINE : @yeswebdesign
E-mail : [email protected]
Address : ชั้น 17 อาคารวิทยกิตติ์ ถนนพญาไท วังใหม่ ปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330 (สถานี BTS สยาม)