แนะนำ Quillbot เครื่องมือช่วยงานเขียนสุดเทพ พร้อมวิธีใช้งาน

บทความโดย Yes Web Design Studio

แนะนำ Quillbot เครื่องมือช่วยงานเขียนสุดเทพ พร้อมวิธีใช้งาน
Table of Contents

โลกของการเขียนเปลี่ยนไปอย่างมากเมื่อเทคโนโลยี AI เข้ามามีบทบาท และหนึ่งในเครื่องมือที่นักเขียนหลายคนหันมาใช้คือ Quillbot เครื่องมือที่ช่วยเติมเต็มช่องว่างระหว่างความคิดสร้างสรรค์และการเขียนที่ทรงพลัง มาทำความรู้จักกับ Quillbot ว่าจะช่วยยกระดับงานเขียนของคุณได้อย่างไรบ้าง

 

 

Quillbot คืออะไร?

Quillbot คือเครื่องมือ AI ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยงานเขียนภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะการปรับเปลี่ยนประโยคให้มีความหลากหลายโดยยังคงความหมายเดิมไว้ (Paraphrasing) ด้วยการใช้เทคโนโลยี Natural Language Processing (NLP) โดยเครื่องมือนี้สามารถวิเคราะห์และแปลงข้อความให้เป็นรูปแบบใหม่ที่ยังคงเนื้อหาสำคัญไว้ได้ครบถ้วน

 

จุดเด่นของเครื่องมือนี้คือความสามารถในการเข้าใจบริบทของประโยคและปรับเปลี่ยนโดยไม่เสียความหมาย ต่างจากเครื่องมือดั้งเดิมที่เพียงแค่แทนที่คำด้วยคำที่เป็นคำไวพจน์แบบง่าย ๆ ซึ่งสามารถใช้ได้ในหลายด้านและเหมาะกับคนหลายกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น นักเรียนหรือนักศึกษาที่ต้องการปรับปรุงรายงานและวิทยานิพนธ์ นักเขียนที่ต้องการหลีกเลี่ยงการใช้คำซ้ำในบทความ นักการตลาดที่ต้องการสร้างเนื้อหาจำนวนมาก และผู้ที่ต้องการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ

 

 

เปรียบเทียบ Quillbot กับเครื่องมืออื่น

 

Quillbot vs. Spinbot

เครื่องมือนี้มีความสามารถในการปรับเปลี่ยนประโยคด้วยโมเดล AI ที่เข้าใจบริบทและความหมาย ทำให้สามารถรักษาแก่นความคิดเดิมไว้ได้แม้จะเปลี่ยนโครงสร้างประโยคไปอย่างสิ้นเชิง ขณะที่ Spinbot มักจะแค่แทนที่คำด้วยคำพ้องความหมายอย่างง่าย ๆ จนบางครั้งทำให้ประโยคขาดความลื่นไหล

 

Quillbot vs. Grammarly

ในด้านการตรวจไวยากรณ์ Grammarly ยังคงครองตำแหน่งผู้นำด้วยความแม่นยำและคำแนะนำที่ละเอียด ครอบคลุมทั้งไวยากรณ์ การสะกดคำ และการใช้เครื่องหมายวรรคตอน รวมถึงการวิเคราะห์โทนและสไตล์การเขียน Quillbot แม้จะมีฟีเจอร์ตรวจไวยากรณ์ แต่ยังไม่ละเอียดเท่า Grammarly โดยเฉพาะในแผนฟรี

 

Quillbot vs. ChatGPT

ChatGPT แตกต่างจากทั้งสามเครื่องมือข้างต้นเพราะเป็น AI ช่วยเขียนบทความที่สามารถสร้างเนื้อหาจากศูนย์ได้ ขณะที่ Quillbot ถูกออกแบบมาเพื่อปรับแต่งเนื้อหาที่มีอยู่แล้ว ChatGPT มีความยืดหยุ่นสูงกว่าในการสร้างเนื้อหาหลากหลายรูปแบบ แต่ขาดฟีเจอร์เฉพาะทางอย่างการตรวจการลอกเลียนหรือการสร้างการอ้างอิงทางวิชาการ

 

โดยสรุป การเลือกเครื่องมือขึ้นอยู่กับเป้าหมายการใช้งาน หากต้องการปรับแต่งเนื้อหาที่มีอยู่แล้วให้สดใหม่ Quillbot คือตัวเลือกที่เหมาะสม หากเน้นความถูกต้องทางไวยากรณ์ Grammarly ยังคงเป็นผู้นำ และหากต้องการสร้างเนื้อหาใหม่ทั้งหมด ChatGPT จะตอบโจทย์ได้ดีกว่า นักเขียนมืออาชีพมักผสมผสานเครื่องมือหลายตัวเข้าด้วยกันเพื่อได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

 

 

ฟีเจอร์หลักของ Quillbot ที่คุณควรรู้

 

ฟีเจอร์หลักของ Quillbot - Paraphraser

 

หัวใจหลักของ Quillbot คือระบบ Paraphraser ที่ช่วยปรับแต่งข้อความให้มีความสดใหม่โดยไม่เสียความหมายเดิม คุณสามารถเลือกรูปแบบการปรับเปลี่ยนได้หลายแบบ

 

Standard Mode : รักษาสมดุลระหว่างการเปลี่ยนแปลงและความหมายเดิม

 

Fluency Mode : เน้นความลื่นไหลทางภาษา

 

Formal Mode : ปรับให้เป็นภาษาทางการ

 

Simple Mode : ทำให้ข้อความเข้าใจง่ายขึ้น

 

Creative Mode : เพิ่มความสร้างสรรค์ในการใช้ภาษา

 

Expand Mode : ขยายความให้มีรายละเอียดมากขึ้น

 

Shorten Mode : ย่อความให้กระชับ

 

Standard Mode และ Fluency Mode สามารถใช้ได้ในแผนฟรี

 

Grammar Checker

 

ฟีเจอร์หลักของ Quillbot - Grammar Checker

 

ฟีเจอร์ช่วยตรวจสอบไวยากรณ์และการสะกดคำ ซึ่งจะช่วยให้งานเขียนของคุณปราศจากข้อผิดพลาดทางภาษา โดยระบบจะตรวจจับและแนะนำการแก้ไขสำหรับ

  • การใช้เครื่องหมายวรรคตอนที่ไม่ถูกต้อง
  • ประโยคที่ไม่สมบูรณ์
  • ข้อผิดพลาดในการสะกดคำ
  • การใช้คำที่ไม่เหมาะสมกับบริบท

 

Summarizer

 

ฟีเจอร์หลักของ Quillbot - Summarizer

 

เครื่องมือช่วยย่อความที่สามารถสรุปข้อความยาว ๆ ให้กระชับ โดยมีสองรูปแบบ

 

Key Sentences : ดึงประโยคสำคัญจากเนื้อหาเดิม

 

Paragraph : สร้างย่อหน้าใหม่ที่สรุปใจความสำคัญทั้งหมด

 

คุณสามารถปรับความยาวของบทสรุปได้ตามต้องการ ทำให้การอ่านเอกสารยาว ๆ เป็นเรื่องง่าย

 

Translator

 

ฟีเจอร์หลักของ Quillbot - Translator

 

Quillbot มีฟีเจอร์แปลภาษาที่รองรับหลายภาษา แม้จะไม่หลากหลายเท่า Google Translate แต่ข้อดีคือสามารถปรับแต่งประโยคหลังจากแปลได้ทันที ช่วยให้การแปลมีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น

 

Plagiarism Checker

 

ฟีเจอร์หลักของ Quillbot - Plagiarism Checker

 

ฟีเจอร์สำหรับผู้ใช้แผนพรีเมียมที่จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่างานเขียนของคุณมีความเป็นต้นฉบับ โดยระบบจะเปรียบเทียบเนื้อหากับฐานข้อมูลขนาดใหญ่และระบุส่วนที่อาจมีความคล้ายคลึงกับแหล่งอื่นหรือไม่ ซึ่งมีประโยชน์มากสำหรับนักเรียน นักศึกษา และนักวิชาการ 

 

AI Detector

 

ฟีเจอร์หลักของ Quillbot - AI Detector

 

ฟีเจอร์นี้สามารถตรวจจับเนื้อหาที่เขียนโดย AI ซึ่งช่วยให้คุณสามารถตรวจสอบว่าข้อความนั้นเขียนโดยมนุษย์หรือโดย AI เช่น ChatGPT ประโยชน์หลักคือการตรวจสอบความน่าเชื่อถือของเนื้อหาและหลีกเลี่ยงปัญหาการใช้ AI ในบริบทที่ไม่อนุญาต

 

Citation Generator

 

ฟีเจอร์หลักของ Quillbot - Citation Generator

 

ระบบสร้างการอ้างอิงทางวิชาการอัตโนมัติในรูปแบบต่าง ๆ เช่น APA, MLA, Chicago และอื่น ๆ เพียงป้อนข้อมูลแหล่งที่มา เช่น URL, DOI หรือค้นหาจากชื่อบทความ ระบบจะสร้างรูปแบบการอ้างอิงที่ถูกต้องให้โดยอัตโนมัติ

 

Quillbot Flow

 

ฟีเจอร์หลักของ Quillbot - Quillbot Flow

 

ฟีเจอร์ล่าสุดที่รวมทุกเครื่องมือเข้าด้วยกันในกระบวนการทำงานแบบไหลลื่น ช่วยให้คุณสามารถเขียน ปรับแต่ง ตรวจสอบ และแก้ไขเนื้อหาทั้งหมดในที่เดียว นับเป็นการยกระดับประสบการณ์การใช้งานให้สะดวกยิ่งขึ้น

 

 

วิธีใช้งาน Quillbot เบื้องต้น

 

วิธีสมัครใช้งาน Quillbot ฟรี

  1. เข้าไปที่เว็บไซต์ Quillbot.com
  2. คลิกที่ปุ่ม “Sign Up” ที่มุมขวาบน
  3. เลือกวิธีการลงทะเบียน : อีเมล Google หรือ Facebook
  4. กรอกข้อมูลส่วนตัวและยืนยันอีเมล
  5. สามารถใช้งานฟีเจอร์พื้นฐานได้ทันทีเมื่อลงทะเบียนเสร็จ

 

ข้อจำกัดในแผนฟรี

  • จำนวนคำในการปรับเปลี่ยนประโยคไม่เกิน 700 คำต่อครั้ง
  • สามารถใช้ได้เพียง 2 โหมด (Standard และ Fluency)
  • จำกัดจำนวนครั้งในการใช้งาน Summarizer

 

วิธีใช้ Paraphraser ในการปรับประโยค

  1. หลังจากลงชื่อเข้าใช้ เลือกแท็บ “Paraphraser”
  2. คัดลอกหรือพิมพ์ข้อความที่ต้องการปรับแต่งลงในช่องด้านซ้าย
  3. เลือกโหมดที่ต้องการ (Standard, Fluency, Formal, etc.)
  4. ปรับความเข้มข้นในการปรับเปลี่ยน (ยิ่งสูงยิ่งแตกต่างจากต้นฉบับ)
  5. คลิก “Paraphrase” และรอผลลัพธ์ที่ปรากฏในช่องด้านขวา
  6. คุณสามารถคลิกที่คำต่าง ๆ เพื่อดูทางเลือกอื่นและปรับแต่งเพิ่มเติมได้

 

การใช้งานผ่าน Extension หรือ Add-on

เครื่องมือนี้มี Extension สำหรับ Chrome และ Firefox และ Add-on สำหรับ Microsoft Word ที่ช่วยให้คุณใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น

 

การติดตั้ง Chrome Extension

  1. ไปที่ Chrome Web Store และค้นหา “Quillbot”
  2. คลิก “Add to Chrome” และยืนยันการติดตั้ง
  3. หลังจากติดตั้ง คุณจะเห็นไอคอน Quillbot บน toolbar

 

วิธีใช้งาน Extension

  1. เลือกข้อความที่ต้องการปรับแต่งบนเว็บไซต์ใดก็ได้
  2. คลิกขวาและเลือก “Quillbot” จากเมนู
  3. เลือกฟีเจอร์ที่ต้องการใช้ เช่น Paraphrase, Summarize
  4. ผลลัพธ์จะปรากฏใน popup และคุณสามารถนำไปใช้ได้ทันที

 

ข้อดีของการใช้ Extension คือความสะดวกในการทำงานบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ โดยไม่ต้องสลับไปมาระหว่างเว็บไซต์

 

 

แผนราคาและฟีเจอร์พรีเมียม

Quillbot มีแผนการใช้งานหลัก ๆ ดังนี้

 

แผนฟรี

  • ปรับเปลี่ยนประโยคได้ไม่เกิน 125 คำต่อครั้ง
  • ใช้ได้ 2 โหมด (Standard และ Fluency)
  • ตรวจไวยากรณ์ขั้นพื้นฐาน
  • สรุปบทความได้ระดับพื้นฐาน
  • ใช้ฟีเจอร์ AI Detector ได้จำนวน 1,200 คำ
  • ไม่มีฟีเจอร์ตรวจการลอกเลียน

 

แผนพรีเมียม (149.99 บาทต่อเดือน)

  • ปรับเปลี่ยนประโยคไม่จำกัดจำนวนคำ
  • ใช้ได้ทุกโหมดระดับภาษา
  • ตรวจไวยากรณ์ขั้นสูง
  • สามารถสร้างรูปแบบในการสรุปบทความได้
  • ใช้ฟีเจอร์ AI Detector ได้ไม่จำกัดจำนวนคำ
  • ตรวจไวยากรณ์ขั้นสูง
  • สรุปบทความไม่จำกัดจำนวนครั้ง
  • ตรวจการลอกเลียนเนื้อหา 25,000 คำต่อเดือน

 

 

ข้อดี-ข้อเสียของ Quillbot ที่ควรรู้

ข้อดี

  1. ความแม่นยำ : ปรับเปลี่ยนประโยคโดยรักษาความหมายเดิมได้ดี
  2. หลากหลายรูปแบบ : มีโหมดต่าง ๆ ให้เลือกตามวัตถุประสงค์การใช้งาน
  3. ใช้งานง่าย : มีอินเทอร์เฟซที่เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน
  4. ครบวงจร : มีเครื่องมือครอบคลุมตั้งแต่การเขียน แก้ไข ตรวจสอบ และอ้างอิง
  5. มี Extension : สามารถใช้งานบนเว็บไซต์และแอปพลิเคชันต่าง ๆ ได้สะดวก

 

ข้อเสีย

  1. ข้อจำกัดในแผนฟรี : ฟีเจอร์ที่เป็นประโยชน์ส่วนใหญ่อยู่ในแผนพรีเมียม
  2. ราคาค่อนข้างสูง : เมื่อเทียบกับเครื่องมือบางตัวในท้องตลาด
  3. ภาษาไทยยังไม่สมบูรณ์ : การปรับเปลี่ยนประโยคภาษาไทยยังไม่เก่งเท่าภาษาอังกฤษ
  4. ต้องมีอินเทอร์เน็ต : ไม่สามารถใช้งานแบบออฟไลน์ได้
  5. ข้อจำกัดด้านความคิดสร้างสรรค์ : บางครั้งผลลัพธ์อาจดูเป็นสูตรสำเร็จมากเกินไป

 

 

Quillbot กับการทำ SEO และคอนเทนต์มาร์เก็ตติ้ง

เครื่องมือนี้สามารถเป็นเครื่องมือทรงพลังสำหรับนักการตลาดเนื้อหาและผู้ทำ SEO ด้วยวิธีการต่อไปนี้

 

การนำ Quillbot มาช่วยเขียนบทความ SEO

  1. ปรับแต่งเนื้อหาให้ไม่ซ้ำใคร : แม้จะได้แรงบันดาลใจหรือข้อมูลจากแหล่งอื่น Quillbot ช่วยปรับแต่งให้เป็นเอกลักษณ์ของคุณเอง
  2. ปรับปรุงความอ่านง่าย : ใช้โหมด Simple เพื่อทำให้เนื้อหาเข้าใจง่ายขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการจัดอันดับ SEO
  3. สร้างเมตาดาต้าที่หลากหลาย : ใช้ในการสร้าง Title, Meta Description ที่หลากหลายสำหรับหน้าเว็บต่าง ๆ
  4. ปรับแต่งเนื้อหาเก่า : นำบทความเก่ามาปรับปรุงใหม่โดยไม่ต้องเขียนจากศูนย์
  5. สร้าง Snippet และ Featured Answer : ใช้ Summarizer เพื่อสร้างคำตอบสั้น ๆ ที่มีโอกาสปรากฏเป็น Featured Snippet บน Google

 

ใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่นอย่างมีประสิทธิภาพ

การผสมผสานเครื่องมือจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพงานคอนเทนต์

 

Quillbot + ChatGPT

  • ใช้ ChatGPT สร้างเนื้อหาเบื้องต้นหรือโครงร่าง
  • นำไปปรับแต่งด้วย Quillbot ให้มีความเป็นเอกลักษณ์มากขึ้น
  • ใช้ AI Detector ของ Quillbot ตรวจสอบว่าเนื้อหายังคงมีลักษณะเหมือนเขียนโดยมนุษย์

 

Quillbot + Grammarly

  • เขียนและปรับเปลี่ยนประโยคด้วย Quillbot
  • ใช้ Grammarly ตรวจสอบไวยากรณ์และการสะกดคำอย่างละเอียด
  • ใช้คำแนะนำด้านสไตล์ของ Grammarly เพื่อปรับปรุงเพิ่มเติม

 

Quillbot + Google Keyword Planner

  • ค้นหาคีย์เวิร์ดเป้าหมายด้วย Google Keyword Planner
  • เขียนเนื้อหาที่มีคีย์เวิร์ดเหล่านั้น
  • ใช้ Quillbot ปรับแต่งให้คีย์เวิร์ดผสมผสานอย่างเป็นธรรมชาติ

 

ข้อควรระวัง

  • อย่าพึ่งพา AI มากเกินไป ควรตรวจสอบผลลัพธ์ด้วยตัวเอง
  • คำนึงถึงความต้องการของผู้อ่านเป็นหลัก ไม่ใช่แค่เพื่อ SEO
  • เนื้อหาที่มีคุณค่าและเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่สุด

 

 

สรุป

Quillbot เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับทุกคนที่ต้องการยกระดับงานเขียน ด้วยฟีเจอร์ที่ครอบคลุมตั้งแต่การปรับเปลี่ยนประโยค การตรวจไวยากรณ์ การสรุปความ ไปจนถึงการตรวจการลอกเลียนและการสร้างการอ้างอิงที่ทำให้ Quillbot เป็นผู้ช่วยที่ดีในการสร้างสรรค์เนื้อหาที่มีคุณภาพ

 

หากคุณเป็นครีเอเตอร์ นักธุรกิจ หรือแบรนด์ที่ต้องการสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ การสร้างคอนเทนต์และการออกแบบเว็บไซต์ที่มีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญ หากคุณต้องการเว็บไซต์ที่สวยงาม ใช้งานง่าย หรือต้องการคอนเทนต์ที่เป็นมิตรกับ SEO สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของ Yes Web Design Studio ได้เลย เราเป็นบริษัทเว็บดีไซน์แนวหน้าในไทย ที่รับทำเว็บไซต์ครบวงจร รวมถึง SEO และการตลาดออนไลน์ เพื่อช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

 

 

 

Yes Web Design Studio
Tel. : 096-879-5445
LINE : @yeswebdesign
E-mail : [email protected]
Address : ชั้น 17 อาคารวิทยกิตติ์ ถนนพญาไท วังใหม่ ปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330 (สถานี BTS สยาม)

มีโปรเจกต์ในใจแล้วใช่ไหม ?