SEO คืออะไร? พร้อมวิธีการทำ SEO ให้ติดหน้าแรก! ในปี 2025

บทความโดย Yes Web Design Studio

SEO คืออะไร

หากคุณมีเว็บไซต์และต้องการให้คนค้นหาเจอบน Google คงไม่พ้นเรื่องการทำ SEO หรือ Search Engine Optimization ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยเพิ่มยอดการเข้าชมเว็บไซต์ โดยไม่ต้องเสียเงินค่าโฆษณา ทำให้ธุรกิจของคุณมีโอกาสติดหน้าแรกของ Google ได้ง่ายขึ้น และบทความนี้ Yes เราจะช่วยให้คุณเข้าใจว่าการทำ SEO คืออะไร ตั้งแต่พื้นฐานจนถึงเทคนิคสำคัญในปี 2025 ครับ

ทำความรู้จักกับ SEO คืออะไร

SEO คืออะไร

SEO หรือ Search Engine Optimization คือกระบวนการเพิ่มประสิทธิภาพของเว็บไซต์ที่จะให้การค้นหาสามารถติดอันดับสูงในผลการค้นหาของ Google รวมถึงเครื่องมือค้นหาอื่น ๆ SEO ยังคงเป็นหัวใจสำคัญของการตลาดดิจิทัล เพราะจะช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยที่ไม่ต้องพึ่งพาการโฆษณาแบบเสียค่าใช้จ่ายมากเกินไป

และ SEO ยังคงเป็นสิ่งจำเป็นในปี 2025 เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคได้เปลี่ยนไปสู่โลกออนไลน์มากขึ้น ดังนั้นการปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของ Google Algorithm และการใช้เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการเอาชนะคู่แข่งกลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้

 

ประเภทของ SEO 

  1. On-Page SEO – การปรับแต่งเนื้อหา คีย์เวิร์ด เมตาแท็ก และโครงสร้างของเว็บไซต์ให้เหมาะสมกับการค้นหา
  2. Off-Page SEO – การสร้างลิงก์ย้อนกลับ (Backlink) และการเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ผ่านการแชร์เนื้อหาและโซเชียลมีเดีย
  3. Technical SEO – การเพิ่มประสิทธิภาพด้านเทคนิคของเว็บไซต์ เช่น ความเร็วในการโหลด ความปลอดภัย และ Mobile-Friendliness

 

 

 

ความสัมพันธ์และวิธีการทำงานของ SEO และ Google

การทำงานของ Google Algorithm

Google จะใช้อัลกอริธึมที่ซับซ้อนเพื่อจัดอันดับเว็บไซต์ ได้แก่การรวบรวมข้อมูล การจัดทำดัชนี และการจัดอันดับ เพื่อแสดงผลลัพธ์ที่ดีที่สุดให้แก่ผู้ใช้

  • การเก็บข้อมูล (Crawling) – Google จะใช้โปรแกรมที่เรียกว่า Googlebot ในการสำรวจเว็บไซต์ โดยจะเข้าไปอ่านหน้าเว็บ รวบรวมข้อมูล และติดตามลิงก์ต่าง ๆ เพื่อค้นหาคอนเทนต์ใหม่ ๆ
  • การจัดเก็บข้อมูล (Indexing) – หลังจาก Googlebot เก็บข้อมูลจากหน้าเว็บแล้ว ก็จะนำข้อมูลไปจัดเก็บในฐานข้อมูลที่เรียกว่า Google Index ซึ่งประกอบด้วยข้อมูลของเว็บไซต์ทั้งหมดที่ Google ค้นพบ
  • การจัดอันดับ (Ranking) – เมื่อมีผู้ใช้ค้นหาข้อมูลใดก็ตาม Google ก็จะใช้ Algorithm เพื่อวิเคราะห์คำค้นหา และดึงเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องมากที่สุดออกมาแสดง โดยคำนึงถึงปัจจัยหลายอย่าง เช่น คุณภาพเนื้อหาที่จะต้องให้ประโยชน์กับผู้ใช้จริง ความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ ความเร็วของเว็บไซต์ เว็บไซต์รองรับการใช้งานบนมือถือหรือไม่ ไปจนถึงประสบการณ์ของผู้ใช้

การทำงานของ Google Crawling

รูปภาพจาก: seobility

 

 

ความสำคัญของคีย์เวิร์ด (Keywords) ใน SEO

การเลือกใช้คีย์เวิร์ดที่เหมาะสมเป็นหัวใจสำคัญของ SEO ซึ่งควรเลือกคีย์เวิร์ดที่มีปริมาณการค้นหาสูงและมีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจ นอกจากนี้การใช้คีย์เวิร์ดอย่างเป็นธรรมชาติและเหมาะสมในเนื้อหา ก็จะยิ่งช่วยให้เว็บไซต์ของคุณมีอันดับที่ดีขึ้นได้

 

 

 

ขั้นตอนการทำ SEO ต้องทำยังไงให้ติดหน้าแรกบน Google Search

 SEO เป็นสิ่งที่ช่วยทำให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับในผลการค้นหาของ Google รวมถึงเครื่องมือค้นหาอื่น ๆ โดยเน้นที่คุณภาพของเนื้อหา โครงสร้างเว็บไซต์ ไปจนถึงการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้งาน ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Google จะพิจารณาให้เว็บไซต์ของคุณอยู่ในอันดับที่สูงขึ้น

การปรับแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับสูงในผลการค้นหาของ Google และเครื่องมือค้นหาอื่น ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าพบเจอธุรกิจของคุณ โดยมีองค์ประกอบสำคัญดังนี้

1. การวิจัยคีย์เวิร์ด (Keyword Research)

ค้นหาคำที่กลุ่มเป้าหมายใช้ค้นหาสินค้า หรือบริการของคุณ ด้วยการใช้เครื่องมือช่วย เช่น Google Keyword Planner, Ahrefs หรือ SEMrush โดยมีเทคนิคคือการเลือกคีย์เวิร์ดที่มีปริมาณการค้นหาสูงแต่การแข่งขันไม่สูงเกินไป

2. การปรับแต่งหน้าเว็บ (On-Page SEO)

สร้าง Title Tag ด้วยการใส่คีย์เวิร์ดหลักใน 60 ตัวอักษรแรก เขียน Meta Description ที่น่าสนใจภายใน 155 ตัวอักษร จัดโครงสร้าง จัดโครงสร้างเนื้อหาด้วยหัวข้อที่มีคีย์เวิร์ด เช่น H1, H2, หรือ H3 และสร้าง URL ที่สั้น เข้าใจง่าย และมีคีย์เวิร์ด

3. เนื้อหาคุณภาพสูง (Quality Content)

สร้างคอนเทนต์ ที่มีความยาว 1,000 คำขึ้นไป โดยต้องเป็นคอนเทนต์ที่มีประโยชน์ต่อผู้อ่าน และสามารถเพิ่มความน่าสนใจให้คอนเทนต์ได้ด้วยการใช้ภาพประกอบ วิดีโอ หรืออินโฟกราฟิก

4. การสร้างลิงก์ (Link Building)

หาเว็บไซต์ที่มีคุณภาพสูงให้ลิงก์มายังเว็บคุณ และเชื่อมโยงหน้าเว็บภายในเว็บไซต์ของคุณเอง ด้วยการสร้างเนื้อหาแบบ guest posts แหล่งอ้างอิง หรืองานวิจัย

5. การปรับแต่งเทคนิค (Technical SEO)

เพิ่มความเร็วในการโหลดเว็บไซต์ให้ต่ำกว่า 3 วินาที และทำให้เว็บรองรับการใช้งานบนมือถือ

 

แนวโน้มการพัฒนา SEO ในอนาคต

ตลอดเวลาที่ผ่านมาทาง Google มีการอัปเดตฟีเจอร์ และ Algorithm เพื่อพัฒนาแนวทางใหม่ ๆ อยู่เสมอไม่ว่าจะเป็น การค้นหาด้วยเสียง (Voice Search) การให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของผู้ใช้ (UX) หรืออย่างปีที่ผ่านมาก็ได้มีการอัปเดตการทำคอนเทนต์ตามหลัก E-E-A-T  และในปี 2025 นี่เองทางGoogle ก็ได้เริ่มผลักดันฟีเจอร์ AI Overview ซึ่งเป็นการนำ AI มาผสมผสานเข้ากับการค้นหาในหน้ากูเกิ้ล  ทำให้ล่าสุดนี้มีการทำ SEO ร่วมกับ AI ถูกเพิ่มเข้ามา โดยเรียกว่าการทำ Generative Engine Optimization หรือการทำ GEO ทำให้ในอานาคตค่อนข้างชัดเจนแล้วว่า AI จะเข้ามามีบทบาทกับ SEO มากขึ้นนั้นเอง

 

อ่านเพิ่มเติม: GEO คืออะไร

 

 

สำหรับ ธุรกิจที่สนใจ SEO หรือ SEO Specialist ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง

สำหรับธุรกิจหรือ SEO Specialist ที่ต้องการประสบความสำเร็จในการทำ SEO จำเป็นต้อง ปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของการค้นหา โดยเฉพาะการนำ AI มาช่วยเสริมประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็น การสร้างคอนเทนต์ที่ตรงกับหลักเกณฑ์ใหม่ ๆ ของ Google, การปรับแต่งเว็บไซต์ให้เหมาะกับ AI Overview และการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกด้วย AI เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในยุคที่ SEO และ AI เริ่มรวมกันเป็นหนึ่ง ทำให้การทำ GEO (Generative Engine Optimization)

 

 

 

ทำไมธุรกิจต้องใส่ใจ SEO ในปี 2025?

 

ในยุคที่การแข่งขันทางดิจิทัลสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง SEO ได้กลายเป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจเติบโตและยังสร้างความได้เปรียบเหนือคู่แข่งได้ แม้ว่าจะมีแพลตฟอร์มโฆษณาและโซเชียลมีเดียเข้ามามีบทบาทมากขึ้น แต่ SEO ก็ยังคงเป็นรากฐานสำคัญของการทำการตลาดออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2025 ที่พฤติกรรมผู้บริโภคพึ่งพา Google ในการค้นหาข้อมูลและตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการเป็นหลัก 

  • EEAT คือสิ่งสำคัญ: Google ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ อำนาจ และความน่าเชื่อถือของผู้เขียนมากขึ้นเรื่อยๆ
  • AI กับ SEO: การใช้ ChatGPT หรือ Google Gemini ช่วยวิจัยคีย์เวิร์ดและสร้างโครงเนื้อหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ต้องมีการตรวจสอบและปรับแต่งโดยผู้เชี่ยวชาญจริง
  • Voice Search: การปรับเนื้อหาให้รองรับการค้นหาด้วยเสียงกลายเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากผู้ใช้จำนวนมากเริ่มใช้ Google Assistant, Siri หรือ Alexa ในการค้นหาข้อมูล
  • Core Web Vitals: Google ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ผู้ใช้มากขึ้น โดยเฉพาะความเร็วในการโหลดหน้าเว็บ ความเสถียรของ Layout และการตอบสนองของเว็บไซต์
  • Helpful Content Update: Google เน้นการจัดอันดับเนื้อหาที่สร้างขึ้นเพื่อช่วยเหลือผู้ใช้จริงๆ มากกว่าเนื้อหาที่สร้างขึ้นเพื่อติดอันดับเท่านั้น หรือเรียกว่า people first content (อ้างอิงจาก https://developers.google.com/search/docs/fundamentals/creating-helpful-content)

 

 

 

SEO กับการสร้างแบรนด์และการเพิ่มการเข้าถึง

SEO ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือในการเพิ่มทราฟฟิก หรือเพิ่มยอดผู้เข้าชมเว็บไซต์เพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งขึ้น เพราะการติดอันดับบนหน้าแรกของ Google สามารถทำให้แบรนด์ได้รับความสนใจ เป็นที่จดจำและเป็นที่รู้จักของลูกค้า ช่วยให้ธุรกิจเป็นที่รู้จักและเพิ่มความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์และภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์

 

 

ผลลัพธ์ที่ได้จากการทำ SEO ที่มีคุณภาพ

การทำ SEO ที่มีคุณภาพจะสามารถช่วยให้ธุรกิจได้รับผลตอบแทนที่ดีขึ้นในระยะยาวโดยที่ไม่ต้องเสียค่าโฆษณา ซึ่งช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำการตลาดออนไลน์ได้ เนื่องจากเว็บไซต์ที่ติดอันดับต้น ๆ ของ Google จะมีโอกาสได้รับคลิกสูงกว่าคู่แข่ง ซึ่งจะทำให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการสินค้าหรือบริการจริง ๆ ได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังส่งผลให้ธุรกิจสามารถขยายฐานลูกค้า และยังเพิ่มยอดขายอย่างเป็นธรรมชาติได้อีกด้วย

 

 

 

สรุป

ดังนั้นการทำ SEO ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืนในปี 2025 และอนาคต แม้ว่าจะต้องใช้เวลาในการสร้างอันดับ แต่เมื่อเว็บไซต์มีความน่าเชื่อถือและติดอันดับแล้ว ก็จะช่วยให้ธุรกิจได้รับทราฟฟิกและได้รับโอกาสทางการขายได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งต่างจากโฆษณาออนไลน์ที่จะต้องจ่ายเงินเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ในระยะสั้น

 

 

หากเว็บไซต์ของคุณไม่มี Traffic เข้ามาเลย ดูไม่น่าใช้งาน หรือต้องการทำเว็บไซต์ใหม่ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและมอบประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้าของคุณ สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของ Yes Web Design Studio ได้เลย เราเป็นบริษัทเว็บดีไซน์แนวหน้าในไทย รับทำเว็บไซต์ครบวงจร ซึ่งรวมไปถึงบริการรับทำ SEO และการตลาดออนไลน์ด้วยเช่นกัน

 

 

 

 

 

 

 

Yes Web Design Studio

Tel: 096-879-5445

LINE: @yeswebdesign

E-mail: [email protected]

Facebook: Yes Web Design Studio I Web Design Company Bangkok

Address: ชั้น 17 อาคารวิทยกิตติ์ ถนนพญาไท วังใหม่ ปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330 (สถานี BTS สยาม)

 

 

 

 

 

 

 

ข้อมูลจาก

https://developers.google.com/search/docs/fundamentals/seo-starter-guide

https://backlinko.com/hub/seo/what-is-seo

 

มีโปรเจกต์ในใจแล้วใช่ไหม ?