Google DeepMind คืออะไร? AI ที่กำลังเข้ามาเปลี่ยนโลกธุรกิจ

บทความโดย Yes Web Design Studio

Google DeepMind คืออะไร?

โลกธุรกิจในปัจจุบันกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จากเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่พัฒนาก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว หนึ่งในผู้นำด้านนี้คือ Google DeepMind ซึ่งสร้างนวัตกรรม AI ที่มีความสามารถสูงบทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ Google DeepMind คืออะไร อย่างลึกซึ้ง ทั้งประวัติความเป็นมา เทคโนโลยีเบื้องหลัง ความสำเร็จที่ผ่านมา และบทบาทสำคัญที่มีต่อโลกธุรกิจในปัจจุบันและอนาคต

 

 

Google DeepMind คืออะไร?

Google DeepMind คืออะไร?

รูปภาพจาก : deepmind.google

Google DeepMind เป็นบริษัทวิจัยและพัฒนาด้านปัญญาประดิษฐ์ชั้นนำของโลกที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2010 โดย เดมิส ฮัสซาบิส นักวิทยาการคอมพิวเตอร์และนักออกแบบเกมชาวอังกฤษ เดมิสร่วมก่อตั้งบริษัทกับ เชน เลก และ มุสตาฟา ซูเลย์แมน ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ต่อมาในปี 2014 Google ได้เข้าซื้อกิจการ DeepMind และได้รวมกับทีม Google Brain เพื่อจัดตั้งเป็น Google DeepMind ในปี 2023

 

 

เป้าหมายของ DeepMind

DeepMind มีพันธกิจที่ชัดเจนในการ “แก้ปัญหาปัญญา” และใช้ AI เพื่อช่วยมนุษย์ค้นพบความรู้ใหม่ ๆ ทั้งในด้านวิทยาศาสตร์ การแพทย์ และธุรกิจ แนวคิดนี้สะท้อนความเชื่อที่ว่า AI จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการแก้ปัญหาที่ยากที่สุดของมนุษยชาติ และยังมีเป้าหมายที่จะพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ให้มีความสามารถเทียบเท่าหรือเหนือกว่ามนุษย์

 

 

เทคโนโลยีเบื้องหลัง DeepMind

เทคโนโลยีของ DeepMind มีอะไรบ้าง

 

ปัญญาประดิษฐ์และ Machine Learning

หัวใจสำคัญของ Google DeepMind คือการพัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์ที่เรียนรู้ได้เหมือนมนุษย์ โดยใช้เทคนิคด้าน Machine Learning ขั้นสูง ซึ่งเป็นสาขาย่อยของ AI ที่จะช่วยให้คอมพิวเตอร์เรียนรู้จากข้อมูลโดยไม่ต้องเขียนโปรแกรมอย่างชัดเจน ซึ่งระบบจะสามารถพัฒนาและปรับปรุงประสิทธิภาพได้เองจากประสบการณ์และข้อมูลใหม่ ๆ ที่ได้รับ นอกจากนี้ยังโดดเด่นด้วยการใช้เทคโนโลยี Neural Network หรือโครงข่ายประสาทเทียมซึ่งจำลองการทำงานของสมองมนุษย์ 

 

ระบบ Neural Network และการเรียนรู้เชิงลึก (Deep Learning)

เทคนิคสำคัญอีกอย่างคือ Deep Learning หรือการเรียนรู้เชิงลึกโดยใช้โครงข่ายประสาทเทียมหลายชั้น ซึ่งจะทำให้ระบบสามารถเรียนรู้ข้อมูลที่ซับซ้อนได้ และยังมีการพัฒนาเทคนิค Reinforcement Learning หรือการเรียนรู้แบบเสริมแรงโดยที่ AI จะเรียนรู้จากประสบการณ์โดยตรงผ่านการลองผิดลองถูก ซึ่งจะทำให้ระบบ AI สามารถพัฒนาและปรับปรุงกลยุทธ์ได้เอง

 

 

 

ความสามารถที่โดดเด่นของ DeepMind

 

 

การพัฒนา AI สำหรับการเล่นเกม เช่น AlphaGo และ AlphaFold

AI สำหรับการเล่นเกม เช่น AlphaFold จาก Google Deepmind

 

ผลงานที่สร้างชื่อเสียงให้กับ DeepMind คือการพัฒนา AlphaGo ซึ่งเป็น AI ที่เอาชนะแชมป์โลกหมากล้อม ได้ในปี 2016 สร้างความตื่นตะลึงให้กับวงการวิทยาศาสตร์ เนื่องจากหมากล้อมเป็นเกมที่ซับซ้อนมากกว่าหมากรุกหลายเท่า ต่อมา DeepMind ได้พัฒนา AlphaGo Zero ซึ่งสามารถเรียนรู้เล่นหมากล้อมได้เองโดยไม่ต้องใช้ข้อมูลจากการเล่นของมนุษย์เลย เป็นเพียงแค่เล่นกับตัวเองและพัฒนาจนสามารถเอาชนะ AlphaGo รุ่นเดิมได้อย่างเด็ดขาด หลังจากนั้น DeepMind ยังได้ขยายแนวคิดนี้ไปยังเกมอื่น ๆ ด้วย 

 

 

การประยุกต์ใช้ AI ในด้านวิทยาศาสตร์และการแพทย์

ความสำเร็จอีกขั้นของ DeepMind คือ AlphaFold ซึ่งเป็น AI ที่สามารถทำนายโครงสร้างสามมิติของโปรตีนได้อย่างแม่นยำ นวัตกรรมนี้ได้สร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการชีววิทยาและการแพทย์ เนื่องจากการเข้าใจโครงสร้างโปรตีนมีความสำคัญต่อการพัฒนายาและความเข้าใจเกี่ยวกับโรคต่าง ๆ ซึ่งกระบวนการที่เคยใช้เวลาหลายปีในห้องปฏิบัติการก็สามารถทำได้ในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงด้วย AlphaFold

 

นอกจากนี้ DeepMind ยังประสบความสำเร็จในการประยุกต์ใช้ AI กับปัญหาจริงในโลก เช่น การพัฒนาระบบควบคุมระบบทำความเย็นในศูนย์ข้อมูลของ Google ซึ่งช่วยลดการใช้พลังงานลงได้ถึง 40% หรือการพัฒนา AI ที่ช่วยทำนายไตวายเฉียบพลันในผู้ป่วยโรงพยาบาลได้ล่วงหน้า 48 ชั่วโมง

 

 

DeepMind กับบทบาทในโลกธุรกิจ

ในปัจจุบัน Google DeepMind มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจหลากหลายประเภท โดยเฉพาะการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน องค์กรธุรกิจสามารถใช้ AI จาก DeepMind ในการวิเคราะห์กระบวนการทำงานและระบุจุดที่สามารถปรับปรุงได้ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจจับความผิดปกติในโรงงานการผลิต หรือช่วยลดการหยุดชะงักและลดต้นทุนการซ่อมบำรุง

 

 

การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการตัดสินใจทางธุรกิจ

AI สามารถประมวลผลข้อมูลจำนวนมหาศาลได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำกว่ามนุษย์มาก ช่วยให้ธุรกิจมองเห็นแนวโน้มและรูปแบบที่ซ่อนอยู่ในข้อมูล นำไปสู่การตัดสินใจทางธุรกิจที่ดีขึ้น บริษัทค้าปลีกใช้ AI ในการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคเพื่อปรับกลยุทธ์การตลาดและการจัดการสินค้าคงคลัง ส่วนแบรนด์ระดับโลกใช้ AI วิเคราะห์เสียงตอบรับจากลูกค้าบนโซเชียลมีเดียเพื่อนำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่

 

 

AI ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ 

ในภาคการเงินมีการนำ AI จาก DeepMind มาใช้ช่วยตรวจจับการฉ้อโกงและการทำธุรกรรมที่ผิดปกติ ไปจนตรวจสอบธุรกรรมแต่ละรายการเพื่อระบุรูปแบบที่น่าสงสัย ซึ่งจะช่วยป้องกันการสูญเสียทางการเงินที่อาจเกิดขึ้นได้ นอกจากนี้ยังช่วยให้คำแนะนำด้านการลงทุนที่เหมาะสมกับความเสี่ยงและเป้าหมายทางการเงินของลูกค้าแต่ละราย

 

ในด้านการแพทย์มีการนำเทคโนโลยี AlphaFold ของ DeepMind มาช่วยเร่งการพัฒนายาใหม่ ลดระยะเวลาและต้นทุนในการค้นพบยา ซึ่งบริษัทยาและสถาบันวิจัยหลายแห่งกำลังใช้ AlphaFold เพื่อทำความเข้าใจโรคต่าง ๆ และออกแบบยาที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และยังช่วยในการวินิจฉัยโรคจากภาพทางการแพทย์ได้อย่างแม่นยำ เช่น การตรวจจับมะเร็งจากภาพเอกซเรย์หรือการสแกน

 

 

ข้อดีและข้อจำกัดของ Google DeepMind

 

 

ข้อดี

 

1. สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ 

Google DeepMind มีข้อดีมากมายสำหรับธุรกิจ เริ่มจากนวัตกรรมล้ำสมัยที่ทำให้ธุรกิจสามารถสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ที่ไม่เคยเป็นไปได้มาก่อน เช่น การพัฒนายาใหม่ที่เร็วขึ้น หรือรถยนต์ไร้คนขับที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น

 

2. ทำงานได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว

การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานเป็นข้อดีที่เห็นได้ชัด AI สามารถทำงานซ้ำ ๆ ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำกว่ามนุษย์ ช่วยให้พนักงานมีเวลาทำงานสร้างสรรค์และมีคุณค่ามากขึ้น ส่งผลต่อการเพิ่มผลผลิตและความพึงพอใจในการทำงาน

 

3. ช่วยในการลดต้นทุน

AI สามารถช่วยลดต้นทุนในระยะยาวแม้ว่าการลงทุนเริ่มต้นอาจสูง แต่ระบบอัตโนมัติสามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมงโดยไม่ต้องหยุดพัก ลดความผิดพลาด และลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและทรัพยากร ทำให้คืนทุนได้รวดเร็ว

 

 

ข้อจำกัด

 

 

1. ใช้ทรัพยากรสูง

DeepMind และ AI ทั่วไปมีข้อจำกัดที่ต้องพิจารณา การใช้ทรัพยากรสูงเป็นปัญหาหนึ่ง การฝึกฝนโมเดล AI ขนาดใหญ่ต้องใช้พลังงานมหาศาลและมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งต้องการข้อมูลจำนวนมากและพื้นที่จัดเก็บ และยังต้องการผู้เชี่ยวชาญในการพัฒนาและดูแลระบบ ซึ่งมีจำนวนจำกัดและค่าตอบแทนสูง ทำให้ธุรกิจขนาดเล็กอาจเข้าถึงได้ยาก จึงเกิดความเหลื่อมล้ำระหว่างบริษัทที่มีทรัพยากรต่างกัน

 

2. ปัญหาด้านจริยธรรม

การใช้ AI ต้องคำนึงถึงความเป็นส่วนตัว ความโปร่งใส และความเท่าเทียม หากระบบถูกฝึกฝนด้วยข้อมูลที่มีอคติ อาจนำไปสู่การตัดสินใจที่ไม่เป็นธรรม ธุรกิจจึงต้องใส่ใจในการใช้ AI อย่างมีความรับผิดชอบ

 

 

 

อนาคตของ DeepMind และ AI ในธุรกิจ

ในอนาคต Google DeepMind มุ่งพัฒนา AI ให้มีความสามารถใกล้เคียงกับปัญญาของมนุษย์มากขึ้นแม้ว่าจะยังมีความท้าทายมากมายก็ตาม และแนวโน้มที่สำคัญคือการทำให้ AI ถูกอธิบายได้ง่ายมากขึ้นเพื่อให้มนุษย์เข้าใจว่า AI มีกระบวนการตัดสินใจอย่างไร ซึ่งจะช่วยสร้างความไว้วางใจและการยอมรับในการใช้งานปัญญาประดิษฐ์มากขึ้น นอกจากนี้อาจจะมีการผสาน AI กับเทคโนโลยีอื่นในอนาคต และอาจได้เห็นระบบอัตโนมัติอัจฉริยะที่สามารถปรับตัวและเรียนรู้ได้อย่างต่อเนื่อง ช่วยให้ธุรกิจตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้อย่างรวดเร็ว

 

ผลกระทบของ AI ต่อแรงงานและอุตสาหกรรมต่าง ๆ

AI จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อตลาดแรงงานบางประเภทโดยเฉพาะงานที่มีรูปแบบชัดเจน ซึ่งงานเหล่านี้จะถูกแทนที่ด้วย AI แต่ในขณะเดียวกันก็จะเกิดงานใหม่ ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนา ดูแล และทำงานร่วมกับ AI ซึ่งบริษัทและบุคลากรจำเป็นต้องปรับตัวและพัฒนาทักษะใหม่ ๆ เพื่อทำงานในโลกที่ AI เข้ามามีบทบาทมากขึ้น

 

Google DeepMind มีบทบาทสำคัญอย่างไร

Google DeepMind เป็นผู้นำด้านการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ที่มีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงโลกธุรกิจอย่างมากด้วยความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีการเรียนรู้ของเครื่อง โครงข่ายประสาทเทียม และการเรียนรู้เชิงลึก ซึ่ง DeepMind สามารถสร้างระบบ AI ที่มีความสามารถสูงในการแก้ปัญหาซับซ้อนได้จากความสำเร็จในการพัฒนา AlphaGo หรือ AlphaFold และระบบอื่น ๆ ก็ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของ AI ในการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมต่าง ๆ

 

การเตรียมตัวของธุรกิจเพื่อรับมือกับ AI

การศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยี AI ในธุรกิจเป็นสิ่งที่ผู้นำองค์กรไม่ควรมองข้าม ทั้งในด้านผลกระทบที่อาจมีต่อธุรกิจ ไปจนถึงการลงทุนเพื่อพัฒนาทักษะด้านดิจิทัลให้กับบุคลากรก็ตาม และหากมีการปรับโครงสร้างองค์กรให้พร้อมก็จะช่วยให้ธุรกิจสามารถใช้ประโยชน์จาก AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

แนวทางการนำ AI มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

การนำปัญญาประดิษฐ์มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดจะต้องเริ่มจากการระบุปัญหาหรือเป้าหมายทางธุรกิจที่ชัดเจน ซึ่งสามารถเริ่มต้นนำ AI มาใช้ในโครงการขนาดเล็กและจึงค่อยขยายผลเมื่อเห็นผลสำเร็จก็จะช่วยลดความเสี่ยงและยังเพิ่มโอกาสความสำเร็จในการนำ AI มาใช้ในธุรกิจได้

 

 

Google DeepMind คือ องค์กรชั้นนำที่พัฒนาปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูงที่กำลังเปลี่ยนโลกธุรกิจ การเข้าใจและเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงนี้เป็นสิ่งสำคัญสำหรับธุรกิจทุกขนาด

 

 

หากธุรกิจของคุณต้องการคำปรึกษาเกี่ยวกับการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาประยุกต์ใช้ สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของ Yes Web Design Studio ได้ เราเป็นบริษัทเว็บดีไซน์ชั้นนำในไทยที่ไม่เพียงรับทำเว็บไซต์ แต่ยังให้คำปรึกษาด้านการตลาดดิจิทัลและ AI Solution อย่างครบวงจร

 

 

Yes Web Design Studio
📞 Tel. : 096-879-5445
📲 LINE : @yeswebdesign
📧 E-mail : [email protected]
📍 Address : ชั้น 17 อาคารวิทยกิตติ์ ถนนพญาไท วังใหม่ ปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330 (สถานี BTS สยาม)

 

 

 

ข้อมูลจาก

https://deepmind.google/

https://github.com/google-deepmind

มีโปรเจกต์ในใจแล้วใช่ไหม ?