Evergreen Content VS Topical Content มีอะไรบ้าง เลือกแบบไหนดี

บทความโดย Yes Web Design Studio

Evergreen Content VS Topical Content มีอะไรบ้าง เลือกแบบไหนดี
Table of Contents

การสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณภาพเป็นหัวใจสำคัญของการทำการตลาดออนไลน์ในยุคปัจจุบัน แต่หลายธุรกิจยังคงสับสนว่าควรเลือกสร้างคอนเทนต์แบบไหนระหว่าง Evergreen Content และ Topical Content ซึ่งทั้งสองประเภทมีลักษณะเฉพาะและประโยชน์ที่แตกต่างกัน บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับคอนเทนต์ทั้งสองประเภท พร้อมชี้แนะแนวทางการเลือกใช้ให้เหมาะกับธุรกิจของคุณ

 

 

Evergreen Content คืออะไร?

คอนเทนต์ประเภทนี้จะให้ข้อมูลที่มีประโยชน์และสามารถใช้อ้างอิงได้ในระยะยาว โดยไม่จำเป็นต้องปรับปรุงเนื้อหาบ่อยครั้ง โดยมักเป็นคำตอบของคำถามพื้นฐานที่ผู้คนมักค้นหาอยู่เสมอ หรือเป็นความรู้ทั่วไปที่ไม่เปลี่ยนแปลงไปตามกระแสหรือเทรนด์ ทำให้มีโอกาสได้รับการค้นหาอย่างสม่ำเสมอตลอดทั้งปี และมีศักยภาพในการสร้างทราฟฟิกอย่างต่อเนื่องในระยะยาว

 

ตัวอย่าง Evergreen Content จาก Yes Web Design Studio

 

คอนเทนต์อธิบายความหมาย

 

ตัวอย่าง Evergreen Content จาก Yes Web Design Studio

 

บทความประเภทนี้อธิบายเกี่ยวกับเรื่อง Performance Max ซึ่งมุ่งเน้นให้ความรู้ ไม่ว่าจะเป็นความหมาย ความแตกต่างระหว่างแคมเปญอื่น ๆ การทำงานและฟีเจอร์ที่น่าสนใจ ไปจนถึงการประยุกต์ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งเป็นการอธิบายแนวคิดพื้นฐานที่ผู้อ่านสามารถกลับมาอ่านซ้ำได้เสมอ

 

อ่านบทความเพิ่มเติม : https://yeswebdesignstudio.com/th/blog/what-is-performance-max/ 

 

คอนเทนต์แชร์เทคนิค

 

ตัวอย่าง Evergreen Content จาก Yes Web Design Studio

 

อีกตัวอย่างที่เราแนะนำมา คือบทความที่แชร์เทคนิคการเขียนบทความ SEO ซึ่งเป็นคอนเทนต์ที่จะให้ความรู้กับผู้อ่านได้เสมอไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน โดยบทความนี้จะอธิบายเทคนิคต่าง ๆ ในการทำ SEO ที่คุณสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการทำ SEO ได้ด้วยตัวเอง

 

อ่านบทความเพิ่มเติม : แชร์เทคนิคเขียนบทความ SEO ให้ติดหน้าแรกไว ๆ

 

คอนเทนต์อธิบาย How To

 

ตัวอย่าง Evergreen Content จาก Yes Web Design Studio

 

ตัวอย่างสุดท้ายจาก Yes Web Design Studio คือคอนเทนต์ที่บอกวิธีการต่าง ๆ เกี่ยวกับการเขียนบทความให้ติดอยู่บน Featured Snippets ซึ่งจะเป็นความรู้ที่ผู้อ่านสามารถเข้ามาอ่านได้ตลอดเช่นกัน

 

อ่านบทความเพิ่มเติม : https://yeswebdesignstudio.com/blog/featured-snippets/ 

 

 

Topical Content คืออะไร?

Topical Content คือเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ปัจจุบัน กระแสนิยม หรือหัวข้อที่กำลังได้รับความสนใจในช่วงเวลาหนึ่ง คอนเทนต์ประเภทนี้มักมีช่วงอายุการใช้งานที่สั้น และอาจหมดความนิยมอย่างรวดเร็วเมื่อกระแสผ่านไป เช่น ข่าวสาร เทรนด์ล่าสุด การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ หรือเทศกาลต่างๆ โดยมีจุดประสงค์เพื่อตอบสนองต่อความสนใจของผู้คนในช่วงเวลานั้น ๆ และมักสร้างทราฟฟิกสูงในระยะเวลาอันสั้น

 

 

ความแตกต่างระหว่าง Evergreen Content และ Topical Content

 

อายุการใช้งานของคอนเทนต์

 

Evergreen Content

มีอายุการใช้งานยาวนาน สามารถให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ได้ตลอดเวลา อาจต้องมีการปรับปรุงเล็กน้อยเป็นครั้งคราว แต่แก่นของเนื้อหายังคงมีประโยชน์เสมอ คอนเทนต์ประเภทนี้จะสร้างทราฟฟิกอย่างสม่ำเสมอในระยะยาว และมักมีอัตราการเติบโตของทราฟฟิกที่ค่อยเป็นค่อยไป

 

Topical Content

มีอายุการใช้งานที่สั้น มักหมดความนิยมเมื่อกระแสผ่านไป ทราฟฟิกจะสูงมากในช่วงแรก แต่จะลดลงอย่างรวดเร็วเมื่อเวลาผ่านไป คอนเทนต์ประเภทนี้ต้องผลิตอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาระดับของทราฟฟิก

 

วัตถุประสงค์ในการนำเสนอ

 

Evergreen Content

มุ่งเน้นการให้ความรู้พื้นฐานที่มีคุณค่าในระยะยาว เหมาะสำหรับการสร้างความน่าเชื่อถือและความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม เนื้อหามักเจาะลึกและครอบคลุมหัวข้อนั้น ๆ อย่างครบถ้วน

 

Topical Content

เป็นคอนเทนต์ที่เน้นตอบโจทย์กระแสในช่วงนั้น ๆ เหมาะสำหรับการสร้างการมีส่วนร่วมและดึงดูดความสนใจในช่วงเวลาสั้น ๆ เนื้อหามักมีความเฉพาะเจาะจงและเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ปัจจุบัน

 

ผลกระทบต่อ SEO และการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย

 

Evergreen Content

ช่วยเพิ่มอันดับในผลการค้นหาแบบออร์แกนิกในระยะยาว เนื่องจากยังคงมีผู้ค้นหาอย่างสม่ำเสมอ มีโอกาสได้รับลิงก์จากเว็บไซต์อื่นมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป และสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างต่อเนื่อง

 

Topical Content

สร้างทราฟฟิกสูงในช่วงเวลาสั้น ๆ ช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมและการแชร์บนโซเชียลมีเดีย สามารถดึงดูดผู้ชมใหม่ได้อย่างรวดเร็ว แต่อาจไม่ช่วยในการสร้างอันดับ SEO ในระยะยาว

 

 

ข้อดีและข้อเสียของ Evergreen Content และ Topical Content

 

ข้อดี

 

Evergreen Content

  • สร้างทราฟฟิกอย่างต่อเนื่องในระยะยาว
  • ให้ ROI ที่สูงเนื่องจากใช้งานได้นาน
  • ช่วยเสริมสร้างความน่าเชื่อถือและความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม
  • ลดภาระในการผลิตคอนเทนต์ใหม่อยู่เสมอ
  • เหมาะสำหรับการอ้างอิงในคอนเทนต์อื่น ๆ

 

Topical Content

  • สร้างทราฟฟิกสูงในช่วงเวลาสั้น ๆ
  • เพิ่มการมีส่วนร่วมและการแชร์บนโซเชียลมีเดีย
  • แสดงให้เห็นว่าแบรนด์ยังคงทันสมัยและติดตามเทรนด์
  • สามารถดึงดูดผู้ชมใหม่ได้อย่างรวดเร็ว
  • มีโอกาสสูงที่จะได้ลิงก์จากเว็บไซต์ข่าวหรือบล็อกที่เกี่ยวข้อง

 

ข้อจำกัด

 

Evergreen Content

  • ใช้เวลาและทรัพยากรในการผลิตมากกว่า
  • ต้องใช้เวลานานกว่าจะเห็นผลลัพธ์ด้าน SEO
  • อาจจำเป็นต้องมีการปรับปรุงเป็นครั้งคราวเพื่อให้ข้อมูลเป็นปัจจุบัน
  • อาจไม่สร้างการมีส่วนร่วมสูงในช่วงแรก
  • ความแข่งขันในการจัดอันดับสำหรับหัวข้อ Evergreen มักสูง

 

ข้อจำกัด

  • มีอายุการใช้งานสั้น ทราฟฟิกลดลงอย่างรวดเร็ว
  • ต้องผลิตอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาระดับของทราฟฟิก
  • อาจไม่ช่วยในการสร้างอันดับ SEO ในระยะยาว
  • ต้องผลิตในเวลาที่จำกัดเพื่อให้ทันกระแส
  • ยากที่จะวางแผนล่วงหน้าเนื่องจากเทรนด์สามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว

 

 

เลือกใช้แบบไหนดีให้เหมาะกับธุรกิจของคุณ?

 

ปัจจัยที่ต้องพิจารณาก่อนเลือกใช้คอนเทนต์

 

เป้าหมายทางธุรกิจ

หากต้องการสร้างความน่าเชื่อถือและแสดงความเชี่ยวชาญในระยะยาว Evergreen Content อาจเหมาะสมกว่า แต่หากต้องการกระตุ้นยอดขายในช่วงเวลาสั้น ๆ หรือสร้างการรับรู้อย่างรวดเร็ว Topical Content อาจเป็นทางเลือกที่ดี

 

ทรัพยากรที่มี

Evergreen Content ใช้เวลาและทรัพยากรในการผลิตมากกว่า แต่ให้ผลตอบแทนในระยะยาว ในขณะที่ Topical Content อาจต้องผลิตบ่อยครั้ง แต่ใช้ทรัพยากรต่อชิ้นน้อยกว่า

 

ลักษณะของอุตสาหกรรม

ในบางอุตสาหกรรมมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เช่น เทคโนโลยี ซึ่งอาจต้องใช้ Topical Content มากกว่า ในขณะที่อุตสาหกรรมที่มีการเปลี่ยนแปลงช้า เช่น การเงินพื้นฐาน อาจเหมาะกับ Evergreen Content มากกว่า

 

กลุ่มเป้าหมาย

พฤติกรรมการค้นหาข้อมูลของกลุ่มเป้าหมายมีผลต่อการเลือกประเภทคอนเทนต์ ซึ่ง Topical Content จะเหมาะกับกลุ่มเป้าหมายชอบติดตามเทรนด์ แต่ Evergreen Content จะเหมาะกับกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในระยะยาว

 

กลยุทธ์การผสมผสาน Evergreen Content และ Topical Content

แนวทางที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดคือการผสมผสานคอนเทนต์ทั้งสองประเภทเข้าด้วยกัน ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจได้รับประโยชน์จากทั้งสองด้าน เช่น

 

สร้างฐานด้วย Evergreen Content

เริ่มต้นด้วยการสร้างฐานคอนเทนต์ที่มีคุณค่าในระยะยาว ครอบคลุมหัวข้อสำคัญในอุตสาหกรรมของคุณ

 

เสริมด้วย Topical Content

เพิ่มเติมด้วยคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องกับเทรนด์และเหตุการณ์ปัจจุบัน เพื่อรักษาความสดใหม่ของเว็บไซต์และดึงดูดทราฟฟิกในช่วงเวลาสั้น ๆ

 

ปรับปรุง Evergreen Content

หมั่นตรวจสอบและปรับปรุง Evergreen Content ให้ทันสมัยอยู่เสมอ โดยเพิ่มเติมข้อมูลใหม่หรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลที่ล้าสมัย

 

เชื่อมโยงคอนเทนต์ทั้งสองประเภท

ใช้ Topical Content เพื่อลิงก์ไปยัง Evergreen Content ที่เกี่ยวข้อง และในทางกลับกัน เพื่อเพิ่มการเข้าชมทั้งสองประเภท

 

 

สรุป

ทั้ง Evergreen Content และ Topical Content มีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน การเลือกใช้ประเภทใดขึ้นอยู่กับเป้าหมายทางธุรกิจ ทรัพยากรที่มี ลักษณะของอุตสาหกรรม และพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดคือการผสมผสานคอนเทนต์ทั้งสองประเภทเข้าด้วยกัน โดยใช้ Evergreen Content เป็นฐานที่มั่นคงสำหรับ SEO ในระยะยาว และใช้ Topical Content เพื่อดึงดูดทราฟฟิกในช่วงเวลาสั้น ๆ และรักษาความสดใหม่ของเว็บไซต์

 

ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้คอนเทนต์ประเภทใด สิ่งสำคัญที่สุดคือคุณภาพของเนื้อหา คอนเทนต์ที่มีคุณภาพสูง ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย จะช่วยให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จในโลกออนไลน์ได้อย่างยั่งยืน

 

หากคุณกำลังมองหาความช่วยเหลือในด้านการตลาดดิจิทัลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำธุรกิจของคุณ เราขอแนะนำให้คุณติดต่อ Yes Web Design Studio เราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบเว็บไซต์ SEO และการตลาดออนไลน์ครบวงจร พร้อมช่วยพัฒนาเว็บไซต์ที่เหมาะสมกับความต้องการทางธุรกิจของคุณให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน

 

 

 

 

Yes Web Design Studio
Tel. : 096-879-5445
LINE : @yeswebdesign
E-mail : [email protected]
Address : ชั้น 17 อาคารวิทยกิตติ์ ถนนพญาไท วังใหม่ ปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330 (สถานี BTS สยาม)

มีโปรเจกต์ในใจแล้วใช่ไหม ?