Spam (สแปม) คืออะไร? วิธีรับมือเมื่อโดนภัยมิจฉาชีพออนไลน์

บทความโดย Yes Web Design Studio

Spam (สแปม) คืออะไร? วิธีรับมือเมื่อโดนภัยมิจฉาชีพออนไลน์
Table of Contents

โลกออนไลน์ปัจจุบันเต็มไปด้วยภัยคุกคามมากมายที่เราไม่อาจตามทัน ซึ่งหนึ่งในนั้นที่เราทุกคนต้องเผชิญคือ “สแปม” ซึ่งแทรกซึมเข้ามาในชีวิตดิจิทัลของเราตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นข้อความโฆษณาแปลก ๆ ที่ไม่เคยขอ หรือความคิดเห็นแปลก ๆ จาก User ที่ไม่รู้จักที่มาอยู่ในใต้โพสต์ในโซเชียลมีเดีย นั่นคือสิ่งที่บอกได้ว่าสแปมที่กำลังพุ่งเป้ามาที่คุณ และบทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับสแปม เรียนรู้วิธีสังเกต และเสริมเกราะป้องกันตัวเองจากภัยมิจฉาชีพออนไลน์เหล่านี้

 

 

สแปม (Spam) คืออะไร?

 

สแปม (Spam) คืออะไร?

 

สแปม คือ ข้อความหรือเนื้อหาที่ถูกส่งโดยไม่ได้รับการร้องขอและส่งในปริมาณมาก มักมีวัตถุประสงค์เพื่อหลอกลวง โฆษณา หรือแพร่กระจายมัลแวร์ สแปมสามารถปรากฏได้ในหลายรูปแบบ ทั้งอีเมล ข้อความ คอมเมนต์ และโฆษณาที่พบเห็นในแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ

 

 

ประเภทของสแปมที่พบได้บ่อย

 

อีเมลสแปม (Email Spam)

สแปมรูปแบบนี้เป็นรูปแบบที่พบมากที่สุด และมีหลากหลายประเภท เช่น

  • อีเมลฟิชชิ่ง (Phishing) ที่หลอกให้คุณกรอกข้อมูลส่วนตัว
  • อีเมลหลอกให้ได้รับรางวัลหรือมรดก
  • อีเมลโฆษณาสินค้าปลอมหรือผิดกฎหมาย
  • อีเมลหลอกลวงทางการเงิน

อ่านบทความเพิ่มเติม : Phishing คืออะไร รู้ทันภัยคุกคามออนไลน์ มีกี่รูปแบบ

 

ข้อความสแปม (SMS Spam)

ข้อความสแปมทาง SMS มีการเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในประเทศไทยที่มีอัตราการใช้โทรศัพท์มือถือสูง ข้อความเหล่านี้มักมีรูปแบบดังนี้

  • ข้อความแจ้งว่าคุณได้รับรางวัล
  • ข้อความจากธนาคารปลอมขอให้ยืนยันข้อมูล
  • ข้อความชักชวนให้ลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงเกินจริง
  • ข้อความหลอกให้คลิกลิงก์อันตราย

 

คอมเมนต์สแปม (Comment Spam) บนโซเชียลมีเดีย

สแปมไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในกล่องจดหมายหรือข้อความเท่านั้น แต่ยังแพร่กระจายไปยังโซเชียลมีเดียในรูปแบบคอมเมนต์ที่ไม่เกี่ยวข้อง

 

คอมเมนต์สแปมมักปรากฏใต้โพสต์ที่มีคนเข้าชมมาก มักมีลักษณะเป็น

  • ลิงก์ไปยังเว็บไซต์อันตราย
  • ข้อความชักชวนให้ติดต่อผ่านช่องทางอื่น
  • ข้อความโปรโมทสินค้าหรือบริการที่ไม่เกี่ยวข้อง
  • ข้อความที่มีเนื้อหาเดิมซ้ำ ๆ ใต้หลายโพสต์

 

โฆษณาสแปมในเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน

ป๊อปอัพ แบนเนอร์ และโฆษณาที่รุกล้ำเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของสแปมที่เราพบเจอบ่อยในการท่องเว็บ โฆษณาเหล่านี้มักมีลักษณะ

  • ป๊อปอัพที่ปิดยาก
  • โฆษณาที่แสดงข้อความเท็จ เช่น “คุณเป็นผู้โชคดีที่ได้รับรางวัล!”
  • โฆษณาที่พยายามดาวน์โหลดไฟล์โดยอัตโนมัติ
  • แบนเนอร์ที่ออกแบบให้คล้ายกับปุ่มหรือลิงก์ของเว็บไซต์จริง

 

เว็บไซต์ที่มีโฆษณาสแปมมากเกินไปไม่เพียงแต่ทำให้ผู้ใช้รำคาญ แต่ยังส่งผลเสียต่ออันดับการค้นหาในกูเกิลอีกด้วย

 

 

สแปมสร้างความเสียหายด้านอะไรบ้าง?

 

ความเสี่ยงทางการเงิน

สแปมไม่ใช่แค่เรื่องน่ารำคาญ แต่ยังสร้างความเสียหายทางการเงินอย่างมหาศาล 

 

การถูกขโมยข้อมูลส่วนตัว

สแปมหลายประเภทมีเป้าหมายเพื่อขโมยข้อมูลส่วนตัว เช่น รหัสผ่าน ข้อมูลบัตรเครดิต หรือเอกสารสำคัญ ข้อมูลเหล่านี้สามารถถูกนำไปใช้ในการก่ออาชญากรรมอื่น ๆ เช่น

  • ขโมยตัวตน (Identity Theft)
  • การทำธุรกรรมทางการเงินปลอม
  • การเข้าถึงบัญชีออนไลน์โดยไม่ได้รับอนุญาต
  • การขายข้อมูลส่วนตัวในตลาดมืด

 

ความน่าเชื่อถือขององค์กรที่ลดลง

สำหรับธุรกิจ การถูกใช้เป็นเครื่องมือในการส่งสแปมสามารถทำลายชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือได้อย่างรวดเร็ว

 

องค์กรอาจได้รับผลกระทบในลักษณะต่อไปนี้

  • ชื่อโดเมนถูกขึ้นบัญชีดำจากผู้ให้บริการอีเมล
  • ลูกค้าสูญเสียความไว้วางใจ
  • ประสบปัญหาทางกฎหมายจากการละเมิด พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์
  • สูญเสียโอกาสทางธุรกิจเนื่องจากการสื่อสารไม่ถึงผู้รับ

 

บริษัทที่มีระบบรักษาความปลอดภัยอ่อนแอมีโอกาสถูกแฮ็กเพื่อใช้เป็นแหล่งส่งสแปมได้มากกว่า โดยไม่รู้ตัว

 

 

สังเกตสแปมยังไงบ้าง?

 

สัญญาณเตือนที่ควรระวัง

การรู้จักสังเกตสัญญาณเตือนเป็นก้าวแรกในการป้องกันตัวเอง สัญญาณที่บ่งชี้ว่าคุณอาจกำลังเผชิญกับสแปมมีดังนี้

  • ข้อความหรืออีเมลที่มีความเร่งรัด เช่น “ดำเนินการด่วน!” หรือ “หมดเวลาในอีก 24 ชั่วโมง!”
  • การสะกดคำผิด หรือไวยากรณ์ที่ผิดปกติ
  • ที่อยู่อีเมลหรือลิงก์ที่คล้ายคลึงแต่ไม่ตรงกับแหล่งที่มาที่ถูกต้อง (เช่น [email protected] แทน [email protected])
  • ข้อเสนอที่ดูเกินจริง
  • การขอข้อมูลส่วนตัวหรือข้อมูลทางการเงินโดยไม่มีเหตุผลที่สมควร

 

สาเหตุมาจากอะไร

สาเหตุที่ทำให้คุณตกเป็นเป้าของสแปมมีหลายประการ

  • การรั่วไหลของข้อมูล
  • การกรอกแบบฟอร์มออนไลน์โดยไม่อ่านนโยบายความเป็นส่วนตัว
  • การมีส่วนร่วมกับเนื้อหาที่น่าสงสัย เช่น การคลิกลิงก์ในอีเมลหรือโฆษณาที่ไม่น่าเชื่อถือ
  • การใช้รหัสผ่านที่อ่อนแอหรือใช้รหัสเดียวกันในหลายเว็บไซต์
  • การดาวน์โหลดแอปพลิเคชันหรือซอฟต์แวร์จากแหล่งที่ไม่เชื่อถือได้

 

ตัวอย่างพฤติกรรมที่เข้าข่ายสแปม

เพื่อให้เข้าใจชัดเจนยิ่งขึ้น นี่คือตัวอย่างพฤติกรรมที่เข้าข่ายสแปมที่พบบ่อยในประเทศไทย

  1. ข้อความ SMS แจ้งว่า “พัสดุของคุณถูกระงับการจัดส่ง คลิกลิงก์นี้เพื่อยืนยันที่อยู่”
  2. อีเมลแจ้งว่าคุณได้รับเงินคืนภาษีพิเศษ และต้องกรอกข้อมูลบัญชีธนาคาร
  3. คอมเมนต์ในโพสต์เฟซบุ๊กที่มีเนื้อหาเหมือนกันทุกโพสต์ ชักชวนให้ติดต่อทาง Line เพื่อรับโปรโมชันพิเศษ
  4. โฆษณาป๊อปอัพที่บอกว่า “ยินดีด้วย! คุณเป็นผู้เยี่ยมชมคนที่ 1,000,000 รับรางวัลของคุณตอนนี้!”
  5. ข้อความขอให้คุณช่วยเหลือเพื่อนหรือญาติที่กำลังประสบปัญหาฉุกเฉินและต้องการเงินด่วน

 

 

วิธีป้องกันและรับมือเมื่อเจอสแปม

 

วิธีป้องกันและรับมือเมื่อเจอสแปม

ใช้ระบบกรองสแปมที่มีประสิทธิภาพ

ระบบกรองสแปมเป็นด่านแรกในการปกป้องตัวเองจากภัยคุกคาม ปัจจุบันมีเครื่องมือหลากหลายที่ช่วยคัดกรองสแปมได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น

  • ตั้งค่าตัวกรองสแปมในอีเมลให้เข้มงวด
  • ใช้แอปพลิเคชันกรอง SMS บนสมาร์ทโฟน
  • ติดตั้งส่วนเสริม (Extension) สำหรับเว็บเบราว์เซอร์เพื่อบล็อกโฆษณาและป๊อปอัพ
  • เลือกใช้แพลตฟอร์มอีเมลที่มีระบบความปลอดภัยสูง เช่น Gmail ที่มีระบบกรองสแปมอัตโนมัติ

 

ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์แนะนำให้ตรวจสอบโฟลเดอร์สแปมเป็นประจำ เนื่องจากบางครั้งอีเมลสำคัญอาจถูกจัดประเภทผิดพลาด

 

หลีกเลี่ยงการเปิดลิงก์หรือดาวน์โหลดไฟล์ที่ไม่น่าเชื่อถือ

วิธีที่ปลอดภัยที่สุดคือการระมัดระวังสิ่งที่คุณคลิกและดาวน์โหลด

  • ตรวจสอบ URL ของลิงก์ก่อนคลิกเสมอ URL คืออะไร?  (ดูที่แถบสถานะด้านล่างของเบราว์เซอร์หรือคลิกขวาและเลือก “คัดลอกที่อยู่ลิงก์” เพื่อตรวจสอบ)
  • หลีกเลี่ยงการดาวน์โหลดไฟล์แนบที่ไม่ได้คาดหวัง แม้จะมาจากที่อยู่อีเมลที่คุ้นเคย
  • ใช้บริการตรวจสอบลิงก์ เช่น VirusTotal เพื่อสแกนลิงก์ที่น่าสงสัย
  • หากได้รับข้อความเร่งรัดให้คลิกลิงก์ ให้ติดต่อองค์กรนั้นผ่านช่องทางทางการโดยตรงแทน

 

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัวในโซเชียลมีเดีย

โซเชียลมีเดียเป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลส่วนตัวมหาศาล การตั้งค่าความเป็นส่วนตัวที่เหมาะสมสามารถช่วยลดความเสี่ยงได้

  • ตรวจสอบการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวในทุกแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเป็นประจำ
  • จำกัดผู้ที่สามารถเห็นข้อมูลส่วนตัวและโพสต์ของคุณ
  • ระมัดระวังการให้สิทธิ์แอปพลิเคชันบุคคลที่สามในการเข้าถึงบัญชีโซเชียลมีเดีย
  • คิดก่อนแชร์ข้อมูลส่วนตัว เช่น ที่อยู่ วันเกิด หรือเบอร์โทรศัพท์ในพื้นที่สาธารณะ

 

อัปเดตซอฟต์แวร์และแอนตี้ไวรัสเป็นประจำ

การอัปเดตซอฟต์แวร์และระบบป้องกันอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันภัยคุกคามล่าสุด

  • ตั้งค่าการอัปเดตอัตโนมัติสำหรับระบบปฏิบัติการและแอปพลิเคชันสำคัญ
  • ใช้ซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสที่น่าเชื่อถือและอัปเดตฐานข้อมูลไวรัสเป็นประจำ
  • เปิดใช้งานไฟร์วอลล์บนอุปกรณ์ทุกเครื่อง
  • พิจารณาใช้บริการ VPN ที่น่าเชื่อถือเมื่อใช้เครือข่าย Wi-Fi สาธารณะ

 

 

โดนสแปมแล้วต้องทำยังไง?

 

วิธีแจ้งเบาะแสหรือร้องเรียนกรณีถูกสแปม

เมื่อคุณเป็นเหยื่อของสแปม มีช่องทางการร้องเรียนที่สามารถดำเนินการได้ดังนี้

  1. สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPC)
  • โทร: 02 111 8800
  • เว็บไซต์: www.pdpc.or.th
  • อีเมล: [email protected]
  • เหมาะสำหรับกรณีที่ข้อมูลส่วนตัวถูกนำไปใช้โดยไม่ได้รับความยินยอม

 

  1. ศูนย์ประสานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์แห่งชาติ
  • เว็บไซต์: [email protected] 
  • เหมาะสำหรับกรณีสแปมที่เกี่ยวข้องกับภัยคุกคามทางไซเบอร์

 

  1. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ – กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.)
  • โทร: 1441
  • เว็บไซต์: tcsd.cib.go.th
  • เหมาะสำหรับกรณีที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงหรือฉ้อโกงทางอินเทอร์เน็ต

 

คำแนะนำสำคัญในการร้องเรียน

  • เก็บหลักฐานทั้งหมด เช่น ภาพหน้าจอ ข้อความ อีเมล หรือเบอร์โทรที่เกี่ยวข้อง
  • บันทึกวันและเวลาที่ได้รับสแปม
  • ระบุรายละเอียดความเสียหายที่เกิดขึ้น (ถ้ามี)
  • อย่าลบข้อความหรืออีเมลสแปมจนกว่าจะดำเนินการร้องเรียนเสร็จสิ้น

 

 

สรุป

สแปมไม่ใช่เพียงความรำคาญในชีวิตดิจิทัล แต่เป็นภัยคุกคามที่สร้างความเสียหายทั้งทางการเงิน ข้อมูลส่วนตัว และความปลอดภัยทางไซเบอร์ของเราทุกคน เมื่อเข้าใจถึงรูปแบบ วิธีการ และผลกระทบของสแปม เราสามารถวางกลยุทธ์ในการป้องกันและรับมือได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวหน้า มิจฉาชีพออนไลน์ก็พัฒนาเทคนิคการหลอกลวงให้ซับซ้อนยิ่งขึ้น การเรียนรู้วิธีสังเกตสัญญาณเตือนภัย การใช้เครื่องมือกรองสแปมที่เหมาะสม การระมัดระวังในการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว และการรู้ช่องทางร้องเรียน จึงเป็นทักษะสำคัญที่ทุกคนควรมีในโลกดิจิทัล

 

หากคุณกำลังมองหาความช่วยเหลือในการพัฒนาเว็บไซต์หรือการตลาดดิจิทัลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำธุรกิจของคุณ เราขอแนะนำให้คุณติดต่อ Yes Web Design Studio ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบเว็บไซต์ SEO และรับทำการตลาดออนไลน์ครบวงจร พร้อมช่วยพัฒนาเว็บไซต์ที่เหมาะสมกับความต้องการทางธุรกิจของคุณให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน

 

 

 

 

Yes Web Design Studio
Tel. : 096-879-5445
LINE : @yeswebdesign
E-mail : [email protected]
Address : ชั้น 17 อาคารวิทยกิตติ์ ถนนพญาไท วังใหม่ ปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330 (สถานี BTS สยาม)

มีโปรเจกต์ในใจแล้วใช่ไหม ?