Clickbait คืออะไร ? ใช้ทำอะไร ใช้ไม่ถูกวิธี มีข้อเสียไหม?

บทความโดย Yes Web Design Studio

การตลาด Clickbait คืออะไร
Table of Contents

ในยุคดิจิทัลที่มีข้อมูลและเนื้อหามากมายหลั่งไหลเข้ามาทุกวินาที การแข่งขันเพื่อแย่งชิงความสนใจของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตจึงทวีความเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ และกลยุทธ์หนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายคือ “Clickbait” หรือเนื้อหาล่อคลิก บทความนี้จะพาทุกคนเจาะลึกเรื่อง Clickbait ตั้งแต่ความหมาย ที่มา ลักษณะ ไปจนถึงข้อดีและข้อเสีย รวมถึงวิธีใช้ Clickbait อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ เพื่อให้เข้าใจและสามารถประยุกต์ใช้กลยุทธ์นี้ได้อย่างเหมาะสม โดยไม่ส่งผลเสียต่อความน่าเชื่อถือ

 

 

Clickbait คืออะไร?

เกิดจากการรวมกันของคำว่า “Click” (การคลิก) และ “Bait” (เหยื่อล่อ) ซึ่งสื่อความหมายตรงตัวว่าเป็น “เหยื่อล่อให้คลิก” คือเนื้อหาที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อดึงดูดความสนใจและกระตุ้นให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตคลิกเข้าชมลิงก์นั้น ๆ โดยใช้หัวข้อหรือรูปภาพที่สร้างความอยากรู้อยากเห็น ความตื่นเต้น หรือความประหลาดใจ ลักษณะเด่นของ Clickbait คือการทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกว่าต้องคลิกเข้าไปดูเพื่อเติมเต็มความอยากรู้นั้น ซึ่ง Clickbait ไม่ได้จำกัดเฉพาะเนื้อหาที่หลอกลวงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงวิธีการนำเสนอที่มุ่งเน้นการกระตุ้นให้เกิดการคลิกเป็นหลักอีกด้วย

 

 

Clickbait ใช้ทำอะไร?

 

การเพิ่มอัตราการคลิก (CTR)

เป้าหมายหลักของ Clickbait คือการเพิ่มอัตราการคลิก หรือ Click-Through Rate (CTR) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดสำคัญในโลกดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง ซึ่งจะช่วยเพิ่มหลายโอกาสดังนี้

 

  • ช่วยเพิ่มยอดผู้เข้าชมซึ่งสามารถแปลงเป็นรายได้จากโฆษณาได้โดยตรง
  • เพิ่มโอกาสที่จะเกิดการซื้อสินค้าหรือบริการมากขึ้น
  • เพิ่มอันดับ SEO ได้ เพราะหากเว็บไซต์ที่มีคนเข้าชมมากและใช้เวลาอยู่นานมักได้รับการจัดอันดับที่ดีในผลการค้นหา

 

Clickbait มักถูกใช้ในเว็บไซต์ที่หารายได้จากยอดเข้าชม ไม่ว่าจะเป็นเว็บข่าว บล็อก หรือเพจโซเชียลมีเดียที่ต้องการเพิ่มการมีส่วนร่วม

 

ดึงดูดความสนใจจากผู้ชม

Clickbait ช่วยให้คอนเทนต์โดดเด่นกว่าคู่แข่ง โดยเฉพาะในแพลตฟอร์มที่มีคอนเทนต์จำนวนมาก เช่น Facebook หรือ YouTube หัวข้อที่สะดุดตาสามารถทำให้ผู้ใช้เลือกกดเข้าไปดูเนื้อหาของคุณแทนที่จะเลื่อนผ่าน นอกจากนี้ยังใช้เป็นเครื่องมือสำหรับแย่งชิงความสนใจของผู้ใช้อินเทอร์เน็ต โดยอาศัยหลักจิตวิทยาพื้นฐาน เช่น ความอยากรู้อยากเห็น การกระตุ้นอารมณ์ เช่น ความประหลาดใจ ความโกรธ หรือความสนุกสนาน หรือการสร้างความรู้สึกว่าข้อมูลนั้นมีเวลาจำกัดหรือเป็นความลับที่คนส่วนน้อยเท่านั้นที่จะได้รู้

 

การกระตุ้นให้เกิดการแชร์บนโซเชียลมีเดีย

Clickbait ไม่เพียงแต่กระตุ้นให้เกิดการคลิกเท่านั้น แต่ยังออกแบบมาเพื่อส่งเสริมการแชร์บนโซเชียลมีเดียอีกด้วย เพราะมีเนื้อหาที่มักสร้างความตื่นเต้น ความสงสัย หรือความประหลาดใจ ซึ่งทำให้มีแนวโน้มถูกแชร์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายแบบออร์แกนิค ซึ่งยิ่งมีคนแชร์มากเท่าไหร่ การเข้าถึงก็จะเพิ่มขึ้น ส่งผลให้เนื้อหาได้รับความนิยมและกลายเป็นไวรัลได้ง่ายขึ้น

 

เนื้อหาแบบไหนถึงเรียกว่า Clickbait?

 

เนื้อหาแบบไหนถึงเรียdว่า Clickbait?

รูปภาพจาก : Moody College of Communication

The University of Texas at Austin

 

เนื้อหารูปแบบนี้มีลักษณะเฉพาะที่สังเกตได้ไม่ยาก

 

การใช้ข้อที่เกินจริงหรือดราม่า

 

  • “คุณจะช็อคเมื่อรู้ความจริงเกี่ยวกับอาหารที่คุณกินทุกวัน!” 
  • “10 ความลับที่สายการบินไม่อยากให้คุณรู้ ข้อ 7 น่ากลัวมาก!”

 

การสร้างความอยากรู้อยากเห็น

 

“สิ่งที่เธอทำหลังจากเห็นภาพนี้จะทำให้คุณน้ำตาไหล” หรือ “เปิดกล่องลึกลับพบสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด!”

 

หรือตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ เว็บไซต์ข่าวบันเทิงที่ลงภาพดาราคู่หนึ่งพร้อมพาดหัวข่าวที่สร้างความตื่นเต้น

 

“แฟนคลับช็อค! ความสัมพันธ์ของคู่รักดาราคู่นี้จบลงแล้ว?” การใช้เครื่องหมายคำถามเพื่อสร้างความกำกวม แต่เมื่อคลิกเข้าไปอ่านกลับพบว่าเป็นเพียงข่าวลือที่ไม่มีการยืนยัน หรือเป็นเพียงภาพถ่ายที่พวกเขาไม่ได้อยู่ด้วยกันในงานอีเวนต์หนึ่งเท่านั้น

 

หรือบทความสุขภาพที่มีหัวข้อว่า “วิธีลดน้ำหนัก 10 กิโลในหนึ่งสัปดาห์ที่หมอไม่อยากให้คุณรู้!” แต่เมื่อเข้าไปอ่านกลับพบว่าเป็นวิธีที่อันตรายหรือไม่ได้ผลจริง หรือเป็นเพียงการแนะนำทั่วไปเกี่ยวกับการออกกำลังกายและควบคุมอาหารที่ไม่มีอะไรแปลกใหม่เลย

 

 

ข้อดีและข้อเสียของ Clickbait

 

ข้อดี

หากใช้ Clickbait อย่างเหมาะสมจะช่วยกระตุ้นให้ผู้คนมีส่วนร่วมกับเนื้อหา เช่น การแสดงความคิดเห็น แชร์ หรือกดถูกใจ ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับแพลตฟอร์มที่ต้องการสร้างการรับรู้และขยายฐานผู้ติดตาม นอกจากนี้ยังสามารถช่วยเพิ่มการมองเห็นของแบรนด์หรือเว็บไซต์ในตลาดออนไลน์ หากเนื้อหาสามารถดึงดูดความสนใจ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความน่าเชื่อถือได้ในระยะยาวได้

 

ข้อเสีย

หากใช้ Clickbait ในการตั้งพาดหัวเกินจริงหรือให้ข้อมูลที่ไม่ตรงกับเนื้อหา อาจทำให้ผู้ชมรู้สึกถูกหลอก ซึ่งจะส่งผลเสียต่อความไว้วางใจของผู้ใช้ อาจนำไปสู่การลดลงของผู้ติดตามหรือยอดการเข้าชมในอนาคตได้

 

นอกจากนี้ แพลตฟอร์มใหญ่ ๆ อย่าง Facebook และ Google มีมาตรการตรวจสอบเนื้อหาที่ใช้ Clickbait อีกด้วย หากพบว่ามีการใช้พาดหัวที่เป็นการหลอกลวง อาจทำให้เนื้อหานั้นถูกลดอันดับหรือถูกจำกัดการมองเห็น

 

 

วิธีใช้ Clickbait อย่างมีประสิทธิภาพและไม่เป็นการหลอกลวง

 

วิธีใช้ Clickbait อย่างมีประสิทธิภาพและไม่เป็นการหลอกลวง

รูปภาพจาก : Brafton

 

การหลีกเลี่ยงการใช้ Clickbait ในลักษณะที่บิดเบือน แต่ให้ข้อมูลที่เป็นจริงและให้ประโยชน์แก่ผู้อ่านคือวิธีที่ดีที่สุด เช่น การตั้งพาดหัวที่น่าสนใจแต่ยังคงสะท้อนเนื้อหาภายในอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งเนื้อหาที่สร้างขึ้นควรมีความเกี่ยวข้องกับหัวข้อที่ใช้ Clickbait ด้วยเช่นกัน เพื่อให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์และไม่รู้สึกว่าถูกหลอก นอกจากนี้การใช้ภาษาที่น่าสนใจแต่ไม่เกินจริงจะช่วยให้ผู้ชมมีความไว้วางใจมากขึ้น

 

 

สรุป

Clickbait เป็นกลยุทธ์ที่มีทั้งข้อดีและข้อเสีย หากใช้อย่างเหมาะสมจะช่วยเพิ่มการเข้าถึงและสร้างการมีส่วนร่วมของผู้ชม แต่หากใช้ผิดวิธีอาจส่งผลเสียต่อความน่าเชื่อถือของแบรนด์ได้ ดังนั้นควรใช้อย่างมีจริยธรรม โดยมุ่งเน้นการให้ข้อมูลที่เป็นจริงและสร้างประโยชน์แก่ผู้ชม เพื่อให้สามารถดึงดูดความสนใจได้โดยไม่ทำลายความไว้วางใจในระยะยาว

 

หากคุณกำลังมองหาความช่วยเหลือในการพัฒนาเว็บไซต์หรือการตลาดดิจิทัลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำธุรกิจของคุณ Yes Web Design Studio พร้อมช่วยเหลือคุณ เราคือผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบเว็บไซต์ SEO และการตลาดออนไลน์ครบวงจร พร้อมช่วยพัฒนาเว็บไซต์ที่เหมาะสมกับความต้องการทางธุรกิจของคุณให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน

 

 

 

 

Yes Web Design Studio
Tel. : 096-879-5445
LINE : @yeswebdesign
E-mail : [email protected]
Address : ชั้น 17 อาคารวิทยกิตติ์ ถนนพญาไท วังใหม่ ปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330 (สถานี BTS สยาม)

มีโปรเจกต์ในใจแล้วใช่ไหม ?