รู้จักกับ AI คืออะไร? ทำงานอย่างไร มีอะไรบ้าง ข้อดี-ข้อเสีย

บทความโดย Yes Web Design Studio

AI คืออะไร ทำงานอย่างไร

ปัญญาประดิษฐ์เป็นเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันและอุตสาหกรรมต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว ตั้งแต่ระบบที่สามารถช่วยแนะนำในแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง ไปจนถึงเทคโนโลยีขับเคลื่อนด้วยตัวเองของยานยนต์ ซึ่ง AI มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตและการทำงานของมนุษย์ได้อย่างมาก ในบทความนี้ เราจะมาทำความเข้าใจว่า AI คืออะไร ทำงานอย่างไร มีกี่ประเภท และมีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง

อ่านเพิ่มเติม : AI ในชีวิตประจําวัน มีอะไรบ้าง

 

 

AI คืออะไร?

 

AI คืออะไร?

Credit : Be Connected

 

ปัญญาประดิษฐ์ (AI) หมายถึง เทคโนโลยีที่ทำให้เครื่องจักรและคอมพิวเตอร์สามารถเลียนแบบความสามารถของมนุษย์ในการเรียนรู้ คิดวิเคราะห์ และสามารถตัดสินใจได้ ซึ่ง AI จะสามารถทำงานได้อย่างอัตโนมัติและมีประสิทธิภาพด้วยการอาศัยอัลกอริธึมและข้อมูลจำนวนมาก

 

ประวัติและพัฒนาการของ AI

ปัญญาประดิษฐ์มีรากฐานมาจากปี 1950 เมื่อ Alan Turing ได้นำเสนอแนวคิดเรื่อง “เครื่องที่สามารถคิดได้” และได้พัฒนาแบบทดสอบทัวริง หรือ Turing Test เพื่อวัดความฉลาดของเครื่องจักร จากนั้น AI ก็ได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในหลายช่วงเวลาต่อมา เช่น การพัฒนา Neural Networks ในทศวรรษ 1980 และการเติบโตของ Deep Learning ในช่วงปี 2010 เป็นต้นมา

 

ความแตกต่างระหว่าง AI, Machine Learning และ Deep Learning

แม้ว่าทั้งสามแนวคิดจะมีความเชื่อมโยงกัน แต่จริง ๆ แล้วแต่ละแนวคิดก็ยังมีบทบาทและขอบเขตที่แตกต่างกัน

 

AI คือแนวคิดที่กว้างที่สุด ที่รวมถึงระบบอัจฉริยะหรือเครื่องจักรที่สามารถเลียนแบบความฉลาดของมนุษย์ทุกรูปแบบ และยังครอบคลุมระบบที่สามารถทำให้เครื่องจักรมีความฉลาดโดยที่ไม่ต้องมี Machine Learning หรือ Deep Learning เสมอไป

 

Machine Learning เป็นอีกแขนงหนึ่งของ AI ที่มุ่งเน้นไปที่การให้คอมพิวเตอร์เรียนรู้จากข้อมูลโดยไม่ต้องมีการเขียนโปรแกรมโดยตรง เปรียบเสมือนการสอนให้คอมพิวเตอร์เรียนรู้จากตัวอย่าง และนำข้อมูลไปวิเคราะห์หรือคาดการณ์ต่อ

 

Deep Learning เป็นเทคนิคขั้นสูงของ Machine Learning ที่ใช้โครงข่ายประสาทเทียม หรือ Neural Networks ที่เป็นโครงสร้างเลียนแบบการทำงานของเซลล์ประสาทในสมองมนุษย์ โดยมีหลายชั้นสามารถช่วยให้ AI สามารถเรียนรู้ได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น

 

 

AI ทำงานอย่างไร?

AI ใช้อัลกอริธึมที่ซับซ้อนในการวิเคราะห์ข้อมูลและปรับปรุงความสามารถของตนเองตามข้อมูลที่ได้รับ ซึ่งหลักการทำงานของ AI จะประกอบได้ด้วยกระบวนการหลัก ได้แก่ การรวบรวมข้อมูล การประมวลผล และการตัดสินใจ

 

กระบวนการเรียนรู้ของ AI

  1. Supervised Learning – AI เรียนรู้จากชุดข้อมูลที่มีคำตอบ
  2. Unsupervised Learning – AI ค้นหารูปแบบของข้อมูลโดยไม่มีคำตอบล่วงหน้า
  3. Reinforcement Learning – AI ปรับพฤติกรรมผ่านรางวัลและบทลงโทษ

 

โครงค่ายประสาทเทียม (Neural Networks) และการทำงานของ AI ขั้นสูง

Neural Networks เป็นแบบจำลองที่เลียนแบบโครงสร้างของสมองมนุษย์ ประกอบด้วยเซลล์ประสาทเทียมที่ช่วยให้ AI สามารถเรียนรู้และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในการประมวลผลภาพและการวิเคราะห์ภาษา

 

 

AI มีกี่ประเภท?

 

Narrow AI หรือ Weak AI

เป็นปัญญาประดิษฐ์ที่ถูกพัฒนาเพื่อทำงานเฉพาะด้าน เช่น Siri หรือ Google Assistant หรือแม้กระทั่งระบบแนะนำสินค้า เช่น Amazon, Netflix, และ Youtube ซึ่งจะยังมีข้อจำกัดที่ยังไม่สามารถคิด วิเคราะห์ หรือเรียนรู้ได้เกินขอบเขตที่ถูกตั้งโปรแกรมไว้ได้

 

General AI หรือ Strong AI 

เป็นแนวคิด AI ที่สามารถคิด วิเคราะห์ และเรียนรู้ได้ในระดับเดียวกับมนุษย์ได้ นอกจากนี้ยังสามารถเข้าใจปัญหาที่ซับซ้อน และสามารถแก้ไขปัญหาในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ ซึ่งยังคงอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา

 

Super AI 

เป็นแนวคิด AI ที่สามารถทำงานได้ดีกว่ามนุษย์ในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นความคิด สติปัญญา หรือความสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นแนวคิดในอนาคตและยังไม่มีการพัฒนาให้สมบูรณ์ในปัจจุบัน

 

 

ตัวอย่างการใช้งาน AI ในปัจจุบัน

  1. ธุรกิจและการตลาด – ถูกนำไปใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าและการพัฒนาแคมเปญโฆษณาอัตโนมัติ
  2. การแพทย์และสุขภาพ – ใช้ในการช่วยวินิจฉัยโรคและพัฒนาเวชภัณฑ์
  3. ยานยนต์และระบบขับขี่อัตโนมัติ – มีการใช้ AI ในระบบของรถยนต์ที่ขับเคลื่อนอัตโนมัติ เช่น Tesla Autopilot
  4. ความบันเทิงและเกม – ใช้ในการพัฒนาตัวละครเสมือนจริงและระบบแนะนำคอนเทนต์
  5. การเงินและธนาคาร – ใช้ในระบบป้องกันการฉ้อโกงและการบริหารจัดการพอร์ตการลงทุน

 

 

ข้อดีและข้อเสียของ AI

การใช้ปัญญาประดิษฐ์สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการงานได้ ทั้งรวดเร็วและมีความแม่นยำกว่ามนุษย์ ซึ่งจะช่วยลดข้อผิดพลาดได้อีกด้วย และยังสามารถใช้งานได้ตลอด 24 ชั่วโมง แต่อย่างไรก็ตาม ปัญญาประดิษฐ์ก็ยังมีข้อเสียอยู่เช่นกัน เพราะการใช้ปัญญาประดิษฐ์แทนมนุษย์ก็จะอาจทำให้บางอาชีพสูญเสียแรงงานจากมนุษย์ไป นอกจากนี้ยังมีปัญหาในด้านจริยธรรมและความปลอดภัยอีกด้วย เนื่องจากอาจมีการใช้ AI ในทางที่ผิด ไปจนถึงปัญหาที่เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่จำเป็นจะต้องใช้ในการพัฒนา AI 

 

 

อนาคตของ AI และแนวโน้มการพัฒนา

ในอนาคต ปัญญาประดิษฐ์จะมีผลต่อวิถีชีวิตของผู้คน และเข้ามามีบทบาทในหลาย ๆ อุตสาหกรรม และจะมีการพัฒนาโดยนักวิจัยที่จะทำให้ปัญญาประดิษฐ์มีศักยภาพที่จะเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยยิ่งขึ้น

 

AI เป็นเทคโนโลยีที่มีบทบาทสำคัญในโลกปัจจุบัน และมีแนวโน้มจะพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง หากธุรกิจของคุณต้องการนำ AI ไปใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ หรือพัฒนาเว็บไซต์ที่รองรับเทคโนโลยี AI สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของ Yes Web Design Studio ได้เลย เราเป็นบริษัทเว็บดีไซน์แนวหน้าในไทย รับทำเว็บไซต์ครบวงจร รวมถึงการตลาดออนไลน์และ SEO

 

 

 

 

Yes Web Design Studio
Tel. : 096-879-5445
LINE : @yeswebdesign
E-mail : [email protected]
Address : ชั้น 17 อาคารวิทยกิตติ์ ถนนพญาไท วังใหม่ ปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330 (สถานี BTS สยาม)

มีโปรเจกต์ในใจแล้วใช่ไหม ?