โลกของปัญญาประดิษฐ์กำลังก้าวไปอีกขั้นด้วยการเปิดตัวโมเดลใหม่จาก OpenAI ที่ชื่อว่า o3 และ o4-mini ถูกฝึกให้ “คิดให้ลึกก่อนตอบ” และนับว่าเป็นโมเดลที่ฉลาดที่สุด OpenAI ณ ขณะนี้ ถือเป็นก้าวกระโดดด้านความสามารถของ ChatGPT ทั้งสำหรับผู้ใช้ทั่วไปและนักวิจัยระดับสูง และบทความนี้จะพาคุณไปรู้จักโมเดลใหม่เหล่านี้ให้มากขึ้นกัน
OpenAI o3 และ o4-mini คืออะไร? ทำไมถึงน่าจับตามอง
รูปภาพจาก : OpenAI
OpenAI o3 และ o4-mini เป็นโมเดลใหม่ล่าสุดในกลุ่ม o-series จาก OpenAI ที่ถูกพัฒนาต่อยอดจากความสำเร็จของรุ่นก่อน ๆ โดย o3 ได้รับการออกแบบให้มีความสามารถในการประมวลผลข้อมูลที่ซับซ้อนได้ดียิ่งขึ้น ในขณะที่ o4-mini เป็นเวอร์ชันที่มีขนาดเล็กลงแต่ยังคงประสิทธิภาพสูง เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการความรวดเร็วและทรัพยากรที่จำกัด
การพัฒนาครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่โมเดลในกลุ่ม reasoning สามารถใช้เครื่องมือทั้งหมดใน ChatGPT ได้อย่างอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาข้อมูลผ่านเว็บ การวิเคราะห์ไฟล์และข้อมูลด้วย Python การตีความข้อมูลภาพเชิงลึก หรือการสร้างภาพใหม่ และที่สำคัญ โมเดลเหล่านี้ถูกฝึกให้รู้ว่า ควรใช้เครื่องมือใด เมื่อใด และอย่างไร เพื่อให้ได้คำตอบที่ละเอียด รอบคอบ และยังมีความสามารถจัดการกับปัญหาที่ซับซ้อนและมีหลายแง่มุมได้ดีขึ้น
โมเดล OpenAI o3 และ o4-mini มีอะไรที่เปลี่ยนไปบ้าง
OpenAI o3
เป็นโมเดลด้านการให้เหตุผลที่ทรงพลังที่สุด ครอบคลุมการเขียนโค้ด คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ การมองเห็นภาพ และอื่น ๆ โดยทำลายสถิติเดิม (SOTA) ในหลาย benchmark เช่น Codeforces, SWE-bench (โดยไม่ต้องสร้าง scaffolding เฉพาะ) และ MMMU เป็นโมเดลที่เหมาะกับคำถามซับซ้อนที่ต้องวิเคราะห์หลายมิติ มีความสามารถในการด้านการวิเคราะห์ภาพ แผนภูมิ กราฟิก ลดการทำงานผิดพลาดน้อยลง ถึง 20% เมื่อเทียบกับ o1 นอกจากนี้ยังโดดเด่นด้าน programming การให้คำปรึกษาทางธุรกิจ และการคิดเชิงสร้างสรรค์
OpenAI o4-mini
โมเดลรุ่นนี้มีขนาดเล็ก ถูกออกแบบมาเพื่อการใช้เหตุผลแบบรวดเร็วและคุ้มค่า ทั้งด้านต้นทุนและเวลาทำงานได้ดีเยี่ยมในงานด้านคณิต การเขียนโค้ด และการวิเคราะห์ภาพ เหมาะกับการใช้งานที่ปริมาณสูงและต้องการ throughput สูง
ใช้เครื่องมือแบบอัตโนมัติได้อย่างชาญฉลาด (Agentic Tool Use)
รูปภาพจาก : OpenAI
โมเดล OpenAI o3 และ o4-mini สามารถใช้เครื่องมือที่อยู่ใน ChatGPT ได้ทั้งหมด รวมถึงเครื่องมือพิเศษที่คุณสร้างเองผ่าน API ด้วย โดยสามารถคิดวิเคราะห์ และเลือกใช้เครื่องมือได้อย่างเหมาะสม เพื่อให้ได้คำตอบที่ถูกต้องและละเอียด ภายในเวลาไม่ถึง 1 นาที
ถ้าคุณถามว่า “การใช้พลังงานหน้าร้อนในแคลิฟอร์เนียปีนี้จะเป็นยังไงเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว?” โมเดลจะสามารถค้นหาข้อมูลจากเว็บ เขียนโค้ด Python เพื่อคำนวณหรือคาดการณ์ สร้างกราฟหรือรูปภาพขึ้นมา และอธิบายเหตุผลทั้งหมดอย่างอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังสามารถ ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมโดยอัตโนมัติหากผู้ใช้เจอข้อจำกัดระหว่างทาง เป็นการประมวลผลแบบมีเหตุมีผลที่ปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์
ความสามารถด้าน Multimodal ในการวิเคราะห์ภาพ
รูปภาพจาก : OpenAI
โมเดลเหล่านี้สามารถผสานภาพเข้ากับกระบวนการคิดได้โดยตรง ไม่ว่าจะเป็นการตีความภาพจากไวท์บอร์ด หนังสือเรียน หรือภาพสเกตช์ แม้ว่าภาพจะเบลอ กลับด้าน หรือคุณภาพต่ำ นอกจากนี้ยังสามารถหมุนภาพ ขยายภาพ หรือแปลงภาพเพื่อช่วยให้วิเคราะห์ได้ดีขึ้น ซึ่งนับว่าโมเดลเหล่านี้มีความสามารถระดับสูงสุดในงานวิเคราะห์ภาพที่เคยมีมา
Reinforcement Learning ที่ปรับขนาดได้
จากการสังเกตได้ในการฝึกอบรมล่วงหน้าของซีรีส์ GPT นั้น OpenAI พบว่าการเพิ่มทรัพยากรด้านการฝึกฝนใน o3 ส่งผลดีต่อประสิทธิภาพของโมเดลในเรื่องของ “ยิ่งคิดได้นาน = ยิ่งฉลาด” นอกจากนี้ OpenAI ยังมีการฝึกทั้งสองโมเดลให้ใช้เครื่องมือผ่านการเรียนรู้แบบเสริมแรง ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นการสอนให้โมเดลรู้วิธีใช้เครื่องมือเท่านั้น แต่ยังสอนให้คิดด้วยว่าควรใช้เครื่องมือเมื่อใด ซึ่งความสามารถในการใช้เครื่องมือตามผลลัพธ์ที่ต้องการทำให้โมเดลมีความสามารถมากขึ้นในสถานการณ์ต่าง ๆ
ด้านความปลอดภัย
OpenAI ได้สร้างชุดข้อมูลฝึกใหม่สำหรับการปฏิเสธคำสั่งที่เป็นอันตราย ไม่ว่าจะเป็นความเสี่ยงทางชีวภาพ (biorisk) การสร้างไวรัสคอมพิวเตอร์ หรือการพยายามเจาะระบบ (jailbreak) นอกจากความสามารถในการปฏิเสธของโมเดล ยังมีระบบตรวจจับอัตโนมัติระดับระบบ (system-level mitigations) ที่สามารถตรวจจับคำสั่งที่มีความเสี่ยงสูง และป้องกันการใช้โมเดลในทางที่อันตราย
เครื่องมือโค้ดดิ้งอัจฉริยะในเทอร์มินัล Codex CLI
OpenAI เปิดตัว Codex CLI เป็นเครื่องมือใหม่ที่เป็นเอเจนต์โค้ดดิ้งน้ำหนักเบา ที่สามารถใช้งานได้ผ่านเทอร์มินัลบนเครื่องของคุณเอง ซึง่มีคุณสมบัติเด่น ดังนี้
- ทำงานบนเครื่องคุณโดยตรงโดยไม่ต้องรันบนคลาวด์หรือเซิร์ฟเวอร์ภายนอก
- ออกแบบมาเพื่อเสริมพลังการให้เหตุผลของโมเดล o3 และ o4-mini และในอนาคตจะรองรับโมเดล GPT-4.1 ผ่าน API
- รองรับ reasoning แบบมัลติโหมด (Multimodal reasoning) เช่น ส่งภาพหน้าจอ (screenshot) หรือร่างภาพโค้ดแล้วให้โมเดลวิเคราะห์และตอบกลับผ่าน CLI ได้โดยตรง
- เข้าถึงโค้ดที่อยู่ในเครื่อง ทำให้คุณสามารถวิเคราะห์ แก้ไข หรืออธิบายโค้ดได้อย่างแม่นยำและสอดคล้องกับไฟล์ที่มีอยู่
- อินเทอร์เฟซเรียบง่าย เน้นประสิทธิภาพ ใช้งานสะดวก เชื่อมโมเดล AI กับผู้ใช้โดยตรงผ่าน command line
โมเดล o3 และ o4-mini เหมาะกับงานประเภทไหน?
โมเดล o3 และ o4-mini ทำงานเหมือนผู้ช่วยอัจฉริยะที่รู้ว่าเมื่อไหร่ควรใช้เครื่องมือไหน เพื่อให้คุณได้คำตอบที่ถูกต้อง รวดเร็ว และครอบคลุมที่สุด เหมาะกับงานที่ต้องใช้ข้อมูลล่าสุด การคิดวิเคราะห์เชิงลึก การรวมข้อมูลจากหลายแหล่ง และงานที่ต้องการสร้างผลลัพธ์แบบหลากหลาย เช่น ข้อความ โค้ด รูปภาพ หรือกราฟ ซึ่งถ้าค้นหาข้อมูลรอบแรกแล้วยังไม่พอ โมเดลสามารถค้นใหม่ ปรับคำค้น และสรุปข้อมูลเพิ่มเติมได้เอง
เปรียบเทียบ o1 vs o3 vs o4-mini
รูปภาพจาก : OpenAI
o3 และ o4-mini เป็นโมเดลที่ฉลาดที่สุดที่ OpenAI เคยเปิดตัวมา และยังมีประสิทธิภาพสูงกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่าง o1 และ o3-mini ด้วย โมเดล o3 มีความคุ้มค่าด้านต้นทุนต่อประสิทธิภาพดีกว่า o1 ส่วนโมเดล o4-mini ก็แสดงให้เห็นว่าดีกว่า o3-mini อย่างชัดเจน โดยรวมแล้ว ในการใช้งานจริงส่วนใหญ่ การเลือกใช้ o3 ฉลาดและประหยัดกว่ารุ่น o1 ส่วนการเลือกใช้ o4-mini จะจัดว่าเป็โมเดลที่ฉลาดและคุ้มค่ากว่า o3-mini
เริ่มต้นใช้งาน OpenAI o3 และ o4-mini
สำหรับผู้ใช้งานแบบเสียเงิน (Plus, Pro, Team) – จะสามารถเลือกใช้โมเดล o3 o4-mini และ o4-mini-high โดยโมเดลเหล่านี้จะมา แทนที่ o1, o3-mini และ o3-mini-high เดิม
สำหรับ Enterprise และ Edu – สามารถใช้งานโมเดลใหม่ได้ในอีกหนึ่งสัปดาห์หลังจากวันที่โมเดลประกาศเปิดตัว (16 เมษายน 2568)
สำหรับผู้ใช้ฟรี – สามารถลองใช้ o4-mini ได้ โดยเลือกโหมด ‘Think’ ก่อนส่งคำถาม
สิ่งที่จะมาเร็ว ๆ นี้
OpenAI เตรียมเปิดตัว o3-pro พร้อมฟีเจอร์เครื่องมือครบถ้วน สำหรับผู้ใช้แบบ Pro แต่ในระหว่างนี้ยังสามารถใช้งาน o1-pro ได้ตามปกติ
อนาคตของโมเดล AI จาก OpenAI
OpenAI กำลังรวมความสามารถเฉพาะทางด้านการใช้เหตุผลของโมเดลตระกูล o-series เข้ากับความสามารถในการสนทนาอย่างเป็นธรรมชาติและการใช้เครื่องมือของ GPT-series มากยิ่งขึ้น ด้วยการผสานจุดแข็งทั้งสองด้านนี้ ซึ่งในอนาคตเราจะได้ใช้โมเดลที่สามารถสนทนาได้อย่างลื่นไหล เป็นธรรมชาติ แก้ปัญหาที่มีความซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สรุป
การเปิดตัวโมเดล OpenAI o3 และ o4-mini ถือเป็นหมุดหมายสำคัญของวิวัฒนาการด้านปัญญาประดิษฐ์ ด้วยการผสานศักยภาพด้านการคิดวิเคราะห์เชิงลึกเข้ากับความสามารถในการใช้เครื่องมืออย่างชาญฉลาดและเป็นอัตโนมัติ โมเดลเหล่านี้ได้ยกระดับความสามารถของ AI จากเพียงเครื่องมือให้คำตอบ มาเป็น “ผู้ช่วยอัจฉริยะ” ที่สามารถเข้าใจ วิเคราะห์ และดำเนินการเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ถูกต้อง ครอบคลุม และมีประสิทธิภาพสูงสุด
ทั้ง o3 และ o4-mini ไม่เพียงตอบโจทย์การใช้งานในระดับผู้ใช้ทั่วไปเท่านั้น แต่ยังเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับงานวิจัย การเขียนโค้ด การวิเคราะห์ภาพ การคาดการณ์ข้อมูล หรือการสร้างสรรค์ผลงานเชิงซับซ้อนที่ OpenAI ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า AI ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องจักรที่ทำตามคำสั่ง แต่สามารถกลายเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ที่ “คิดก่อนทำ” และพร้อมปรับตัวตามบริบทของปัญหาในแต่ละสถานการณ์ได้อย่างแท้จริง
หากธุรกิจของคุณต้องการคำปรึกษาเกี่ยวกับการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาประยุกต์ใช้ สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของ Yes Web Design Studio ได้ เราเป็นบริษัทเว็บดีไซน์ชั้นนำในไทยที่ไม่เพียงรับทำเว็บไซต์ แต่ยังให้คำปรึกษาด้านการตลาดดิจิทัลและ AI Solution อย่างครบวงจร
Yes Web Design Studio
Tel. : 096-879-5445
LINE : @yeswebdesign
E-mail : [email protected]
Address : ชั้น 17 อาคารวิทยกิตติ์ ถนนพญาไท วังใหม่ ปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330 (สถานี BTS สยาม)
ข้อมูลอ้างอิง : https://www.google.com/url?q=https://openai.com/index/introducing-o3-and-o4-mini