Featured Snippets ดันอันดับให้อยู่เหนือที่ 1

บทความโดย Yes Web Design Studio

ถ้านึกถึงการจัดอันดับที่ดีที่สุดในการทำเว็บไซต์หรือการทำ SEO คนทั่วไปย่อมรู้ว่ามันเริ่มต้นด้วยอันดับ 1 แต่รู้หรือไม่!? ว่าจริง ๆ แล้วเราสามารถทำให้เว็บไซต์ของเราไปแสดงผลอยู่ในอันดับ 0 ได้ด้วยนะ! ซึ่งชุดข้อมูลที่แสดงอยู่ในอันดับ 0 บน Google นี้ จะถูกเรียกว่า Featured Snippets นั่นเอง

แต่ Featured Snippets ก็ไม่ได้มีแค่แบบสองแบบนะ มันมีการแสดงผลหลายแบบมาก ขึ้นอยู่กับว่าเนื้อหาในบทความนั้น ๆ เป็นอย่างไรและเกี่ยวข้องกับอะไร และอีกหนึ่งเหตุผลที่คุณควรทำ Featured Snippets สุด ๆ ก็คือคุณจะมีโอกาสได้ยอด Impression และ Click เพิ่มขึ้นกว่า 20% เลยทีเดียว

ดังนั้น สำหรับบทความ Featured Snippets ในวันนี้ ทาง Yes Web Design Studio จะมาไขข้อสงสัยให้รู้กันว่าสิ่งนี้คืออะไร? มีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร? มีกี่ประเภท? และแนะนำวิธีการเขียนคอนเทนต์เพื่อเพิ่มโอกาสในการแสดง Featured Snippets ด้วยเช่นกัน! ถ้าพร้อมแล้ว เราไปทำความรู้จักกับ Featured Snippets ได้เลย!

Featured Snippets คืออะไร?

Featured Snippets คือ ผลการค้นหาที่แสดงรายละเอียดหรือข้อมูลเกี่ยวกับ Keyword ที่ผู้คนได้ค้นหา โดยไม่จำเป็นต้องกดคลิกเข้าไปอ่านในเว็บไซต์ก็รู้ข้อมูลที่ต้องการในเบื้องต้นแล้ว ซึ่ง Featured Snippets จะอยู่ในอันดับ 0 (Position zero) หรืออยู่สูงที่สุดของหน้า เรียกได้ว่าเป็นหนทางในทำให้คุณอยู่เหนืออันดับ 1 ที่นับว่าเป็นตำแหน่งที่ดีที่สุดขึ้นไปอีก!

Google ได้นำ Featured Snippets เข้ามาใช้งาน โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2014 เป็นต้นมา ด้วยเป้าหมายคือการทำให้ผู้ใช้งานสามารถเจอคำตอบที่ต้องการได้ทันที เพียงแค่เสิร์ชข้อมูลบน Google เท่านั้น ไม่ต้องเสียเวลากดเข้าไปดู แต่ถ้าอยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติมก็สามารถกดเข้าไปอ่านข้อมูลฉบับเต็มได้ ทำให้บางคนเรียก Featured Snippets ว่า Answer Boxes

Example of Featured Snippets on Google

Featured Snippet มีกี่ประเภท?

หลักในการแสดงประเภทของ Featured Snippets มีความคล้ายคลึงกับการแสดงหน้าเว็บไซต์ เพราะจะอ้างอิงจาก Search Intent หรือสิ่งที่คนอยากรู้ เมื่อทำการค้นหาสิ่งนั้น ๆ เช่น การค้นหาคำว่า “แมวร้อง” Featured Snippets ที่ขึ้นมาก็จะอยู่ในรูปแบบของวิดีโอคลิป ที่สามารถกดฟังได้ว่าแมวร้องอย่างไร หรือท่าทางของแมวตอนร้องเป็นอย่างไร เป็นต้น

Featured Snippets Video Example
  1. Paragraph
    Featured Snippets ประเภท Paragraph หรือ ข้อความ เป็นประเภทที่เราสามารถพบเจอได้บ่อยมากที่สุด โดยจะแสดงเป็นข้อความยาว ๆ มีการอธิบายอย่างกระชับและตรงจุด ซึ่งจะมีรูปภาพประกอบด้วยหรือไม่ก็ได้
  1. Table
    Featured Snippets ประเภท Table หรือ ตาราง จะแสดงผลเป็นตารางตามชื่อเรียก มักจะพบเจอในการค้นหาคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับค่าใช้จ่าย อย่างการสอบถามราคา หรือจะเป็นการเปรียบเทียบก็ข้อมูลก็พบได้เช่นกัน
  1. Numbered List
    Featured Snippets ประเภท Numbered List จะเป็นลิสต์แบบตัวเลข เรียงลำดับตามเลข 1, 2, 3, 4, 5 …. มักจะปรากฎขึ้นกับการค้นหาที่มีลำดำ อันดับ หรือขั้นตอนเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น ขั้นตอนการทำน้ำซุปกระดูกหมู, อันดับบริษัททำเว็บไซต์ที่ดีที่สุดในไทยในปี 2023 หรือ วิธีการล้างหน้าที่ถูกต้อง เป็นต้น
  1. Bullet List
    Featured Snippets ประเภท Bullet List จะคล้าย ๆ กับแบบ Numbered List ซึ่งจะแสดงข้อมูลเป็นข้อ ๆ เพียงแต่ว่าไม่ได้เป็นลำดับแบบตัวเลขเท่านั้นเอง เช่น ข้อดีของการทำ SEO หรือประโยชน์ของการกินโกโก้ เป็นต้น
  1. Video
    Featured Snippets ประเภท Video มักจะแสดงวิดีโอคลิปจาก Youtube เป็นหลัก โดยจะพบได้บ่อยในการค้นหาคำตอบผ่านการรับชมภาพและเสียงไปพร้อม ๆ กัน เช่น การค้นหาชื่อเพลง, การค้นหาซื้อศิลปิน หรือ How To ต่าง ๆ 
  1. e-Commerce
    Featured Snippets ประเภท e-Commerce จะพบได้จากการค้นหาสินค้า เว็บที่จะดึงนำมาแสดงก็จะเป็นประเภทเว็บไซต์ e-Commerce ที่มีพลังมาก ๆ อย่าง Shopee หรือ Lazada เป็นต้น โดยที่คุณจะเห็นภาพสินค้า ชื่อสินค้า และราคาได้ตั้งแต่หน้า Google จากนั้นก็สามารถกดคลิกเข้าไปเพื่อทำการสั่งซื้อได้เลย

เขียนบทความยังไงให้แสดง Featured Snippets

จริง ๆ เทคนิคในการเขียนบทความเพื่อให้ Google แสดงผลเว็บไซต์ของเราในรูปแบบของ Featured Snippets นั้นก็ไม่ได้แตกต่างจากหลักการเขียนบทความ SEO หรือการทำ SEO ทั่ว ๆ ไป แต่อาจจะมีรายละเอียดที่มากกว่าในระดับหนึ่ง และต้องเอาหลาย ๆ ศาสตร์ของ SEO มาประกอบกัน เราตามไปดูกันกว่าว่าจะเขียนบทความ SEO ยังไงให้โดนใจ Google จนเอาบทความเราไปอยู่ในอันดับที่สูงที่สุด!!

คำนึงถึง E-E-A-T Factor

“Content is King” คือเรื่องจริง เพราะ Google ให้ความสำคัญกับคุณภาพของเนื้อหามากที่สุด!! คุณควรเขียนบทความโดยการคำนึงที่ Google E-E-A-T ที่เป็น Factor ที่ Google ปล่อยออกมาเพื่อคัดกรองคุณภาพของเนื้อหา สามารถตามไปอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ว่า E-E-A-T คืออะไร?

การใช้ Long Tail Keyword

Long Tail Keyword หรือคีย์เวิร์ดที่ยาว ๆ จะมีความเฉพาะเจาะจงมากกว่า Short Tail Keywords หรือคำสั้น ๆ ทำให้ Search Volume ของ Long Tail Keyword น้อยกว่า คู่แข่งน้อยกว่า และมีโอกาสที่จะติดอันดับในหน้าแรกเร็วกว่า

การวางตำแหน่ง Heading


Heading Tag หรือ HTML Tag เป็น Tag ที่ใช้กำหนดหรือระบุหัวข้อในบทความ จะมีตั้งแต่ H1 ที่มีความสำคัญที่สุด เพราะจะอยู่ด้านบนสุดของบทความ เพื่อบอกว่าบทความนี้จะกล่าวถึงอะไร คล้าย ๆ กับ Title รองลงมาก็จะเป็น H2, H3, H4, H5 หรือ H6 ตามลำดับ

เริ่มต้นจากการติดหน้าแรกก่อน


Google คงไม่หยิบบทความที่ติดอันดับการค้นหาในหน้าท้าย ๆ มาอย่างแน่นอน เพราะอันดับ 0 เป็นตำแหน่งทองคำที่ใคร ๆ ก็ต้องการ ไม่เว้นแต่อันดับ 1 เองก็ตาม ดังนั้น Google ก็จะหยิบบทความที่เป็นดาวเด่นหรือติดหน้าแรกอยู่แล้วเลื่อนขึ้นอยู่ในอันดับ 0 และแสดง Featured Snippets  เราจึงขอแนะนำให้คุณทำบทความที่มีประสิทธิภาพ คอยปรับปรุงทำคอนเทนต์ และมีการอัปเดตอยู่เสมอ เพื่อทำให้อันดับของบทความของคุณไปติดอยู่ในหน้าแรกของ Google ให้ได้ก่อน

สรุป

หากถามว่าการทำบทความให้ติด Featured Snippets นั้น ทำยากหรือไม่? ต้องบอกว่าขึ้นอยู่กับ Keyword ที่คุณเลือก, จำนวนคู่แข่งที่ทำบทความเรื่องเดียวกัน, การทำคอนเทนต์ที่มีคุณภาพและตอบโจทย์สิ่งที่ผู้คนต้องการค้นหา นอกจากนี้ การทำ On-Page SEO ที่ถูกต้องก็สำคัญไม่แพ้กัน อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณมีการศึกษาไว้แล้วว่า Keyword ที่คุณเลือกมี Search Intent เป็นอย่างไร โอกาสที่เว็บไซต์ของคุณจะไปติดอยู่บนอันดับ 0 ก็จะสูงขึ้นอย่างแน่นอน!

Yes Web Design Studio

Tel. : 096-879-5445
LINE : @yeswebdesign
E-mail : info@yeswebdesignstudio.com
Facebook : Yes Web Design Studio I Web Design Company Bangkok
Instagram : yeswebdesign_bkk
Address : ชั้น 17 อาคารวิทยกิตติ์ ถนนพญาไท วังใหม่ ปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330 (สถานี BTS สยาม)

มีโปรเจกต์ในใจแล้วใช่ไหม ?