Copilot Appearance มาแล้ว! ฟีเจอร์ใหม่จาก Microsoft

Share this article

ยุคของ AI ผู้ช่วยที่มีแค่ข้อความเปล่า ๆ บน Windows กำลังจะหมดไป เพราะล่าสุด Microsoft ได้เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ที่ชื่อว่า “Copilot Appearance” ฟีเจอร์นี้ไม่ใช่แค่การปรับปรุงหน้าตาของ Chatbot รูปแบบธรรมดาเท่านั้น แต่เป็นการปฏิวัติประสบการณ์การใช้งาน AI ที่จะทำให้รู้สึกเหมือนมีผู้ช่วยจริง ๆ อยู่เคียงข้าง

การพัฒนา AI ที่มีมิติทางอารมณ์และการแสดงออกทางสีหน้า กำลังเป็นกระแสใหม่ที่หลายบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ให้ความสนใจ Microsoft ในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยี AI ได้ก้าวไปข้างหน้าด้วยการเปิดตัว Copilot Appearance ที่จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้งานบน Windows 11

อ่านบทความเพิ่มเติม : AI Chatbot คืออะไร ? มาทำความรู้จักกัน

 

 

Copilot Appearance คืออะไร?

 

Copilot Appearance คืออะไร?

 

Copilot Appearance คือเทคโนโลยีใหม่ที่ Microsoft พัฒนาขึ้นเพื่อให้ Copilot มีใบหน้าและการแสดงออกทางอารมณ์ที่สมจริง ฟีเจอร์นี้ทำให้ AI ผู้ช่วยของ Microsoft ไม่ใช่แค่เสียงหรือข้อความอีกต่อไป แต่กลายเป็น “คู่สนทนา” ที่มีบุคลิกภาพและสามารถแสดงความรู้สึกผ่านการเปลี่ยนแปลงของใบหน้า

 

 

Copilot Appearance น่าสนใจยังไง?

จุดเด่นที่โดดเด่นที่สุดของ Copilot Appearance คือความสามารถในการแสดงอารมณ์ และโทนน้ำเสียงแบบเรียลไทม์ระหว่างการสนทนา ไม่ว่าจะเป็นการยิ้ม เมื่อช่วยเหลือผู้ใช้สำเร็จ การแสดงความกังวลเมื่อเจอปัญหาซับซ้อน หรือการแสดงความตื่นเต้นเมื่อค้นพบข้อมูลใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ

 

 

ต่างจาก Copilot รุ่นเดิมยังไง?

ความแตกต่างจาก Copilot รุ่นเดิมอย่างชัดเจน คือการเปลี่ยนจากการโต้ตอบแบบ “เครื่องจักร” มาเป็นการสื่อสารแบบ “มนุษย์” มากขึ้น การมีใบหน้าและสีหน้าทำให้ผู้ใช้รู้สึกเชื่อมโยงและสร้างความไว้วางใจกับ AI มากกว่าการใช้งานแบบเดิมที่เป็นเพียงหน้าต่างแชทธรรมดา

ในการทดสอบเบื้องต้น ผู้ใช้รายงานว่าประสบการณ์การใช้งาน Copilot Appearance ให้ความรู้สึกที่อบอุ่นและเป็นมิตรมากกว่า ทำให้การขอความช่วยเหลือหรือการสนทนาเกี่ยวกับงานต่าง ๆ กลายเป็นเรื่องธรรมชาติมากขึ้น

 

 

ฟีเจอร์นี้ใช้งานอย่างไร? มีอะไรใหม่บ้าง?

 

ฟีเจอร์ Copilot Appearance ใช้งานอย่างไร? มีอะไรใหม่บ้าง?

 

Copilot Appearance มาพร้อมกับการแสดงผลแบบ Floating UI ซึ่งเป็นหน้าต่างลอยตัวขนาดเล็กที่มีใบหน้าของ Copilot ปรากฏอยู่ จุดเด่นของหน้าต่างนี้คือ

 

ไม่ยึดติดกับตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งบนหน้าจอ

ผู้ใช้สามารถลากและวางไปยังมุมต่าง ๆ ของหน้าจอได้อย่างอิสระ เช่น

  • มุมล่างขวาเพื่อไม่ให้รบกวนการใช้งาน
  • ข้าง ๆ แอปที่กำลังเปิด
  • หรือแม้แต่ย้ายไปไว้บนจอภาพที่สอง

 

รองรับการทำงานหลายหน้าจอ

ไม่ว่าผู้ใช้จะย้าย Copilot ไปอยู่บนจอไหน ระบบจะยังคงทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ

 

สร้างพื้นที่ส่วนตัวสำหรับ Copilot ได้

ผู้ใช้สามารถกำหนดพื้นที่เฉพาะบนเดสก์ท็อปให้เป็นเหมือน “สำนักงานเสมือน” ของ Copilot ซึ่งช่วยให้ AI เข้าถึงข้อมูลและสนับสนุนการทำงานได้อย่างราบรื่น

 

รองรับคำสั่งเสียง “Hey Copilot”

เมื่อเรียกด้วยเสียง หน้าต่าง Floating UI จะปรากฏขึ้นพร้อมใบหน้าของ Copilot ที่พร้อมรับฟังและตอบสนองทันที การผสานระหว่างการควบคุมด้วยเสียงและภาพแสดงผลแบบโต้ตอบ ที่จะช่วยให้ประสบการณ์ใช้งานสมจริงยิ่งขึ้น

 

 

Microsoft พัฒนา Copilot Appearance ขึ้นมาทำไม?

การออกแบบ Copilot Appearance ไม่ได้เป็นเพียงการเปลี่ยนรูปลักษณ์ แต่สะท้อนถึงแนวคิดเชิงลึกด้านประสบการณ์ผู้ใช้ (UX) ที่ Microsoft ตั้งใจพัฒนา โดยมีเหตุผลหลักดังนี้

 

เสริมความไว้วางใจผ่านลักษณะการทำงานที่คล้ายมนุษย์

จากการศึกษาพฤติกรรมผู้ใช้ Microsoft พบว่าผู้คนมีแนวโน้มไว้วางใจและรู้สึกสบายใจมากขึ้นเมื่อโต้ตอบกับ AI ที่มีรูปลักษณ์คล้ายมนุษย์ การเพิ่มองค์ประกอบ เช่น ใบหน้า และการแสดงออกทางอารมณ์ ช่วยลดอคติหรืออุปสรรคทางจิตใจที่อาจมีต่อการใช้งาน AI

 

เปลี่ยนจากเครื่องมือสู่เพื่อนร่วมงาน

Microsoft เชื่อว่าหากผู้ใช้รู้สึกว่า Copilot เป็นเพื่อนร่วมงานที่คอยช่วยเหลือมากกว่าแค่เครื่องมือ พวกเขาก็อาจจะ

  • ใช้งานบ่อยขึ้น
  • เปิดรับฟีเจอร์ใหม่ ๆ ได้ง่ายขึ้น
  • มีแรงจูงใจในการเรียนรู้และปรับตัวกับเทคโนโลยีใหม่

 

สร้างประสบการณ์ผู้ช่วยที่สมจริง

Copilot Appearance คือก้าวแรกสู่เป้าหมายระยะยาวของ Microsoft ในการทำให้ AI เป็นผู้ช่วยเสมือนที่ทำงานร่วมกับมนุษย์อย่างไร้รอยต่อ

 

 

Copilot Appearance ใช้ได้กับ Windows รุ่นไหน? ใครสามารถใช้งานได้บ้าง?

Copilot Appearance ยังอยู่ในขั้นตอนการทดสอบ และรองรับเฉพาะในบางเวอร์ชันและบางกลุ่มผู้ใช้ รายละเอียดดังนี้

 

รองรับเฉพาะบน Windows 11 – Insider Dev Build

 

  • รองรับเฉพาะ Windows 11
  • ผู้ใช้ต้องเข้าร่วมโปรแกรม Windows Insider และเลือก Dev Channel
  • Dev Build เป็นเวอร์ชันทดลองที่มีฟีเจอร์ใหม่ก่อนใคร แต่ยังอาจมีความไม่เสถียร

 

เปิดให้ทดลองใช้งานเฉพาะบางประเทศ

Microsoft เริ่มทดสอบ Copilot Appearance กับผู้ใช้ในบางประเทศ ได้แก่

  • สหรัฐอเมริกา
  • สหราชอาณาจักร
  • แคนาดา

ประเทศเหล่านี้ถูกเลือกเนื่องจากมีฐานผู้ใช้ Windows Insider ที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก ช่วยให้ Microsoft สามารถรวบรวมข้อมูลและปรับปรุงฟีเจอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

แผนการขยายในอนาคต

 

  • Windows 11 รุ่นทั่วไป (Stable Version): คาดว่าจะเริ่มใช้งานได้ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2025 หากผลการทดสอบเป็นที่น่าพอใจ
  • รองรับภาษาอื่น รวมถึงภาษาไทย: เมื่อเปิดตัวในวงกว้าง จะมีการรองรับหลายภาษาเพิ่มเติม
  • Windows 12 (คาดว่าเปิดตัวในปี 2026): Copilot Appearance มีแนวโน้มจะกลายเป็นฟีเจอร์มาตรฐานในระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ ซึ่งเน้นการผสาน AI เป็นส่วนสำคัญของประสบการณ์ใช้งาน

 

วิธีเข้าทดสอบใช้งาน Copilot Appearance

สำหรับผู้ที่สนใจทดลองใช้งาน สามารถดำเนินการได้ดังนี้

  1. ไปที่ Settings > Windows Update > Windows Insider Program
  2. ลงทะเบียนเข้าร่วมโปรแกรม Windows Insider และเลือก Dev Channel
  3. ดาวน์โหลดและติดตั้ง Dev Build (แนะนำให้ใช้กับอุปกรณ์สำรอง เพราะอาจพบปัญหาในการใช้งานทั่วไป)

 

 

Copilot Appearance มีผลต่อผู้ใช้อย่างไรบ้าง?

การเปิดตัว Copilot Appearance ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อประสบการณ์ของผู้ใช้ในหลายมิติ โดยเฉพาะในแง่ของความยืดหยุ่น ความเป็นมิตร และความต่อเนื่องในการทำงาน ดังนี้

 

เพิ่มความยืดหยุ่นในการทำงาน

ผู้ใช้สามารถปรับตำแหน่ง และขนาดของหน้าต่าง Copilot ได้อย่างอิสระ

  • วางไว้ที่มุมจอเพื่อให้คำปรึกษาระหว่างทำงาน
  • ขยายเป็นแบบเต็มหน้าจอเมื่อโฟกัสกับการสนทนากับ AI
    การออกแบบนี้ช่วยให้ผู้ใช้เลือกวิธีการใช้งานที่เหมาะกับตนเองได้มากขึ้น

 

ส่งเสริมประสิทธิภาพสำหรับสายงาน Productivity

ผู้ที่ทำงานด้านการจัดการ งานเขียน หรือการวิเคราะห์ข้อมูลได้รับประโยชน์จาก

  • การลดเวลาในการสลับแอปพลิเคชัน
  • การเข้าถึงผู้ช่วย AI แบบเรียลไทม์
  • การสนทนาที่ไม่ขัดจังหวะการทำงานหลัก
    เช่น นักเขียนสามารถระดมความคิดกับ Copilot ได้โดยไม่ต้องละสายตาจากเอกสาร

 

กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ในงาน Creative

กลุ่มนักออกแบบ ศิลปิน และคอนเทนต์ครีเอเตอร์สามารถใช้ Copilot เป็น

  • คู่สนทนาในการพัฒนาไอเดีย
  • แหล่งแรงบันดาลใจที่โต้ตอบอย่างมีบุคลิก
    การมีปฏิสัมพันธ์ผ่านใบหน้าและการแสดงออกทางอารมณ์ ช่วยให้ผู้ใช้รู้สึกว่า AI “เข้าใจ” มากกว่าแค่ตอบตามคำสั่ง

 

ช่วยให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้าถึง AI ได้ง่ายขึ้น

ผู้ที่ไม่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีมักรู้สึกกลัวหรือไม่คุ้นเคยกับ AI
Copilot Appearance ช่วยลดอุปสรรคนี้ด้วย:

  • การออกแบบที่ดูเป็นมิตร
  • ใบหน้าและการแสดงออกที่ช่วยให้รู้สึกเหมือนพูดคุยกับมนุษย์
    ส่งผลให้การเรียนรู้ฟีเจอร์ใหม่ ๆ ใน Windows เป็นเรื่องสนุกและน่าสนใจมากขึ้น

 

เปลี่ยนมุมมองต่อการโต้ตอบกับ AI

ผู้ใช้จำนวนมากรู้สึกว่าการโต้ตอบกับ Copilot ที่มี Appearance สามารถช่วยลดความรู้สึกเหมือนคุยกับแชทบอตแข็ง ๆ ทำให้ผู้ใช้กล้าที่จะพูดถึงปัญหา หรือขอคำแนะนำส่วนตัวมากขึ้น ส่งผลให้เกิดความผูกพันกับเทคโนโลยีในระดับที่ลึกขึ้น

 

ส่งผลต่อพฤติกรรมการใช้งานในระยะยาว

ด้วยประสบการณ์ที่สนุกสนานและเป็นธรรมชาติ:

  • ผู้ใช้มีแนวโน้มใช้งาน Copilot นานขึ้น
  • เริ่มสำรวจฟีเจอร์ที่ซับซ้อนมากขึ้น
  • ปรับพฤติกรรมจากผู้ใช้แบบทดลอง เป็นผู้ใช้แบบประจำ

 

 

แนวโน้มต่อไปของ Copilot บน Windows

Microsoft มุ่งพัฒนา Copilot ให้เป็นผู้ช่วย AI ที่ผสานกับระบบปฏิบัติการอย่างไร้รอยต่อ โดยมีแนวทางสำคัญดังนี้

 

1. เข้าใจบริบทมากขึ้น

Copilot จะสามารถวิเคราะห์บริบทของการทำงาน คาดการณ์ความต้องการ และเสนอแนะวิธีการทำงานได้โดยไม่ต้องรอคำสั่ง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพอย่างเป็นธรรมชาติ

 

2. ปรับแต่ง Avatar ได้ตามใจ

ผู้ใช้จะสามารถเลือกหน้าตา บุคลิก และเสียงของ Copilot ให้สอดคล้องกับความชอบและสไตล์การทำงานของตนเอง เพื่อประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น

 

3. บูรณาการกับ Microsoft 365 และ Edge

Copilot Appearance จะขยายไปยัง Word, Excel, PowerPoint และ Microsoft Edge เพื่อสร้างประสบการณ์ใช้งานที่ต่อเนื่องในทุกแพลตฟอร์มของ Microsoft

 

4. เรียนรู้และปรับตัวด้วย Machine Learning

Copilot จะเรียนรู้พฤติกรรมและความชอบของผู้ใช้ เพื่อปรับการแสดงออกและการตอบสนองให้เข้ากับบุคลิกของแต่ละคน

 

5. ทำงานเชิงรุกใน Windows 12

Copilot อาจมีความสามารถในการแจ้งเตือนหรือเสนอแนะแบบเชิงรุก โดยใช้การแสดงผลที่เป็นมิตรเพื่อลดความรู้สึกถูกรบกวน

 

 

Copilot Appearance ก้าวใหม่ของผู้ช่วย AI

Copilot Appearance ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนรูปลักษณ์ของ AI แต่คือการยกระดับประสบการณ์ใช้งาน ด้วยใบหน้า อารมณ์ และบุคลิกภาพที่ทำให้ผู้ใช้รู้สึกเหมือนทำงานร่วมกับเพื่อนร่วมทีมมากกว่าเครื่องมือ

แม้ยังอยู่ในช่วงทดลองบน Windows 11 Insider Build แต่ Microsoft มีแผนขยายการใช้งานสู่ผู้ใช้ทั่วไป พร้อมต่อยอดฟีเจอร์ให้หลากหลายและตอบโจทย์ยิ่งขึ้น และเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ผลักดันให้มนุษย์และ AI ทำงานร่วมกันอย่างไร้รอยต่อ พร้อมปูทางสู่อนาคตของเทคโนโลยีที่เข้าใจและเข้าถึงผู้ใช้ในระดับที่ลึกยิ่งขึ้น

หากธุรกิจของคุณต้องการคำปรึกษาเกี่ยวกับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลสมัยใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบเว็บไซต์ การวางกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ หรือการนำโซลูชัน AI มายกระดับการทำงาน เราพร้อมให้บริการรับทำเว็บไซต์ครบวงจร โดยทีมผู้เชี่ยวชาญจาก Yes Web Design Studio

หรือคุณต้องการอัปเดตเทรนด์ใหม่ ๆ เทคนิค และรีวิวเครื่องมือ AI สำหรับสาย Developer หรือ Programmer อย่าพลาดติดตาม Yes AI ช่องทางเดียวที่รวบรวมเนื้อหาคุณภาพสำหรับคนรักเทคโนโลยีโดยเฉพาะ

 

Yes Web Design Studio
Tel. : 096-879-5445
LINE : @yeswebdesign
E-mail : [email protected]
Address : ชั้น 17 อาคารวิทยกิตติ์ ถนนพญาไท วังใหม่ ปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330 (สถานี BTS สยาม)

Written by

Yes Content Writer

Stop letting your competitors outrank you.