Nostalgia Marketing คืออะไร? มัดใจลูกค้าด้วยความคิดถึง

บทความโดย Yes Web Design Studio

Nostalgia Marketing คืออะไร? มัดใจลูกค้าด้วยความคิดถึง
Table of Contents

โลกการตลาดมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา แต่มีหนึ่งสิ่งที่ยังคงมีพลังเสมอ นั่นก็คือความรู้สึก โดยเฉพาะความรู้สึกคิดถึงในอดีต เราต่างเคยมีช่วงเวลาที่เราหวนนึกถึงด้วยความอบอุ่นใจ ไม่ว่าจะเป็นเพลงในวัยเด็ก ขนมที่เคยกินตอนเรียน หรือการ์ตูนที่เคยดูในวันหยุด ซึ่งเป็นความรู้สึกที่แบรนด์ต่างๆ ได้หยิบมาใช้ในกลยุทธ์การตลาด นี่คือที่มาของ Nostalgia Marketing หรือการตลาดที่ใช้ความคิดถึงเป็นเครื่องมือ

 

 

Nostalgia Marketing คืออะไร?

 

Alt : Nostalgia Marketing คืออะไร?

รูปภาพจาก : LAMESA

 

Nostalgia Marketing คือกลยุทธ์การตลาดที่นำความทรงจำ ความรู้สึกคิดถึง และประสบการณ์ในอดีตมาใช้เชื่อมโยงกับผู้บริโภค เพื่อสร้างความผูกพันทางอารมณ์กับแบรนด์หรือสินค้า เมื่อผู้คนได้เห็นหรือสัมผัสกับสิ่งที่กระตุ้นความทรงจำในอดีต ก็จะเกิดความรู้สึกอบอุ่น มีความสุข และเชื่อมโยงกับช่วงเวลานั้น ๆ อีกครั้ง ซึ่งความรู้สึกดี ๆ เหล่านี้จะถูกถ่ายโอนมาสู่แบรนด์ที่เป็นผู้มอบประสบการณ์นั้น

 

ในแง่ของจิตวิทยา นักวิจัยพบว่าความคิดถึงช่วยลดความวิตกกังวล เพิ่มการมองโลกในแง่ดี และสร้างความรู้สึกมีความหมายในชีวิต เมื่อคนเรารู้สึกโหยหาอดีต พวกเขามักมองหาสิ่งที่คุ้นเคยและสามารถเชื่อมโยงกับความทรงจำที่ดีได้

 

ความสำคัญของ Nostalgia Marketing อยู่ที่ความสามารถในการสร้างความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับผู้บริโภคในระดับอารมณ์ แทนที่จะแค่นำเสนอคุณประโยชน์ของสินค้า แบรนด์สามารถเล่าเรื่องราวและสร้างประสบการณ์ที่เชื่อมโยงกับตัวตนและประวัติศาสตร์ส่วนบุคคลของลูกค้า

 

 

 

เหตุผลที่ความคิดถึงได้กลายมาเป็นเครื่องมือที่มีอิทธิพลในวงการตลาด 

 

ความคิดถึงมีอิทธิพลอย่างมากต่อการตัดสินใจของผู้บริโภค เมื่อเราสัมผัสกับสิ่งที่ทำให้นึกถึงอดีต สมองของเราจะหลั่งสารโดปามีน ซึ่งเป็นสารเคมีที่เกี่ยวข้องกับความสุขและความพึงพอใจ นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเราถึงมักรู้สึกดีเมื่อได้ยินเพลงเก่า ๆ หรือเห็นโฆษณาที่พาเรากลับไปสู่วัยเด็ก

 

นอกจากนี้ ความคิดถึงยังช่วยสร้างความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มหรือช่วงเวลาหนึ่งที่เคยเกิดขึ้น คนที่เติบโตในช่วงเวลาเดียวกันมักจะแบ่งปันประสบการณ์ร่วมกัน เช่น เกมที่เล่นในวัยเด็ก รายการทีวีที่ดู หรือเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้น เมื่อแบรนด์สามารถดึงความทรงจำเหล่านี้ขึ้นมาได้ ก็จะช่วยเชื่อมต่อกับผู้บริโภคได้

 

 

Nostalgia Marketing มีประโยชน์ยังไง

 

การนำกลยุทธ์ Nostalgia Marketing มาใช้มอบประโยชน์หลายประการให้กับแบรนด์

 

สร้างความผูกพันทางอารมณ์ – ความคิดถึงทำให้ผู้บริโภครู้สึกเชื่อมโยงกับแบรนด์ในระดับลึก มากกว่าแค่คุณสมบัติของสินค้า

 

 

เพิ่มการมีส่วนร่วม – เนื้อหาที่กระตุ้นความคิดถึงมักได้รับการแชร์และพูดถึงมากกว่าเนื้อหาทั่วไป เพราะผู้คนชอบแบ่งปันความทรงจำที่ดีกับผู้อื่น

 

 

เพิ่มการจดจำแบรนด์ – การเชื่อมโยงแบรนด์กับความทรงจำที่มีความหมายช่วยให้ผู้บริโภคจดจำแบรนด์ได้ง่ายขึ้น

 

 

ลดความไวต่อราคา – หากสินค้าหรือบริการมีคุณค่าทางความรู้สึก ผู้บริโภคก็มักจะเต็มใจจ่ายเพื่อซื้อความรู้สึกดี ๆ เหล่านั้น

 

 

สร้างความแตกต่าง – ในตลาดที่มีการแข่งขันสูง การใช้ความคิดถึงสามารถช่วยให้แบรนด์โดดเด่นและแตกต่างจากคู่แข่ง

 

 

ฟื้นฟูแบรนด์เก่า – แบรนด์ที่มีประวัติยาวนานสามารถใช้มรดกของตนเองในการสร้างความสนใจใหม่และดึงดูดคนรุ่นใหม่

 

 

เพราะอะไรกลยุทธ์ Nostalgia Marketing ถึงได้ผล?

 

ความสำเร็จของ Nostalgia Marketing มีรากฐานมาจากหลายปัจจัย ที่ทำให้กลยุทธ์นี้ทรงพลังอย่างยิ่งในการจับใจผู้บริโภค

 

ความเชื่อมโยงทางอารมณ์กับผู้บริโภค

 

การตัดสินใจซื้อไม่ได้เกิดจากเหตุผลล้วน ๆ แต่มีอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเสมอ งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคมักใช้ความรู้สึกในการตัดสินใจซื้อมากกว่าข้อมูลเชิงเหตุผล และความคิดถึงก็เป็นอารมณ์ที่ทรงพลังเพราะมันเชื่อมโยงกับความทรงจำส่วนตัวของแต่ละคน ดังนั้นการที่แบรนด์กระตุ้นความรู้สึกเหล่านี้ นั่นไม่ใช่เพียงการขายสินค้า แต่กำลังขายประสบการณ์และความรู้สึกที่มีคุณค่าทางจิตใจ ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่าแบรนด์มีความจริงใจ และเข้าใจพวกเขาจริง ๆ

 

การสร้างประสบการณ์ที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกมีส่วนร่วม

 

Nostalgia Marketing ไม่ใช่แค่การหยิบเอาของเก่ามาใช้ใหม่ แต่เป็นการสร้างประสบการณ์ที่ทำให้ผู้บริโภครู้สึกมีส่วนร่วมกับเรื่องราวของแบรนด์ เพราะผู้บริโภคปัจจุบันไม่ได้ต้องการเพียงแค่ซื้อสินค้า แต่ยังต้องการความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่ง และเมื่อแบรนด์นำเสนอแคมเปญที่กระตุ้นความคิดถึง ผู้บริโภคก็จะรู้สึกเหมือนกำลังร่วมเฉลิมฉลองหรือระลึกถึงช่วงเวลาสำคัญไปด้วยกัน

 

ตัวอย่างเช่น เมื่อแบรนด์จัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับเทรนด์ยุค 90 ผู้ที่เติบโตในยุคนั้นจะรู้สึกถึงความเชื่อมโยงพิเศษและอยากมีส่วนร่วมมากขึ้น

 

 

ผลกระทบจากจิตวิทยาของความคิดถึงที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อ

 

จากมุมมองทางจิตวิทยา ความคิดถึงส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อในหลายรูปแบบ ดังนี้

 

การมองอดีตในแง่ดี – มนุษย์มีแนวโน้มที่จะจำอดีตในแง่ดีและลืมประสบการณ์ที่ไม่ดี เมื่อแบรนด์กระตุ้นความทรงจำที่ดี ผู้บริโภคมักถ่ายโอนความรู้สึกบวกนั้นมาสู่แบรนด์ได้

 

 

ความต้องการความปลอดภัย – ในยุคที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงเร็ว ผู้คนมักรู้สึกไม่มั่นคง ดังนั้นหากแบรนด์ผลิตสินค้าที่คุ้นเคยจากอดีตจึงให้ความรู้สึกปลอดภัยและเสถียร

 

 

การเชื่อมโยงกับอัตลักษณ์ – สิ่งที่เราชื่นชอบในวัยเด็กมักกลายเป็นส่วนหนึ่งของตัวตนเรา การได้พบกับสิ่งเหล่านั้นอีกครั้งก็จะช่วยเรียกความรู้สึกดี ๆ ที่เคยมีกลับมา

 

 

ตัวอย่างที่ชัดเจนคือการที่ผู้บริโภคยอมจ่ายแพงกว่าสำหรับรุ่นพิเศษของสินค้าที่มีดีไซน์ย้อนยุค แม้ว่าจะมีฟังก์ชันเหมือนรุ่นปกติ เพราะพวกเขากำลังซื้อความรู้สึกและประสบการณ์ ไม่ใช่แค่ตัวสินค้า

 

 

กลยุทธ์ของ Nostalgia Marketing มีอะไรบ้าง

 

 

มีหลากหลายวิธีที่แบรนด์สามารถนำ Nostalgia Marketing มาประยุกต์ใช้

 

การนำสินค้าและบริการเก่า ๆ กลับมา

 

หลายแบรนด์ประสบความสำเร็จด้วยการนำสินค้าในอดีตกลับมาจำหน่ายอีกครั้ง โดยอาจมีการปรับปรุงเล็กน้อยเพื่อให้เข้ากับความต้องการปัจจุบัน

 

ตัวอย่างเช่น Polaroid ได้นำกล้องฟิล์มแบบถ่ายแล้วได้ภาพทันทีกลับมาทำตลาดใหม่ แม้ว่าในยุคดิจิทัล ผู้คนสามารถถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟนได้อย่างง่ายดาย แต่ความพิเศษของการได้ภาพถ่ายจริงในมือทันทียังคงเป็นสิ่งที่ดึงดูดผู้บริโภค

 

การออกแบบที่ได้แรงบันดาลใจจากอดีต

 

การนำเอาสไตล์การออกแบบจากยุคก่อนมาปรับใช้กับสินค้าปัจจุบันเป็นวิธีที่แพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็นบรรจุภัณฑ์แบบวินเทจ ฟอนต์ย้อนยุค หรือภาพประกอบแบบดั้งเดิม หรือในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มที่มักใช้กลยุทธ์นี้ด้วยการนำเสนอสูตรดั้งเดิม หรือออกแบบบรรจุภัณฑ์แบบวินเทจในรุ่นพิเศษเพื่อกระตุ้นความรู้สึกคิดถึงในผู้บริโภค

 

การใช้เนื้อหาและเรื่องราวที่อ้างอิงยุคอดีต

 

การสร้างเนื้อหาที่อ้างอิงถึงเหตุการณ์ เทรนด์ หรือวัฒนธรรมยุคก่อนก็สามารถกระตุ้นความคิดถึงได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การนำเสนอโฆษณาที่อ้างอิงถึงรายการทีวียอดนิยมในอดีต หรือการใช้เพลงฮิตจากทศวรรษที่ผ่านมา ก็ช่วยกระตุ้นความทรงจำและความรู้สึกที่ดีในผู้บริโภคได้อย่างดี

 

การร่วมมือกับบุคคลหรือแบรนด์จากยุคนั้น ๆ

 

การร่วมมือกับศิลปิน นักแสดง หรือแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในยุคที่กลุ่มเป้าหมายคิดถึงก็เป็นอีกกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพ หรือการที่แบรนด์เชิญนักร้องหรือนักแสดงที่โด่งดังในอดีตมาร่วมแคมเปญ ไม่เพียงแต่ดึงดูดกลุ่มแฟนคลับเก่า แต่ยังสร้างความสนใจในคนรุ่นใหม่ที่อาจไม่คุ้นเคยกับบุคคลเหล่านั้นมากนัก

 

การจัดกิจกรรมที่เฉลิมฉลองยุคสมัยในอดีต

 

การจัดงานอีเวนต์ที่มีธีมย้อนยุคสามารถสร้างประสบการณ์ที่จับใจทั้งลูกค้าเก่าและใหม่ ตัวอย่างเช่น การจัดคอนเสิร์ตที่เล่นเพลงฮิตยุค 90 การจัดงานปาร์ตี้ธีมยุค 80 หรือการจัดนิทรรศการที่แสดงถึงวิวัฒนาการของแบรนด์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

 

 

กลยุทธ์ Nostalgia Marketing ทำยังไง?

 

การนำ Nostalgia Marketing มาใช้อย่างมีประสิทธิภาพต้องอาศัยความเข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายและวิธีการที่เหมาะสม ซึ่งมีวิธีดังนี้ 

 

ทำความเข้าใจกลุ่มเป้าหมายและยุคสมัยที่พวกเขาคิดถึง

 

สิ่งแรกที่ต้องทำคือระบุช่วงอายุของกลุ่มเป้าหมาย และทำความเข้าใจว่าอะไรคือยุคทองของพวกเขา คนแต่ละรุ่นมีประสบการณ์ร่วมที่แตกต่างกัน เช่น

 

  • Generation Z อาจคิดถึงเทคโนโลยีและวัฒนธรรมปลายยุค 2000 และต้นยุค 2010
  • Millennials มักโหยหายุค 90 และต้นยุค 2000
  • Generation X อาจคิดถึงยุค 80 และต้นยุค 90
  • Baby Boomers  มีความทรงจำเกี่ยวกับยุค 60 และ 70

 

การวิจัยตลาดและการสำรวจสามารถช่วยให้เข้าใจว่าอะไรคือสิ่งที่กลุ่มเป้าหมายคิดถึงมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นดนตรี ภาพยนตร์ แฟชั่น เทคโนโลยี หรือเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ

 

การนำเสนอความคิดถึงให้เข้ากับบริบทปัจจุบัน

 

ความท้าทายของกลยุทธ์นี้คือการนำเสนอความคิดถึงในรูปแบบที่ยังคงมีความเกี่ยวข้องกับปัจจุบัน นั่นก็คือการนำของเก่ามาใช้ใหม่โดยไม่มีการปรับเปลี่ยน ซึ่งสิ่งนี้อาจจะทำให้แบรนด์ไม่ประสบความสำเร็จ

 

แบรนด์ที่ประสบความสำเร็จมักผสมผสานองค์ประกอบจากอดีตเข้ากับเทคโนโลยีและรสนิยมปัจจุบัน เช่น นำเอาตัวละครการ์ตูนยุค 90 มาปรากฏในโฆษณาที่ใช้เทคนิคการผลิตสมัยใหม่ หรือนำเพลงฮิตในอดีตมาเรียบเรียงใหม่ด้วยสไตล์ร่วมสมัย

 

ตัวอย่างแบรนด์ที่ใช้ Nostalgia Marketing ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

มีหลายแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จในการใช้ Nostalgia Marketing เพื่อสร้างความเชื่อมโยงกับผู้บริโภค เช่น

 

Coca-Cola กับแคมเปญรถแดงในเทศกาลคริสต์มาส

 

Alt : “Holidays Are Coming” Coca-Cola

รูปภาพจาก : https://youtu.be/JHIxyGgSU90 

 

Coca-Cola เป็นตัวอย่างที่ดีของแบรนด์ที่ใช้ความคิดถึงเป็นเครื่องมือทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกับแคมเปญรถแดงในช่วงเทศกาลคริสต์มาสที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของเทศกาลนี้ไปแล้ว ซึ่งแม้จะผ่านไปหลายทศวรรษ แต่ภาพรถบรรทุกสีแดงติดไฟกระพริบที่นำซานต้าคลอสมาพร้อมกับขวด Coca-Cola ยังคงสร้างความรู้สึกอบอุ่นและคิดถึงช่วงเวลาพิเศษในวัยเด็ก นอกจากนี้แบรนด์ยังมีการนำขวดคลาสสิกกลับมาใช้ในแคมเปญพิเศษ และอ้างอิงถึงโฆษณาในอดีตของตัวเองเพื่อสร้างความต่อเนื่องและความคิดถึง

 

Netflix กับซีรีส์ Stranger Things

 

Alt : ซีรีส์ Stranger Things และแบรนด์ Coca-Cola

รูปภาพจาก : Collater.al

 

Netflix ประสบความสำเร็จอย่างมากกับซีรีส์ Stranger Things ที่นำเสนอเรื่องราวในยุค 80 พร้อมกับการอ้างอิงวัฒนธรรมป๊อปในยุคนั้นทั้งเพลง ภาพยนตร์ แฟชั่น และเทคโนโลยี ซีรีส์เรื่องนี้ไม่เพียงแต่ดึงดูดคนที่เติบโตในยุค 80 ที่รู้สึกคุ้นเคยกับองค์ประกอบต่าง ๆ แต่ยังดึงดูดคนรุ่นใหม่ที่สนใจสัมผัสประสบการณ์ยุคก่อนที่พวกเขาเกิดอีกด้วย 

 

ซึ่งความสำเร็จของ Stranger Things นำไปสู่ความร่วมมือกับแบรนด์ต่าง ๆ เช่น Coca-Cola ที่นำสูตรดั้งเดิม “New Coke” จากปี 1985 กลับมาขายในรุ่นจำกัด และ Levi’s ที่ออกคอลเลคชั่นเสื้อผ้าสไตล์ยุค 80 เพื่อฉลองซีรีส์นี้

 

 

 

สรุป

 

Nostalgia Marketing เป็นกลยุทธ์ที่ทรงพลังในการสร้างความเชื่อมโยงทางอารมณ์กับผู้บริโภค ผ่านการกระตุ้นความทรงจำและความรู้สึกคิดถึงในอดีต แบรนด์ที่สามารถนำเสนอความคิดถึงได้อย่างแท้จริงและเข้ากับบริบทปัจจุบัน จะสามารถสร้างความผูกพันที่ลึกซึ้งและยาวนานกับลูกค้า เพราะความคิดถึงไม่ใช่แค่ความรู้สึกชั่วครั้งชั่วคราว แต่เป็นการเชื่อมโยงกับตัวตนและประสบการณ์ของผู้บริโภค 

 

การมัดใจลูกค้าด้วยความคิดถึงจึงไม่ใช่เพียงกลยุทธ์ แต่เป็นศิลปะของการเชื่อมโยงอดีตและปัจจุบันเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างอนาคตที่แบรนด์และผู้บริโภคสามารถเติบโตไปด้วยกันอย่างมีความหมาย

 

หากคุณกำลังมองหาความช่วยเหลือในด้านการตลาดดิจิทัลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำธุรกิจของคุณ เราขอแนะนำให้คุณติดต่อ Yes Web Design Studio ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบเว็บไซต์ SEO และการตลาดออนไลน์ครบวงจร พร้อมช่วยพัฒนาเว็บไซต์ที่เหมาะสมกับความต้องการทางธุรกิจของคุณให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน

 

Yes Web Design Studio
Tel. : 096-879-5445
LINE : @yeswebdesign
E-mail : [email protected]
Address : ชั้น 17 อาคารวิทยกิตติ์ ถนนพญาไท วังใหม่ ปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330 (สถานี BTS สยาม)

 

มีโปรเจกต์ในใจแล้วใช่ไหม ?