External Link และ Internal Link คืออะไร? ทำยังไงให้ดันอันดับ SEO

บทความโดย Yes Web Design Studio

External Link และ Internal Link คืออะไร? ทำยังไงให้ดันอันดับ SEO
Table of Contents

การสร้างลิงก์ถือเป็นหัวใจสำคัญของการทำ SEO ที่มีประสิทธิผล เพราะลิงก์ไม่เพียงช่วยนำทางผู้ใช้งานไปยังข้อมูลที่ต้องการเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการบอกให้ Google เข้าใจถึงความสัมพันธ์ของเนื้อหาบนเว็บไซต์ของคุณ บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ Internal Link และ External Link อย่างละเอียด พร้อมเคล็ดลับการใช้งานที่จะช่วยยกระดับอันดับ SEO ของเว็บไซต์คุณอย่างมีได้การประสิทธิภาพ

 

 

Internal Link คืออะไร?

 

Internal Link คืออะไร?

 

Internal Link หรือลิงก์ภายใน คือ ลิงก์ที่เชื่อมต่อระหว่างหน้าเว็บเพจต่าง ๆ ภายในเว็บไซต์เดียวกัน ซึ่งสามารถสังเกตได้จากการคลิกลิงก์แล้วยังคงอยู่ในโดเมนเดิม เช่น การคลิกเมนูหลักของเว็บไซต์ การคลิกลิงก์จากบทความหนึ่งไปยังอีกบทความหนึ่งในเว็บไซต์เดียวกัน หรือการคลิกปุ่ม “อ่านเพิ่มเติม” เพื่อดูรายละเอียดข้อมูลในหน้าถัดไป

 

ทำไมถึงต้องทำ Internal Link?

การทำ Internal Link มีความสำคัญต่อเว็บไซต์หลายข้อ ดังนี้

  1. ช่วยสร้างโครงสร้างข้อมูลภายในเว็บไซต์ที่ทำให้เว็บไซต์มีระเบียบและเข้าใจง่าย
  2. ช่วยกระจาย PageRank ไปยังหน้าต่าง ๆ ภายในเว็บไซต์
  3. ช่วยให้ผู้เข้าชมสามารถค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องได้ง่ายขึ้น
  4. เพิ่มระยะเวลาการอยู่บนเว็บไซต์จากผู้ใช้ (Dwell Time)
  5. ลดอัตราการตีกลับ (Bounce Rate) ซึ่งเป็นปัจจัยที่ Google ใช้วัดคุณภาพเว็บไซต์

 

ตัวอย่างการใช้งานลิงก์ภายใน

เมื่อคุณเขียนบทความเกี่ยวกับ “วิธีการทำ SEO เบื้องต้น” คุณสามารถสร้าง Internal Link ไปยังบทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องได้ เช่น

  • บทความเกี่ยวกับ “การวิเคราะห์คีย์เวิร์ด”
  • บทความเกี่ยวกับ “การปรับแต่ง On-Page SEO”
  • บทความเกี่ยวกับ “การสร้าง Content ที่มีคุณภาพ”

 

การลิงก์เช่นนี้ไม่เพียงช่วยให้ผู้อ่านเข้าถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องได้ง่ายขึ้น แต่ยังช่วยให้ Google เข้าใจความสัมพันธ์ของเนื้อหาบนเว็บไซต์คุณได้ดียิ่งขึ้น

 

 

External Link คืออะไร?

 

External Link คืออะไร?

 

External Link หรือลิงก์ภายนอก คือ ลิงก์ที่นำผู้ใช้จากเว็บไซต์ของคุณไปยังเว็บไซต์อื่นที่มีโดเมนแตกต่างกัน เช่น เมื่อคุณเขียนบทความโดยอ้างอิงแหล่งข้อมูลจากเว็บไซต์อื่น หรือแนะนำเว็บไซต์ที่มีประโยชน์ให้กับผู้อ่าน

 

External Link สำคัญยังไง?

External Link มีความสำคัญต่อการทำ SEO เพราะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ Google ใช้ในการวิเคราะห์ความน่าเชื่อถือและคุณภาพของเว็บไซต์ ซึ่งสามารถอธิบายได้ดังนี้

  1. สร้างความน่าเชื่อถือให้กับเนื้อหาของคุณผ่านการอ้างอิงแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ
  2. ช่วยให้ Google เข้าใจบริบทของเนื้อหาคุณผ่านความสัมพันธ์กับเว็บไซต์อื่น
  3. เพิ่มคุณค่าให้กับผู้อ่านด้วยการแนะนำแหล่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์
  4. สร้างโอกาสในการสร้างความสัมพันธ์กับเว็บไซต์อื่น (Relationship Building)

 

External Link มีกี่ประเภท

ลิงก์ภายนอกแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก

  1. ลิงก์ขาเข้า (Inbound Links หรือ Backlinks) – ลิงก์จากเว็บไซต์อื่นที่ชี้มายังเว็บไซต์ของคุณ
  2. ลิงก์ขาออก (Outbound Links) – ลิงก์จากเว็บไซต์ของคุณที่ชี้ไปยังเว็บไซต์อื่น

 

Inbound Links กับ Outbound Links แตกต่างกันอย่างไร

 

ลิงก์ขาเข้า (Inbound Links)

  • เปรียบเสมือน “เสียงโหวต” จากเว็บไซต์อื่นที่มีให้กับเว็บไซต์คุณ
  • มีผลต่ออันดับ SEO อย่างมาก เพราะแสดงถึงความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์คุณ
  • คุณไม่สามารถควบคุมได้โดยตรง (ยกเว้นการทำ Link Building)

 

ลิงก์ขาออก (Outbound Links)

  • เป็นลิงก์ที่คุณให้กับเว็บไซต์อื่น
  • แสดงถึงความน่าเชื่อถือของเนื้อหาคุณผ่านการอ้างอิง
  • สามารถควบคุมได้เองว่าจะลิงก์ไปที่ไหนและอย่างไร
  • ควรเลือกลิงก์ไปยังเว็บไซต์ที่มีคุณภาพและเกี่ยวข้องกับเนื้อหาของคุณ

 

ตัวอย่างของ External Link

  • การอ้างอิงแหล่งข้อมูลสถิติจากเว็บไซต์วิจัยที่น่าเชื่อถือ
  • การลิงก์ไปยังบทความอื่นที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหัวข้อที่คุณกำลังพูดถึง
  • การแนะนำเครื่องมือหรือบริการที่เป็นประโยชน์สำหรับผู้อ่าน
  • การลิงก์ไปยังแหล่งอ้างอิงเพื่อยืนยันข้อเท็จจริงที่ได้กล่าวถึงในเนื้อหา

 

Internal Link และ External Link ต่างกันยังไง?

 

Internal Link และ External Link ต่างกันยังไง?

รูปภาพจาก : Bruce Clay

 

Internal Link และ External Link มีความแตกต่างที่สำคัญดังนี้

 

ปลายทางของลิงก์

Internal Link – นำไปสู่หน้าอื่นภายในเว็บไซต์เดียวกัน (โดเมนเดียวกัน)

External Link – นำไปสู่หน้าบนเว็บไซต์อื่น (โดเมนต่างกัน)

 

วัตถุประสงค์หลัก

Internal Link – เพื่อปรับปรุงโครงสร้างเว็บไซต์ กระจาย PageRank และช่วยให้ผู้ใช้ค้นพบเนื้อหาอื่น ๆ ในเว็บไซต์คุณ

External Link – เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับเนื้อหา และมอบคุณค่าเพิ่มเติมให้กับผู้อ่าน

 

การควบคุม

Internal Link – สามารถคุมทั้งต้นทางและปลายทางของลิงก

External Link – ควบคุมเพียงต้นทางของลิงก์ แต่ไม่สามารถควบคุมปลายทางได้

 

ผลกระทบต่อ SEO

Internal Link – ช่วยกระจาย “น้ำหนัก” SEO ภายในเว็บไซต์และปรับปรุงโครงสร้างเว็บ

External Link – ส่งสัญญาณ “การเชื่อมโยง” ไปยัง Google และสร้างบริบทสำหรับเนื้อหาของคุณ

 

 

ทำไม Internal และ External Link ถึงสำคัญต่อ SEO?

 

การช่วยให้บอทของ Google เข้าใจโครงสร้างเว็บไซต์

Google ใช้โปรแกรมอัตโนมัติที่เรียกว่า “Googlebot” ในการค้นหาและจัดทำดัชนีเว็บไซต์ ซึ่งทำหน้าที่ติดตามลิงก์จากเว็บเพจหนึ่งไปยังอีกเว็บเพจหนึ่ง การมีโครงสร้างลิงก์ที่ดีจะช่วยให้ Googlebot สามารถค้นพบเนื้อหาใหม่ในเว็บไซต์ของคุณได้ง่ายขึ้น และมีความเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างเนื้อหาต่าง ๆ บนเว็บไซต์ ซึ่งจะทำให้ Googlebot สามารถประเมินความสำคัญของแต่ละหน้าเว็บในเว็บไซต์ของคุณได้ดีขึ้น

 

เพิ่มประสบการณ์ใช้งาน (UX) ของผู้เยี่ยมชม

ลิงก์ที่มีประสิทธิภาพจะช่วยปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้บนเว็บไซต์ของคุณ ช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องได้ง่ายขึ้น และช่วยเพิ่มระยะเวลาที่ผู้ใช้อยู่บนเว็บไซต์ ซึ่งเป็นสัญญาณเชิงบวกสำหรับ Google

 

สนับสนุนการจัดอันดับบน Google

ลิงก์ทั้งภายในและภายนอกมีผลต่อการจัดอันดับของเว็บไซต์คุณบน Google ดังนี้

  • Internal Link ช่วยกระจาย PageRank (ระบบการวัดความสำคัญของหน้าเว็บโดย Google) ไปทั่วเว็บไซต์ ทำให้หน้าที่สำคัญน้อยกว่าได้รับประโยชน์จากหน้าที่มีอำนาจมากกว่า
  • External Link ที่มีคุณภาพสูงช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับเนื้อหาของคุณ

 

การได้รับ Backlinks (External Links ที่ชี้มาที่เว็บไซต์คุณ) จากเว็บไซต์ที่มีอำนาจสูงจะช่วยยกระดับอันดับ SEO ของเว็บไซต์คุณได้

 

 

สร้าง Internal Link อย่างไรให้มีประสิทธิภาพ

 

วางลิงก์ภายในให้เป็นธรรมชาติ

การวางลิงก์ภายในอย่างเป็นธรรมชาติเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทั้ง SEO และประสบการณ์ผู้ใช้ ซึ่งมีเทคนิคการทำดังนี้

  1. วางลิงก์ในจุดที่มีความเกี่ยวข้องกับเนื้อหาที่คุณกำลังพูดถึง
  2. หลีกเลี่ยงการใส่ลิงก์มากเกินไปในหนึ่งย่อหน้า
  3. ทำให้ลิงก์มีประโยชน์ต่อผู้อ่านจริง ๆ ไม่ใช่แค่เพื่อเหตุผลทาง SEO เท่านั้น
  4. ใช้ข้อความที่มีความหมายสำหรับลิงก์ แทนที่จะใช้คำว่า “คลิกที่นี่” หรือ “อ่านเพิ่มเติม”

 

ใช้ Anchor Text อย่างชาญฉลาด

Anchor Text คือข้อความที่แสดงเป็นลิงก์ที่คลิกได้ การใช้ Anchor Text อย่างชาญฉลาดจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ Internal Link โดยสามารถทำได้ดังนี้

  1. ใช้คำสำคัญที่เกี่ยวข้องใน Anchor Text แต่หลีกเลี่ยงการยัดเยียดคำสำคัญมากเกินไป
  2. ทำให้ Anchor Text มีความเฉพาะเจาะจงและอธิบายถึงสิ่งที่ผู้ใช้จะพบเมื่อคลิกลิงก์
  3. สร้างความหลากหลายในการใช้ Anchor Text เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกมองว่าเป็นการปรับแต่ง SEO มากเกินไป
  4. หลีกเลี่ยงการใช้ Anchor Text ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาปลายทาง

 

ควรลิงก์ไปหน้าไหนบ้าง?

การเลือกหน้าที่จะลิงก์ไปมีความสำคัญต่อประสิทธิภาพของ Internal Link

  1. ลิงก์ไปยังหน้าที่เกี่ยวข้องและให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหัวข้อที่คุณกำลังพูดถึง
  2. ลิงก์ไปยังหน้าที่มีคุณค่าสูงและมีเนื้อหาที่มีคุณภาพ
  3. ลิงก์ไปยังหน้าที่ต้องการผลักดันให้ติดอันดับสูงขึ้น
  4. ลิงก์จากหน้าที่มีอำนาจสูง (มี PageRank สูง) ไปยังหน้าที่มีอำนาจน้อยกว่า
  5. พยายามสร้างโครงสร้างลิงก์ที่ลึกไม่เกิน 3-4 คลิกจากหน้าแรก

 

 

วิธีใช้ External Link ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

 

เลือกเว็บไซต์ภายนอกที่น่าเชื่อถือ

การเลือกเว็บไซต์ภายนอกที่เหมาะสมสำหรับการลิงก์ออกมีความสำคัญอย่างยิ่ง

  1. เลือกเว็บไซต์ที่มีอำนาจและความน่าเชื่อถือสูง
  2. เลือกเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมหรือหัวข้อของคุณ
  3. หลีกเลี่ยงการลิงก์ไปยังเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาคุณภาพต่ำหรือน่าสงสัย
  4. ตรวจสอบว่าเว็บไซต์ที่คุณจะลิงก์ไปไม่ได้ถูกลงโทษจาก Google

 

ใช้ rel=”nofollow” หรือ rel=”sponsored” เมื่อจำเป็น

การใช้แอตทริบิวต์ rel ที่เหมาะสมช่วยให้ Google เข้าใจลักษณะของลิงก์ของคุณ

  1. ใช้ rel=”nofollow” สำหรับลิงก์ที่ไม่ต้องการรับรองหรือส่งต่อความน่าเชื่อถือ
  2. ใช้ rel=”sponsored” สำหรับลิงก์ที่เป็นส่วนหนึ่งของการโฆษณา
  3. ใช้ rel=”ugc” สำหรับลิงก์ที่มาจากเนื้อหาที่ผู้ใช้สร้างขึ้น เช่น ความคิดเห็น
  4. ไม่จำเป็นต้องใช้ rel=”nofollow” สำหรับทุกลิงก์ภายนอก เพราะการลิงก์แบบปกติ (dofollow) ไปยังเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือสามารถเป็นประโยชน์ต่อ SEO ของคุณได้

 

ตัวอย่างโค้ด HTML สำหรับลิงก์ nofollow

 

<a href=”https://example.com” rel=”nofollow”>ข้อความลิงก์</a>

 

ลิงก์อย่างไรไม่ให้เสียค่า SEO

การลิงก์ออกไปภายนอกโดยไม่ทำลายค่า SEO ของเว็บไซต์ตัวเองต้องคำนึงถึง

  1. จำกัดจำนวนลิงก์ภายนอกให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม (ไม่มากเกินไป)
  2. ลิงก์ไปยังเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องและมีคุณภาพสูงเท่านั้น
  3. ใช้ rel=”nofollow” สำหรับลิงก์ที่ไม่ไว้วางใจหรือเป็นลิงก์เชิงพาณิชย์
  4. เปิดลิงก์ภายนอกในแท็บใหม่ด้วย target=”_blank” เพื่อไม่ให้ผู้ใช้ออกจากเว็บไซต์ของคุณ
  5. ตรวจสอบลิงก์ภายนอกเป็นประจำเพื่อให้แน่ใจว่ายังคงใช้งานได้และไม่นำไปสู่เว็บไซต์ที่เป็นอันตราย

 

 

สรุป

การทำ SEO ที่มีประสิทธิภาพไม่ได้เกี่ยวกับการใช้เทคนิคเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการผสมผสานกลยุทธ์ต่าง ๆ เข้าด้วยกัน การสร้างลิงก์ที่ดีทั้งภายในและภายนอกจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับกลยุทธ์ SEO โดยรวมของคุณ และช่วยให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับสูงขึ้นในผลการค้นหาของ Google

 

เริ่มต้นด้วยการตรวจสอบโครงสร้างลิงก์ในเว็บไซต์ของคุณและมองหาโอกาสในการปรับปรุง ด้วยการใช้ Internal Link และ External Link อย่างมีกลยุทธ์ คุณจะสามารถเพิ่มโอกาสในการปรากฏบนหน้าแรกของผลการค้นหา Google และนำทราฟฟิกที่มีคุณภาพมาสู่เว็บไซต์ของคุณได้มากขึ้น

 

หากเว็บไซต์ของคุณไม่มี Traffic เข้ามาเลย ดูไม่น่าใช้งาน หรือต้องการทำเว็บไซต์ใหม่ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและมอบประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้าของคุณ สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของ Yes Web Design Studio ได้เลย เราเป็นบริษัทเว็บดีไซน์แนวหน้าในไทย รับทำเว็บไซต์ครบวงจร ซึ่งรวมไปถึงบริการรับทำ SEO และการตลาดออนไลน์ด้วยเช่นกัน

 

 

 

 

Yes Web Design Studio
Tel. : 096-879-5445
LINE : @yeswebdesign
E-mail : [email protected]
Address : ชั้น 17 อาคารวิทยกิตติ์ ถนนพญาไท วังใหม่ ปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330 (สถานี BTS สยาม)

มีโปรเจกต์ในใจแล้วใช่ไหม ?