ล่าสุด OpenAI ได้สร้างความตื่นเต้นอีกครั้งด้วยการเปิดตัว ChatGPT 4.1 ซึ่งถือเป็นการยกระดับความสามารถของ AI ที่หลายคนรอคอย บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับโมเดลใหม่นี้อย่างละเอียด ทั้งจุดเด่น การใช้งาน และเหตุผลที่ทำให้มันเป็นก้าวสำคัญของวงการ AI
ChatGPT 4.1 คืออะไร? ทำไมถึงน่าสนใจ
รูปภาพจาก : OpenAI
ChatGPT 4.1 คือโมเดลภาษารุ่นล่าสุดจาก OpenAI ที่มาพร้อมกับการปรับปรุงสำคัญหลายประการจากรุ่น ChatGPT 4 เดิม โดยครั้งนี้ OpenAI ได้เปิดตัวโมเดลใหม่ถึงสามรุ่นด้วยกัน ได้แก่ GPT-4.1, GPT-4.1 mini และ GPT-4.1 nano ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถใช้งานผ่าน API ได้แล้ว ซึ่งโมเดลเหล่านี้มีประสิทธิภาพเหนือกว่า GPT‑4o และ GPT‑4o mini อย่างชัดเจน โดยเฉพาะในด้านการเขียนโค้ดและการปฏิบัติตามคำสั่ง อีกทั้งยังรองรับ context window ขนาดใหญ่ถึง 1 ล้านโทเคน และมีความสามารถในการเข้าใจบริบทระยะยาวได้ดีขึ้น
ทำความรู้จักกับ gpt 4o คืออะไร? OpenAI เปิดตัวโมเดล GPT-4o คือ เทียบความแตกต่างกับ GPT-4
อ่านบทความเพิ่มเติม : https://yeswebdesignstudio.com/th/blog/what-is-gpt-4o/
จุดเด่นของ ChatGPT 4.1 ที่น่าสนใจ
GPT-4.1 มีความสามารถที่เหนือกว่า GPT-4o และ GPT-4o mini ในด้านการเขียนโค้ด แต่รุ่นย่อยอย่าง Mini และ Nano มีประสิทธิภาพและความเร็วที่ดีกว่า แต่มีความแม่นยำไม่เท่า GPT-4.1 นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นที่น่าสนใจอื่น ๆ อีกเช่น
การเขียนโค้ด
รูปภาพจาก : OpenAI
จุดเด่นที่สำคัญของ ChatGPT 4.1 คือความสามารถในการเขียนโค้ดที่พัฒนาขึ้นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นทั้งการเขียนโค้ด Frontend ไปจนถึงการแก้ไขโค้ดที่น้อยลง โมเดลนี้สามารถเขียนโค้ดที่ซับซ้อนได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ และมีประสิทธิภาพมากขึ้น
จากการทดสอบ SWE-bench พบว่า GPT‑4.1 สามารถทำภารกิจสำเร็จได้มากกว่า GPT‑4o ซึ่งสะท้อนถึงการปรับปรุงความสามารถของโมเดลในการสำรวจคลังโค้ด การทำงานให้เสร็จสิ้น และสร้างโค้ดที่ทั้งทำงานและผ่านการทดสอบ
การทำตามคำสั่ง
ChatGPT 4.1 สามารถในการทำตามคำสั่งที่ซับซ้อน โมเดลนี้เข้าใจความต้องการของผู้ใช้ได้ดีขึ้น และสามารถปฏิบัติตามคำแนะนำหรือข้อกำหนดที่มีหลายขั้นตอนได้อย่างแม่นยำ
เมื่อผู้ใช้ให้คำสั่งที่มีรายละเอียดมาก GPT-4.1 จะแยกแยะส่วนต่าง ๆ ของคำสั่งได้ดีขึ้น และตอบสนองให้ตรงกับความต้องการมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเขียนบทความตามโครงร่างที่กำหนด การสร้างแผนการตลาด หรือการวิเคราะห์ข้อมูลตามเงื่อนไขที่ระบุ
ความเข้าใจบริบทที่ยาวมากขึ้น
โมเดลนี้มีความสามารถในการจดจำและเข้าใจบริบทของการสนทนาที่ยาวขึ้น ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาสำคัญของโมเดลรุ่นก่อน ๆ ที่มักจะ “ลืม” ข้อมูลในช่วงต้นของการสนทนา และช่วยทำให้การสนทนากับ GPT-4.1 จะยิ่งมีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น นอกจากนี้ยังใช้ในงานด้านเอกสารที่มีความยาว หรืองานที่มีความซับซ้อนได้อีกด้วย
การใช้งาน ChatGPT 4.1 ผ่าน API
OpenAI ได้ออกแบบโมเดลตระกูล GPT-4.1 ให้สามารถเข้าถึงได้ผ่าน API บนแพลตฟอร์ม OpenAI API และ Azure OpenAI Service ซึ่งเปิดโอกาสให้นักพัฒนาและองค์กรสามารถนำไปใช้งานเชิงพาณิชย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและยืดหยุ่นสูง
ลักษณะเด่นของการใช้งานผ่าน API
เข้าถึงได้ง่ายผ่าน Cloud – ไม่จำเป็นต้องติดตั้งโมเดลบนเครื่องของตนเอง สามารถเชื่อมต่อผ่าน HTTPS โดยใช้ RESTful API หรือ SDK ที่รองรับ (เช่น Python, Node.js ฯลฯ)
รองรับ Context Window ขนาดใหญ่ – ทุกโมเดลใน GPT-4.1 series (รวมถึง mini และ nano) รองรับ Context Window สูงสุด 1 ล้านโทเคน เหมาะสำหรับงานที่ต้องประมวลผลเอกสารยาวหรือการสนทนาต่อเนื่อง
รองรับ Tool Use และ Function Calling – ใช้สำหรับสั่งให้โมเดลเชื่อมต่อกับฟังก์ชันภายนอก เช่น การดึงข้อมูลจากฐานข้อมูล การคำนวณ หรือเรียก API อื่น ๆ ใช้งานได้กับระบบ Agent ขั้นสูง เช่น “Assistant API”
เหมาะสำหรับงานเบื้องหลัง (Backend Integration) – ใช้สำหรับสร้างระบบ AI Chatbot, Virtual Assistant, AI Agent, การสรุปข้อมูล, การวิเคราะห์, การเขียนโค้ด ฯลฯ
การควบคุมเวอร์ชันและขนาดโมเดล – ผู้ใช้สามารถเลือกใช้ GPT‑4.1, mini หรือ nano ตามความต้องการเรื่องงบประมาณ ความเร็ว และความสามารถ และรองรับ multimodal input (ข้อความ / รูปภาพ) สำหรับบางแผน API
ChatGPT 4.1 เหมาะกับงานแบบไหน?
โมเดลนี้เหมาะกับหลากหลายกลุ่มผู้ใช้ ตั้งแต่บุคคลทั่วไปไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ และการใช้งานเป็น AI Agent เช่นงานด้านวิศวกรรมซอฟต์แวร์ ใช้สำหรับการสรุปข้อมูลจากเอกสารขนาดใหญ่ หรือการจัดการคำขอจากลูกค้าโดยไม่ต้องอาศัยมนุษย์มากนัก โดยเฉพาะเมื่อใช้งานร่วมกับฟีเจอร์อย่าง Responses API นักพัฒนาสามารถสร้างระบบอัตโนมัติที่ใช้งานได้จริงและเชื่อถือได้มากขึ้น
เปรียบเทียบ GPT 4.1 กับ GPT 4o
GPT-4.1
มีความโดดเด่นในการเขียนโค้ด การปฏิบัติตามคำสั่ง และการทำความเข้าใจบริบทที่ยาวนาน ออกแบบมาสำหรับนักพัฒนาที่สร้างเอเจนต์และแอปพลิเคชัน AI
คุณสมบัติหลัก
การเขียนโค้ดที่เหนือกว่า: สร้างโค้ดที่สะอาด มีประสิทธิภาพ และมีการแก้ไขที่ไม่จำเป็นน้อยลง รวมถึงปฏิบัติตามรูปแบบที่กำหนดได้ดีกว่า มีประสิทธิภาพเหนือกว่า GPT-4o ในเกณฑ์มาตรฐานการเขียนโค้ด เช่น SWE-bench Verified
การปฏิบัติตามคำสั่งที่ดีกว่า: มีความน่าเชื่อถือและแม่นยำในการดำเนินการตามคำสั่งที่ซับซ้อนและมีหลายขั้นตอน แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการที่สำคัญในเกณฑ์มาตรฐาน เช่น MultiChallenge และ IFEval
หน้าต่างบริบทขนาดใหญ่: รองรับบริบทสูงสุดถึง 1 ล้านโทเค็นในทุกรุ่น (standard, mini, และ nano) ทำให้สามารถจัดการกับหนังสือทั้งเล่ม ฐานโค้ดขนาดใหญ่ และบทสนทนาที่ยาวนานได้
ประสิทธิภาพด้านต้นทุน: รุ่น mini และ nano มีความหน่วงต่ำกว่าและมีต้นทุนต่ำกว่า GPT-4o อย่างมาก นอกจากนี้ GPT-4.1 รุ่น standard ยังมีรายงานว่าคุ้มค่ากว่าสำหรับการสืบค้นโดยเฉลี่ย
GPT-4o
โมเดล “Omni” ที่ออกแบบมาสำหรับการปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับคอมพิวเตอร์ที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น ด้วยความสามารถในการรับและส่งข้อมูลหลายรูปแบบ
คุณสมบัติหลัก
การรับและส่งข้อมูลหลายรูปแบบ: รับข้อมูลเข้าเป็นข้อความ เสียง รูปภาพ และวิดีโอรวมกันได้ และสามารถสร้างผลลัพธ์เป็นข้อความ เสียง และรูปภาพได้
ความเร็วและการตอบสนองที่ดียิ่งขึ้น: สามารถตอบสนองต่อเสียงพูดได้แบบเรียลไทม์ ใกล้เคียงกับการสนทนาของมนุษย์
ประสิทธิภาพที่ดีขึ้นในภาษาที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ: แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการที่สำคัญในการจัดการข้อความในภาษาอื่นๆ นอกเหนือจากภาษาอังกฤษ เมื่อเทียบกับ GPT-4 รุ่นก่อนหน้า
ประสิทธิภาพที่แข็งแกร่งในข้อความและโค้ดภาษาอังกฤษ: มีประสิทธิภาพเทียบเท่า GPT-4 Turbo ในด้านเหล่านี้
ความเข้าใจด้านภาพและเสียง: มีความสามารถในการทำความเข้าใจสัญญาณภาพและเสียงได้ดีกว่ารุ่นก่อนหน้า
หน้าต่างบริบท: 128K โทเค็น
เปรียบเทียบโดยสรุป
โมเดล GPT-4.1 มีความสามารถในการเขียนและแก้ปัญหาในเรื่องโค้ด การปฏิบัติตามคำสั่งที่แม่นยำ มีความน่าเชื่อถือมากกว่า สามารถแยกแยะข้อมูลจากบทสนทนาก่อนหน้าได้ดี และมีการประมวลผลบริบทที่มีความยาวได้ดีกว่า นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มขีดจำกัดโทเค็นจาก 32,768 โทเค็น จากเดิม 16,384 โทเค็นในโมเดล GPT-4o
การยุติการให้บริการ GPT-4.5
OpenAI ได้ประกาศยุติการพัฒนา GPT-4.5 ที่เคยมีข่าวลือมาก่อนหน้านี้ โดยเลือกที่จะมุ่งเน้นไปที่ GPT-4.1 และเวอร์ชันย่อยแทน การตัดสินใจนี้เกิดจากการค้นพบว่า GPT-4.1 สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ได้ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้
OpenAI ระบุว่าการเพิ่มประสิทธิภาพของโมเดลที่มีขนาดเหมาะสม และสร้างเวอร์ชันย่อยที่เหมาะกับการใช้งานที่หลากหลายนั้นดีกว่าการผลิตโมเดลใหม่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ เพราะจะสามารถเอื้อให้ให้ผู้ใช้สามารถเลือกได้ตามความเหมาะสมกับงานและงบประมาณได้
เปรียบเทียบ ChatGPT 4.1 กับคู่แข่งอย่าง Gemini และ Claude
ในตลาด AI ปัจจุบัน มีคู่แข่งสำคัญสองรายคือ Gemini จาก Google และ Claude จาก Anthropic เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว GPT-4.1 มีจุดเด่นและจุดด้อยแตกต่างกันไป:
เปรียบเทียบกับ Gemini
- GPT-4.1 มีความสามารถในการเขียนโค้ดที่เหนือกว่า Gemini โดยเฉพาะในงานที่ซับซ้อน
- Gemini มีความสามารถในการเชื่อมต่อกับบริการของ Google ได้ดีกว่า เช่น การค้นหาข้อมูลปัจจุบัน
- GPT-4.1 มีความยืดหยุ่นในการปรับแต่งพารามิเตอร์ผ่าน API มากกว่า
- Gemini มีความสามารถในการวิเคราะห์ภาพที่ดีกว่าในบางกรณี
เปรียบเทียบกับ Claude
- GPT-4.1 มีความสามารถในการทำความเข้าใจบริบทยาวๆ ได้ดีกว่า Claude
- Claude มีนโยบายความปลอดภัยที่เข้มงวดกว่า ทำให้เหมาะกับองค์กรที่ต้องการความเข้มงวดด้านความปลอดภัย
- GPT-4.1 มีระบบนิเวศที่กว้างกว่า ทำให้มีเครื่องมือและรีซอร์สสนับสนุนมากกว่า
- Claude มีความสามารถในการให้เหตุผลที่ซับซ้อนและการวิเคราะห์เชิงจริยธรรมที่โดดเด่น
โดยรวมแล้ว GPT-4.1 ยังคงเป็นผู้นำในหลายด้าน แต่คู่แข่งก็มีจุดแข็งเฉพาะตัวที่น่าสนใจเช่นกัน การเลือกใช้ขึ้นอยู่กับความต้องการเฉพาะของแต่ละองค์กรหรือโปรเจค
ราคา ChatGPT 4.1 และรุ่นย่อย
รูปภาพจาก : OpenAI
GPT-4.1
อินพุต: $2.00 ต่อ 1 ล้านโทเค็น
อินพุตแบบ Cached: $0.50 ต่อ 1 ล้านโทเค็น
เอาต์พุต: $8.00 ต่อ 1 ล้านโทเค็น
GPT-4.1 mini
อินพุต: $0.40 ต่อ 1 ล้านโทเค็น
อินพุตแบบ Cached: $0.10 ต่อ 1 ล้านโทเค็น
เอาต์พุต: $1.60 ต่อ 1 ล้านโทเค็น
GPT-4.1 nano
อินพุต: $0.10 ต่อ 1 ล้านโทเค็น
อินพุตแบบ Cached: $0.025 ต่อ 1 ล้านโทเค็น
เอาต์พุต: $0.40 ต่อ 1 ล้านโทเค็น
สรุป
ChatGPT 4.1 เป็นก้าวสำคัญของ OpenAI ในการพัฒนาโมเดลภาษาที่มีความสามารถสูงขึ้น การเพิ่มความสามารถในการเขียนโค้ด การทำตามคำสั่งที่ซับซ้อน และการเข้าใจบริบทระยะยาว ทำให้โมเดลนี้มีความเหมาะสมกับการใช้งานที่หลากหลาย และเปิดให้ใช้งานผ่าน API พร้อมกับการมีรุ่นย่อยทั้ง mini และ nano ช่วยให้ธุรกิจและนักพัฒนาสามารถเลือกโมเดลที่เหมาะกับงานและงบประมาณของตนได้ ซึ่งเป็นการขยายการเข้าถึงเทคโนโลยี AI ให้กว้างขวางมากขึ้น
หากธุรกิจของคุณต้องการคำปรึกษาเกี่ยวกับการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาประยุกต์ใช้ สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของ Yes Web Design Studio ได้ เราเป็นบริษัทเว็บดีไซน์ชั้นนำในไทยที่ไม่เพียงรับทำเว็บไซต์ แต่ยังให้คำปรึกษาด้านการตลาดดิจิทัลและ AI Solution อย่างครบวงจร
Yes Web Design Studio
Tel. : 096-879-5445
LINE : @yeswebdesign
E-mail : [email protected]
Address : ชั้น 17 อาคารวิทยกิตติ์ ถนนพญาไท วังใหม่ ปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330 (สถานี BTS สยาม)
Reference : https://openai.com/index/gpt-4-1/