“ดีไซน์ไม่ได้หยุดเพียงที่ภาพลักษณ์หรือความรู้สึก
แต่หมายถึงการทำงานของมันด้วย”
– สตีฟ จ๊อบ –
ในยุคที่การแข่งขันเพื่อชิงตำแหน่งทางการตลาดบนโลกออนไลน์เพื่อเพิ่มช่องทางการขายและยอดขายที่เพิ่มมากขึ้น การที่มีเว็บไซต์ถือเป็นเรื่องที่ง่าย มากๆไปแล้วสำหรับธุรกิจเลือกใช้แพลทฟอร์มสร้างเว็บไซต์เอง อย่างเช่น Shopify Wix หรืออื่นๆ ด้วยแพลทฟอร์มเหล่านี้คุณสามารถเลือกใช้เทมเพลตในการออกแบบที่หลากหลายและเข้ากับธุรกิจ แต่นอกจากนี้หลายๆธุรกิจที่มีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง บางธุรกิจก็เป็นเว็ปไซต์องค์กร บางธุรกิจก็เป็นเว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์
จากผลการสำรวจพบว่า 79% ของผู้เข้าชมเว็บไซต์พร้อมที่จะออกจากเว็บไซต์หากเขาไม่ประทับใจการแสดงผลของหน้าเว็บครั้งแรก
วันนี้ผมจะมาแชร์ความรู้ในเรื่องการออกแบบ UI / UX ว่าทั้งสองอย่างนี้ มันสามารถส่งผลต่อเว็บไซต์ของคุณและเพิ่มประสิทธิภาพของ Conversion ได้มากน้อยแค่ไหน
ในบทความนี้เราจะพูดถึงเรื่อง….
- UI หรือ สมองซีกขวาของการออกแบบเป็นอย่างไร
- UX หรือ สมองซีกซ้ายของการออกแบบเป็นอย่างไร
- สิ่งที่บ่งบอกว่าเว็บไซต์ของคุณมีการออกแบบ UX UI ที่ดี
- UX UI จะช่วยเพิ่ม Performance ให้กับเว็บไซต์ของคุณได้อย่างไร
- สรุป
UI หรือ สมองซีกขวาของการออกแบบเป็นอย่างไร
UI หรือ User Interface เกี่ยวข้องกับรูปลักษณ์และความรู้สึกของเว็บไซต์ พูดง่ายๆก็คือการนำเสนอเว็บไซต์ของคุณเพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานของผู้ใช้ที่เข้ามาชมเว็บไซต์นั่นเอง
การออกแบบที่ดีคือการออกแบบตามอารมณ์และความรู้สึก โดยมีการออกแบบให้ผู้ใช้ได้สัมผัสความรู้สึกดี ๆ กับแบรนด์ที่พูดถึงลูกค้าในทุกมิติ ได้รับประสบการณ์ที่น่าพึงพอใจ และใช้งานได้อย่างราบรื่น
ซึ่งการออกแบบ UI จะประกอบไปด้วย..
- การนำเสนอแบรนด์ : โลโก้ สี และตัวอักษร
- โครงหน้า หรือ แผนผัง : เป็นการวิเคราะห์ตำแหน่งการจัดวางเนื้อหาต่างๆ ในแต่ละหน้า ให้เกิดความเหมาะสม และสามารถนำเสนอเนื้อหาให้กับผู้เยี่ยมชมได้ครบ กระชับ และน่าสนใจ
- รูปแบบตัวอักษร : เลือกใช้ตัวอักษรที่บ่งบอกและสื่อถึงความเป็นธุรกิจของคุณ
- การออกแบบองค์ประกอบกราฟิก : ออกแบบกราฟิกในแต่ละ element ให้มีลูกเล่นและเพิ่มมิติมุมมองใหม่ๆให้กับผู้เข้าชมเว็บไซต์
- การออกแบบการโต้ตอบของแต่ละส่วน : ใส่เอฟเฟคที่ช่วยให้ผู้เข้าชมสามารถมีส่วนร่วมได้
UX หรือ สมองซีกซ้ายของการออกแบบเป็นอย่างไร
การออกแบบเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้ (UX) คือสิ่งที่กำหนดในเรื่องมุมมองของความรู้สึกในการใช้งานเว็บไซต์ ดังนั้นการออกแบบ UX ของธุรกิจ จึงมีผลอย่างมากในการสร้างความประทับใจให้กับแบรนด์ของคุณ ประสบการณ์ของผู้ใช้จะเป็นสิ่งที่ครอบคลุมทุกส่วนที่ผู้ใช้จะโต้ตอบกับเว็บไซต์
“เพื่อเพิ่มความไว้วางใจและความพึงพอใจในกลุ่มของผู้ใช้คุณ คุณควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าเว็บไซต์ของคุณมีการออกแบบ UX ที่ดีแล้วหรือยัง”
เพราะเวลาที่คุณจะสามารถสร้างความสนใจหรือการมีส่วนร่วมของผู้ใช้คุณค่อนข้างจำกัด คุณจำเป็นจะต้องใช้โอกาสเหล่านี้ในการสร้าง User Experience ให้ดี ให้ตอบสนองต่อการใช้งาน เพื่อสร้างประการณ์ดีๆและมีประสิทธิภาพให้กับผู้เข้าชมเว็บไซต์ ไม่ว่าจะเปิดชมหน้าเว็บไซต์จาก Desktop, Mobile, หรืออุปกรณ์อื่นๆ
การออกแบบ UX ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง?
- การพัฒนาเนื้อหาบนเว็บไซต์ให้ทันสมัยและตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด
- การจัดทำโครงสร้างของเว็บไซต์ให้ดูเป็นระเบียบ เข้าใจง่าย ไม่สร้างความสับสนให้กับผู้ใช้งาน
- การพัฒนาการวิเคราะห์บุคลิกภาพหรือพฤติกรรมของผู้ใช้งานอยู่เสมอ เพื่อนำมาปรับการใช้งานใช้งานบนเว็บไซต์
- จำลองและสร้าง Wireframe ขึ้นมาเพื่อให้เข้าใจระบบการทำงานมากขึ้น และลดข้อบกพร่องของระบบ
- ทดสอบการใช้งานของผู้ใช้ เพื่อให้ลดข้อผิดพลาดของการใช้งานจริงหลังจากที่มีการเปิดใช้งานเว็บไซต์เป็นสาธารณะ
สิ่งที่บ่งบอกว่าเว็บไซต์ของคุณมีการออกแบบ UX UI ที่ดี
สำหรับเรื่องของการออกแบบ UX UI ที่ดีนั้น มันสามารถทำให้เว็บไซต์ของคุณดึงผู้เข้าชมให้อยู่ในเว็บไซต์ของคุณนานยิ่งขึ้น และที่ดีไปกว่านั้นถ้าคุณมีเว็บไซต์สำหรับขายสินค้า(Ecommerce website) หรือบริการแล้วล่ะก็ UX UI ถือเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีบนเว็บไซต์ปัจจุบัน
- การนำเสนอคุณค่า : คุณต้องเข้าใจว่าไม่ใช่ว่าทุกคนที่เข้าชมเว็บไซต์ของคุณจะพร้อมซื้อสินค้าหรือบริการของคุณโดยทันที คุณจะต้องมีการนำเสนอคุณค่าของธุรกิจคุณเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าที่เข้าชมเว็บไซต์ในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพกราฟิก วิดีโอ หรือข้อความต่างๆ และเรียบเรียงคอนเทนต์เหล่านั้นให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม เพื่อสร้างการรับรู้และการจดจำแบรนด์ให้ได้มากที่สุด เพราะสิ่งเหล่านี้มันจะเป็นตัวสร้างประสบการณ์ดีๆให้กับลูกค้ากลับเข้ามาหาเราได้มากที่สุดเช่นกัน
- อย่าปล่อยให้ลูกค้าคิดนาน : การออกแบบเว็บไซต์ซื้อสินค้าหรือบริการที่ซับซ้อน ค่อนข้างเป็นปัญหาใหญ่อย่างหนึ่งของการทำเว็บไซต์ เพราะถ้าคุณปล่อยให้ลูกค้างงว่าการใช้งานเว็บไซต์ การซื้อสินค้าต้องทำอย่างไร นั่นหมายความว่าคุณกำลังจะเสียลูกค้าไป จึงสรุปได้ว่าการออกแบบเว็บไซต์ต้องมีความชัดเจน เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน
เรามาเช็คกับความหมายของ UX UI ที่ดีกันเลยว่าว่าเว็บไซต์ UX UI ที่ดีนั้นเป็นอย่างไร
- (UX) เว็บไซต์มีรูปแบบการใช้งานที่ไม่ซับซ้อน
- (UX) ผู้ใช้สนุกไปกับการใช้งานบนเว็บไซต์ สามารถใช้งานได้อย่างราบรื่นไม่ติดขัด
- (UI) เรียบง่าย ภายใต้ความเรียบง่ายและสะอาด
- (UI) คงเส้นคงวาในการออกแบบทั้งเรื่องของการใช้สี การใช้ฟอนต์
UX UI จะช่วยเพิ่ม Conversion ให้กับเว็บไซต์ของคุณได้อย่างไร
“ การจัดการหน้าเว็บไซต์ที่ดี จะช่วยเพิ่ม conversion และ engagement ให้กับเว็บไซต์มากขึ้น ”
แน่นอนว่าการออกแบบเว็บไซต์ที่ใช้งานง่ายและเป็นระบบ ทำให้เสียเวลาน้อยลงในการค้นหาผลิตภัณฑ์และบริการ
ตัวอย่างเช่น การทำให้ข้อมูลติดต่อพร้อมใช้งานในแท็บ “ติดต่อ หรือ Contact” และจริงๆแล้วที่ด้านล่างของหน้าแรกก็จะมีข้อมูลให้ลูกค้าสามารถติดต่อได้ แต่เราต้องมองในแง่ของความสะดวกของผู้ใช้ว่า คงไม่อยากมีใครเสียเวลาเพื่อไปขุดคุ้ยข้อมูลจากดส่วนล่างของเว็บไซต์ ถ้าวัตถุประสงค์ของเจ้าของธุรกิจต้องการให้คนติดต่อทันที ก็ควรมีปุ่ม ติดต่อ หรือ contact ที่ด้านบนของเว็บไซต์
สาเหตุของ Conversion rate ต่ำอยู่ตรงนี้หรือเปล่า
มาเช็คกัน!!!
สำหรับการจัดการ UX UI ให้เว็บไซต์ของคุณมี Conversions เพิ่มขึ้นนั้น…
ข้อ 1 คือ เพิ่มวิดีโอใน Landing page หรือหน้า page จากการสำรวจพบว่า ผู้เข้าชมเว็บไซต์ที่มีการชมวิดีโอ สามารถสร้าง conversion ได้สูงถึง 86% ของ การมีวิดีโอบนเว็บไซต์จะช่วยให้เราไม่ต้องสื่อสารโดยใส่ข้อความลงไปมากเพราะคนเราสามารถเข้าใจได้เร็วขึ้นเมื่อดูวิดีโอเพราะสามารถรับชมได้ทั้งภาพและเสียงที่ให้อรรถรสมากกว่าการอ่านตัวหนังสือธรรมดาๆ
*ระวังเรื่องขนาดของวิดีโอด้วยล่ะ เดี๋ยว Page Speed ตกไม่รู้ด้วยน้าาา คลิกอ่านบทความ
ข้อ 2 คือ การวางปุ่ม Call to Action หรือ CTAs ให้อยู่ตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุด เหมาะสมในที่นี้หมายถึง ปุ่มต้องชัดเจนว่าคลิกแล้วจะได้อะไร สีของปุ่มและตัวหนนังสือโดดเด่นอ่านง่าย และที่สำคัญคือคลิกได้ด้วย ซึ่งในการจัดวางนั้นต้องจัดตำแหน่งให้สามารถมองเห็นปุ่มได้ชัดเจนนั้น สามารถช่วยเพิ่ม conversion ได้จริงๆ และการเลือกใช้คำสำหรับปุ่ม CTA นั้นก็ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน เช่น หากคุณมี E-Book ให้ผู้ใช้คลิกเพื่อดาวน์โหลด การที่ใช้คำว่า Download อาจเป็นคำที่อ่านดูแล้วเฉยๆ ไม่ lead คนให้คลิก อาจจะลองเปลี่ยนไปใช้คำว่า “Get your free e-book”
หรือถ้าเว็บไซต์ของคุณเป็นเว็บฯขายสินค้า การจะทำให้ลูกค้าสนใจที่จะหยิบสินค้าใส่ตะกร้านั้นอาจช่วยเพิ่มยอดการซื้อสินค้า โดยอาจจะใช้คำว่า Add to cart – Save 25% แทนคำว่า Buy now เพียงเท่านี้ก็ทำให้ปุ่ม CTA ดูน่ากดมากยิ่งขึ้น
ข้อ 3 คือ เนื้อหาต่างๆในเว็บไซต์ อ่านเข้าใจง่าย เป็นปัญหาอย่างหนึ่งสำหรับเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาค่อนข้างมาก การจัดวางตัวอักษร ข้อความ การเลือกใช้ขนาดตัวอักษร การกำหนดระยะห่างของช่องไฟ สิ่งเหล่านี้ถือเป็นสิ่งที่เราละเลยไม่ได้ที่จะต้องจัดการและวางแผนเรื่องของคอนเทนต์ให้ดูอ่านง่าย สบายตา ไม่วุ่นวาย เพราะเราก็คาดหวังให้คนที่เข้ามายังเว็บไซต์อ่านเนื้อหาในเว็บไซต์และอ่านเนื้อหาแบบไม่รู้สึกเบื่อที่จะอ่านมัน
ข้อ 4 คือ ภาพต้องชัดเจนและสื่อความหมายได้ดี การเลือกใช้ภาพก็ถือเป็นองค์ประกอบหนึ่งของการออกแบบ UX UI ภาพที่เลือกใช้ควรมีขนาดที่ได้มาตรฐานกับเว็บไซต์และ Responsive ต่ออุปกรณ์อื่นๆ ภาพต้องสะท้อนและสื่อความหมายของทิศทางขององค์กร พูดง่ายๆคือ แค่ดูภาพก็รู้ว่าคุณทำอะไร ขายอะไร เป็นใคร
สรุป
จากบทความที่เราได้เขียนและแบ่งปันไปนั้นคุณคงเห็นถึงความสำคัญของการทำ UX UI แล้วใช่มั้ยล่ะครับว่า ไม่ว่าสินค้าหรือบริการคุณจะดีขนาดไหนก็ตาม หากการออกแบบหน้าเว็บไซต์ไม่ได้ตอบโจทย์ต่อการใช้งาน ใช้งานยาก หรือไม่เอื้่อต่อการสร้างประสบการณ์ดีๆให้กับผู้ใช้ การที่คุณจะได้อัตรา conversion ที่สูงๆนั้นถือเป็นเรื่องยาก หวังว่าบทความนี้จะช่วยจุดประกายให้คุณกลับไปเช็คเว็บไซต์ของคุณว่าสาเหตุที่อัตรา conversion ต่ำนั้น การออกแบบ UX UI ถือว่าส่งผลจริงๆหรือเปล่า
ยินดีให้คำปรึกษาฟรี ปรับ UX UI หน้าเว็บเพื่อเพิ่ม Conversion ให้เว็บไซต์ ติดต่อเข้ามาคุยกันได้ที่ 096-879-5445 หรือ แอดไลน์ @yeswebdesign
————————————————————————————————————–
และช่องทางอื่นๆที่คุณก็สามารถแวะไปทักทายกันได้ที่…
Facebook : yeswebdesignstudio
Instagram : yeswebdesign_bkk
Twitter : yeswebdesignbkk
Reference
https://www.wordstream.com/blog/ws/2018/03/29/ux-conversion-rates
https://neilpatel.com/blog/ui-ux-conversion-rates/
https://growthhackers.com/articles/6-powerful-ways-ux-can-affect-your-conversion-rates