Customer Journey คืออะไร? มีกี่ขั้นตอน พร้อมตัวอย่าง

บทความโดย Yes Web Design Studio

Customer Journey คืออะไร

ในยุคที่ธุรกิจต่าง ๆ ต้องการหาวิธีการเพิ่มประสิทธิภาพในการดึงดูดลูกค้า การทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Customer Journey หรือ “การเดินทางของลูกค้า” ก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจสามารถวางแผนการตลาดได้อย่างเหมาะสมและตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้ดีขึ้น บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจ Customer Journey ให้มากขึ้น ตั้งแต่ขั้นตอนต่าง ๆ ไปจนถึงการนำมาประยุกต์ใช้ในธุรกิจ

 

 

 

Customer Journey คืออะไร?

Customer Journey คืออะไร?

Customer Journey คือ กระบวนการที่ลูกค้าผ่านตั้งแต่การเริ่มรับรู้แบรนด์หรือผลิตภัณฑ์ จนกระทั่งการตัดสินใจซื้อและใช้บริการ ไปจนถึงขั้นตอนหลังการซื้อ ซึ่งประสบการณ์ที่ลูกค้าได้รับระหว่างซื้ออาจมีผลต่อการตัดสินใจซื้อซ้ำหรือการบอกต่อแบรนด์ให้กับผู้อื่น ซึ่งการเข้าใจ Customer Journey ช่วยให้ธุรกิจสามารถออกแบบประสบการณ์ที่ดีขึ้นสำหรับลูกค้าแต่ละราย โดยการตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าในแต่ละขั้นตอน ช่วยสร้างความพึงพอใจ รวมถึงความสัมพันธ์ระยะยาวได้

 

 

 

เส้นทางของ Customer Journey

เส้นทางของ Customer Journey

รูปภาพจาก : FieldCheck

 

 

1.การรับรู้ (Awareness)

ในขั้นตอนแรกของ Customer Journey ลูกค้าจะเริ่มรับรู้เกี่ยวกับแบรนด์หรือผลิตภัณฑ์ นี่คือช่วงที่ลูกค้าไม่รู้จักคุณมาก่อน และกำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาหรือความต้องการของตนเองผ่านช่องทางต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาทางอินเทอร์เน็ต การเห็นโฆษณาผ่านสื่อโซเชียล หรือแม้แต่การรับฟังจากคำแนะนำของเพื่อนหรือคนรู้จัก ซึ่งการทำให้ลูกค้ารู้จักแบรนด์ในช่วงนี้จะต้องใช้กลยุทธ์ที่ช่วยดึงดูดความสนใจและสร้างความน่าสนใจในผลิตภัณฑ์หรือบริการที่เรามี ตัวอย่างเช่น การใช้โฆษณาผ่านสื่อสังคมออนไลน์ การสร้างเนื้อหาที่ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ หรือการใช้บล็อกและวิดีโอเพื่อแชร์ความรู้

 

 

2.การพิจารณา (Consideration)

หลังจากที่ลูกค้ารู้จักแบรนด์แล้ว ก็จะเริ่มพิจารณาตัวเลือกต่าง ๆ ลูกค้าจะเริ่มมองหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อเปรียบเทียบคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์และบริการจากหลายแบรนด์ และทำการประเมินตัวเลือกที่มีความเหมาะสมที่สุด ในการพิจารณามักจะมาจากการอ่านรีวิวจากผู้ใช้จริง การดูวิดีโอแนะนำ หรือการค้นหาข้อมูลจากบล็อกต่าง ๆ การที่ลูกค้าได้รับข้อมูลที่ชัดเจนและมีความน่าเชื่อถือสามารถช่วยเพิ่มความมั่นใจในการตัดสินใจได้

 

 

3.การตัดสินใจ (Decision)

เมื่อพิจารณาแล้ว ลูกค้าจะเริ่มตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าหรือบริการในที่สุด กระบวนการนี้อาจเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น ราคา คุณภาพ ข้อเสนอ ทางเลือกในการชำระเงิน บริการหลังการขาย ความสะดวกในการซื้อ หรือแม้แต่การโปรโมทสินค้าที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า 

 

 

4.การซื้อ (Purchase)

เมื่อการตัดสินใจซื้อเสร็จสิ้น ลูกค้าจะดำเนินการซื้อสินค้าโดยลูกค้าอาจซื้อผ่านช่องทางออนไลน์หรือหน้าร้านก็ได้ ซึ่งการที่ลูกค้ารู้สึกมั่นใจในการตัดสินใจซื้อและได้รับประสบการณ์ที่ดีในขั้นตอนนี้ อาจจะทำให้มีแนวโน้มที่จะกลับมาซื้อสินค้าซ้ำในอนาคต

ดังนั้นกระบวนการนี้ควรเป็นประสบการณ์ที่ง่ายและสะดวกต่อการทำธุรกรรม เพื่อไม่ให้ลูกค้ารู้สึกว่าเกิดความยุ่งยากหรือสับสน ตัวอย่างเช่น การมีระบบการชำระเงินที่หลากหลาย การส่งมอบสินค้าที่รวดเร็ว มีความปลอดภัยและน่าเชื่อถือ หรือมีระบบช่วยเหลือเมื่อเกิดปัญหา

 

 

5.การประเมินหลังการซื้อ (Post-Purchase)

หลังจากที่ลูกค้าทำการซื้อแล้ว ขั้นตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่สำคัญมากในการสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้า เพราะหากลูกค้าได้รับการให้บริการที่ดีในขั้นตอนนี้สามารถช่วยเพิ่มความพึงพอใจและการบอกต่อแบรนด์ได้ เช่น การส่งอีเมลหรือข้อความขอบคุณ การส่งแบบสอบถามความคิดเห็นหลังการซื้อ การเสนอโปรแกรมสะสมแต้ม หรือการแจ้งข่าวสารและข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าเก่าเพื่อดึงดูดลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ

 

 

Customer Journey Map คืออะไร

Customer Journey Map คือเครื่องมือที่ช่วยให้ธุรกิจมองเห็นภาพรวมของประสบการณ์ลูกค้าแบบองค์รวม ตั้งแต่จุดเริ่มต้นไปจนถึงหลังการซื้อขาย โดยนำเสนอในรูปแบบแผนภาพที่เข้าใจง่าย

 

 

องค์ประกอบหลัก

ขั้นตอนของลูกค้า (Customer Stages) 

แสดงเส้นทางตั้งแต่การรับรู้ถึงแบรนด์ การพิจารณาด่อนซื้อ การตัดสินใจ การซื้อ ไปจนถึงหลังการซื้อ

 

 

ความรู้สึกและความคิด (Emotions & Thoughts)

อารมณ์และความรู้สึกของลูกค้าในแต่ละขั้นตอน

 

 

จุดสัมผัส (Touchpoints)

ทุกช่องทางที่ลูกค้ามีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์

 

 

จุดปวด (Pain Points)

ปัญหาหรืออุปสรรคที่ลูกค้าอาจพบเจอ

 

 

โอกาส (Opportunities)

จุดที่ธุรกิจสามารถปรับปรุงเพื่อยกระดับประสบการณ์

 

 

เพราะฉะนั้น Customer Journey Map ควรได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องตามพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงและข้อมูลเชิงลึกที่ได้รับ ธุรกิจที่นำเครื่องมือนี้มาใช้อย่างมีประสิทธิภาพจะเข้าใจลูกค้าได้ลึกซึ้งและสามารถส่งมอบประสบการณ์ที่ตอบโจทย์ได้อย่างแม่นยำ

 

 

ประโยชน์ของ Customer Journey Map

  • ช่วยให้เห็นภาพรวมประสบการณ์ของลูกค้าจากมุมมองของลูกค้าเอง
  • ค้นพบจุดที่ต้องปรับปรุง สามารถระบุจุดที่ทำให้ลูกค้าไม่พอใจและสามารถแก้ไขได้อย่างตรงจุด
  • ได้ปรับปรุงประสบการณ์ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า
  • สร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน เพราะธุรกิจที่เข้าใจลูกค้าจะสามารถตอบสนองความต้องการได้ดีกว่า

 

 

การใช้ Customer Journey ในการตลาดธุรกิจ

การเข้าใจ Customer Journey และนำไปประยุกต์ใช้ไม่เพียงช่วยให้เห็นภาพรวมพฤติกรรมของลูกค้า แต่ยังช่วยให้ธุรกิจสามารถออกแบบกลยุทธ์การตลาดที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าในแต่ละขั้นตอน การใช้ข้อมูลจากแต่ละขั้นตอนของการเดินทางลูกค้าจะช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับปรุงประสบการณ์ที่ลูกค้าได้รับ และเพิ่มโอกาสในการขาย

 

 

ตัวอย่างการใช้ Customer Journey ในการพัฒนาแผนการตลาด

หลายธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในการใช้ Customer Journey มักมีการนำข้อมูลจากการศึกษาแต่ละขั้นตอนมาปรับใช้ ตัวอย่างเช่น การใช้เทคโนโลยีที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าใจพฤติกรรมการซื้อของลูกค้าและปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสม เช่น บริษัท Amazon ที่ใช้ข้อมูลจาก Customer Journey เพื่อนำเสนอสินค้าที่เหมาะสมกับความสนใจของลูกค้าในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การรับรู้จนถึงหลังการซื้อ

 

 

สรุป

การเข้าใจ Customer Journey เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับธุรกิจในการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า ซึ่งการนำมาประยุกต์ใช้ไม่เพียงแต่ช่วยให้ลูกค้าพึงพอใจในการซื้อสินค้าหรือบริการ แต่ยังช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนระหว่างแบรนด์และลูกค้า การปรับกลยุทธ์การตลาดให้เหมาะสมกับแต่ละขั้นตอนของ Customer Journey จึงเป็นกุญแจสำคัญในการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจในระยะยาว

 

 

หากคุณกำลังมองหาความช่วยเหลือในการพัฒนาเว็บไซต์หรือการตลาดดิจิทัลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำธุรกิจของคุณ เราขอแนะนำให้คุณติดต่อ Yes Web Design Studio ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบเว็บไซต์ SEO และการตลาดออนไลน์ครบวงจร พร้อมช่วยพัฒนาเว็บไซต์ที่เหมาะสมกับความต้องการทางธุรกิจของคุณให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน

 

 

 

Yes Web Design Studio
Tel. : 096-879-5445
LINE : @yeswebdesign
E-mail : [email protected]
Address : ชั้น 17 อาคารวิทยกิตติ์ ถนนพญาไท วังใหม่ ปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330 (สถานี BTS สยาม)

มีโปรเจกต์ในใจแล้วใช่ไหม ?