รวมคำศัพท์ AI 50 คำ ที่สายเทคต้องรู้

บทความโดย Yes Web Design Studio

รวมคำศัพท์ AI 50 คำ ที่สายเทคต้องรู้
Table of Contents

ในยุคที่เทคโนโลยี AI กำลังเปลี่ยนโลกอย่างรวดเร็ว การเข้าใจศัพท์เฉพาะทางด้าน AI ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ทำงานในวงการเทคโนโลยี บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกคำศัพท์สำคัญ 50 คำที่เกี่ยวข้องกับ AI ตั้งแต่ระดับพื้นฐานไปจนถึงระดับสูง เพื่อให้คุณเข้าใจและสื่อสารเรื่อง AI ได้อย่างมั่นใจ

 

 

ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับ AI และความสำคัญของคำศัพท์เฉพาะ

 

ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับ AI และความสำคัญของคำศัพท์เฉพาะ

 

โลกของ AI เต็มไปด้วยแนวคิดและเทคโนโลยีซับซ้อนที่มีคำศัพท์เฉพาะมากมาย การเรียนรู้คำศัพท์เหล่านี้เปรียบเสมือนการเรียนภาษาใหม่ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจพื้นฐานและกลไกการทำงานของระบบ AI ได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น สำหรับนักพัฒนา นักการตลาด หรือผู้สนใจเทคโนโลยี การรู้คำศัพท์เหล่านี้จะช่วยลดช่องว่างระหว่างความรู้ทางเทคนิคกับการนำไปใช้งานจริง ทำให้การพัฒนาโครงการที่เกี่ยวข้องกับ AI เป็นไปอย่างราบรื่น

 

 

คำศัพท์ AI เบื้องต้น (เหมาะสำหรับมือใหม่)

 

คำศัพท์ AI เบื้องต้น (เหมาะสำหรับมือใหม่)

 

1. Artificial Intelligence

ศาสตร์และเทคโนโลยีที่ทำให้คอมพิวเตอร์สามารถเลียนแบบความสามารถทางปัญญาของมนุษย์ เช่น การเรียนรู้ การให้เหตุผล และการแก้ปัญหา AI ครอบคลุมหลายสาขาย่อย ตั้งแต่การรู้จำภาพไปจนถึงการประมวลผลภาษาธรรมชาติ

 

2. Machine Learning

สาขาย่อยของ AI ที่ให้คอมพิวเตอร์เรียนรู้จากข้อมูลโดยไม่ต้องเขียนโปรแกรมอย่างชัดเจน เป็นการสร้างอัลกอริทึมที่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลและเรียนรู้จากข้อมูลเหล่านั้นเพื่อทำนายหรือตัดสินใจในอนาคต

 

3. Deep Learning

เทคนิคของแมชชีนเลิร์นนิงที่ใช้เครือข่ายประสาทเทียมหลายชั้น (neural networks) เพื่อเรียนรู้จากข้อมูลจำนวนมาก ดีพเลิร์นนิงเป็นเทคโนโลยีหลักเบื้องหลังการรู้จำเสียง การแปลภาษา และระบบแนะนำต่าง ๆ

 

4.Algorithm

ชุดคำสั่งหรือกฎที่ใช้แก้ปัญหาหรือดำเนินการเฉพาะอย่าง ในบริบทของ AI อัลกอริทึมคือวิธีการที่คอมพิวเตอร์ใช้ในการเรียนรู้จากข้อมูล และทำนายผลลัพธ์

 

5. Model

ระบบที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นตัวแทนของสิ่งที่เราต้องการศึกษาหรือทำนาย โมเดล AI จะเรียนรู้รูปแบบจากข้อมูลฝึกสอนและใช้รูปแบบนั้นในการคาดการณ์ผลลัพธ์จากข้อมูลใหม่

 

6. Training Data

ชุดข้อมูลที่ใช้สอนโมเดล AI ให้เรียนรู้รูปแบบและความสัมพันธ์ คุณภาพและปริมาณของข้อมูลฝึกสอนมีผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพของโมเดล

 

7. Accuracy

คำนี้คือความแม่นยำ ซึ่งตัวชี้วัดที่บอกว่าโมเดลทำนายถูกต้องบ่อยแค่ไหน โดยคำนวณจากสัดส่วนของการทำนายที่ถูกต้องต่อจำนวนการทำนายทั้งหมด

 

8. Feature

คุณลักษณะหรือตัวแปรที่ใช้ในการสร้างโมเดล เช่น ราคาบ้านอาจขึ้นอยู่กับฟีเจอร์ต่าง ๆ เช่น พื้นที่ จำนวนห้องนอน และทำเลที่ตั้ง

 

9. Classification

งานที่โมเดลแมชชีนเลิร์นนิงต้องจัดหมวดหมู่ข้อมูลเข้ากับกลุ่มที่กำหนดไว้ล่วงหน้า เช่น การจำแนกอีเมลว่าเป็นสแปมหรือไม่

 

10. Regression

งานที่โมเดลแมชชีนเลิร์นนิงต้องทำนายค่าตัวเลขต่อเนื่อง เช่น การทำนายราคาบ้านจากคุณลักษณะต่าง ๆ

 

11. ชุดข้อมูลทดสอบ (Test Data)

ข้อมูลที่ไม่ได้ใช้ในการฝึกโมเดล แต่ใช้เพื่อประเมินประสิทธิภาพของโมเดลหลังจากการฝึกสอน

 

12. การเรียนรู้แบบมีผู้สอน (Supervised Learning)

เทคนิคแมชชีนเลิร์นนิงที่ใช้ข้อมูลที่มีการระบุผลลัพธ์ไว้แล้ว (เช่น มีป้ายกำกับ) เพื่อสอนโมเดลให้ทำนายผลลัพธ์ของข้อมูลใหม่

 

13. การเรียนรู้แบบไม่มีผู้สอน (Unsupervised Learning)

เทคนิคแมชชีนเลิร์นนิงที่ใช้ข้อมูลที่ไม่มีการระบุผลลัพธ์ เพื่อค้นหารูปแบบหรือโครงสร้างที่ซ่อนอยู่ในข้อมูล

 

14. คลัสเตอริ่ง (Clustering)

เทคนิคการเรียนรู้แบบไม่มีผู้สอนที่จัดกลุ่มข้อมูลตามความคล้ายคลึงกัน เช่น การแบ่งกลุ่มลูกค้าตามพฤติกรรมการซื้อ

 

15. ความเที่ยงตรง (Precision)

สัดส่วนของการทำนายเชิงบวกที่ถูกต้อง ต่อการทำนายเชิงบวกทั้งหมด ใช้วัดความน่าเชื่อถือของผลลัพธ์เชิงบวกที่โมเดลทำนาย

 

16. ค่าระลึก (Recall)

สัดส่วนของตัวอย่างเชิงบวกจริงที่โมเดลสามารถระบุได้ถูกต้อง ต่อตัวอย่างเชิงบวกจริงทั้งหมด ใช้วัดความสามารถในการค้นหาตัวอย่างเชิงบวกทั้งหมด

 

17. ค่า F1 (F1 Score)

ค่าเฉลี่ยฮาร์โมนิกของความเที่ยงตรงและค่าระลึก ใช้เป็นตัวชี้วัดประสิทธิภาพโดยรวมของโมเดล โดยเฉพาะในกรณีที่ข้อมูลไม่สมดุล

 

18. การตรวจสอบไขว้ (Cross-Validation)

เทคนิคการประเมินโมเดลที่แบ่งข้อมูลออกเป็นหลายส่วน และหมุนเวียนใช้ส่วนต่าง ๆ เพื่อฝึกและทดสอบโมเดล ช่วยลดปัญหาการเรียนรู้เกินหรือการเรียนรู้ไม่พอ

 

19. การเรียนรู้เชิงลึก (Deep Reinforcement Learning)

การผสมผสานระหว่างการเรียนรู้แบบเสริมแรงและดีพเลิร์นนิง ใช้ในระบบที่ซับซ้อน เช่น การเล่นเกมหรือการควบคุมหุ่นยนต์

 

20. การแปลงข้อมูล (Data Transformation)

กระบวนการเปลี่ยนแปลงข้อมูลก่อนนำไปใช้ฝึกโมเดล เช่น การปรับขนาด การเปลี่ยนประเภทข้อมูล หรือการแก้ไขค่าที่ขาดหายไป

 

 

คำศัพท์ AI ระดับกลาง (สำหรับผู้มีพื้นฐาน)

 

คำศัพท์ AI ระดับกลาง (สำหรับผู้มีพื้นฐาน)

 

21. Neural Network (เครือข่ายประสาทเทียม)

แบบจำลองการคำนวณที่ได้แรงบันดาลใจจากระบบประสาทสมองมนุษย์ ประกอบด้วยชั้นของโหนด (Node) ที่เชื่อมต่อกัน แต่ละโหนดคำนวณค่าน้ำหนักและส่งต่อข้อมูลไปยังโหนดถัดไป เครือข่ายเหล่านี้สามารถเรียนรู้รูปแบบซับซ้อนและใช้ในงานหลากหลาย เช่น การรู้จำภาพและการประมวลผลภาษา

 

22. Natural Language Processing (NLP) (การประมวลผลภาษาธรรมชาติ)

สาขาของ AI ที่เน้นการทำให้คอมพิวเตอร์เข้าใจ ตีความ และโต้ตอบกับภาษามนุษย์ เทคโนโลยีนี้อยู่เบื้องหลังแชทบอท เครื่องแปลภาษา และระบบวิเคราะห์ความรู้สึกในข้อความ

 

23. Computer Vision (การมองเห็นของคอมพิวเตอร์)

สาขาของ AI ที่ช่วยให้คอมพิวเตอร์สามารถ “เห็น” และเข้าใจภาพและวิดีโอ ครอบคลุมการรู้จำใบหน้า หรือการตรวจจับวัตถุ 

 

24. Overfitting / Underfitting (การเรียนรู้เกิน / การเรียนรู้ไม่พอ)

Overfitting เกิดเมื่อโมเดลเรียนรู้ข้อมูลฝึกสอนมากเกินไปจนไม่สามารถทำนายข้อมูลใหม่ได้ดี ส่วน Underfitting เกิดเมื่อโมเดลไม่สามารถจับรูปแบบในข้อมูลฝึกสอนได้เพียงพอ

 

25. Reinforcement Learning (การเรียนรู้แบบเสริมแรง)

เทคนิคการเรียนรู้ที่ตัวแทน (agent) เรียนรู้โดยการโต้ตอบกับสภาพแวดล้อมและรับรางวัลหรือบทลงโทษตามการกระทำ ใช้ในระบบที่ต้องตัดสินใจแบบต่อเนื่อง เช่น การควบคุมหุ่นยนต์หรือการเล่นเกม\

 

26. Epoch (ยุค)

หนึ่งรอบของการผ่านข้อมูลฝึกสอนทั้งหมดผ่านโมเดลขณะฝึก การฝึกโมเดลมักต้องการหลาย epoch เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี

 

27. Batch Size (ขนาดแบตช์)

จำนวนตัวอย่างที่โมเดลประมวลผลก่อนที่จะปรับปรุงค่าพารามิเตอร์ ขนาดแบตช์ใหญ่ช่วยเพิ่มความเร็วแต่อาจต้องการหน่วยความจำมากขึ้น ขณะที่ขนาดแบตช์เล็กอาจช่วยให้โมเดลเรียนรู้ได้ละเอียดขึ้น

 

28. Tokenization (การแปลงข้อความเป็นโทเค็น)

กระบวนการแบ่งข้อความเป็นหน่วยย่อย เช่น คำ วลี หรืออักขระ เพื่อการประมวลผลในระบบ NLP หรือการสร้างโมเดลภาษา

 

29. Embedding (การฝังตัว)

การแปลงข้อมูลเชิงคุณภาพ เช่น คำหรือรูปภาพ ให้อยู่ในรูปของเวกเตอร์ตัวเลขที่จับความหมายและความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งเหล่านั้น ช่วยให้คอมพิวเตอร์เข้าใจความคล้ายคลึงและความแตกต่าง

 

30. Bias / Variance (อคติ / ความแปรปรวน)

ในบริบทของแมชชีนเลิร์นนิง Bias คือความคลาดเคลื่อนจากการใช้โมเดลที่ง่ายเกินไป ส่วน Variance คือความคลาดเคลื่อนจากความไวต่อความผันผวนในข้อมูลฝึกสอน การสมดุลระหว่างสองสิ่งนี้เป็นกุญแจสู่โมเดลที่มีประสิทธิภาพ

 

31. Activation Function (ฟังก์ชันกระตุ้น)

ฟังก์ชันทางคณิตศาสตร์ที่ใช้ในเครือข่ายประสาทเทียมเพื่อกำหนดผลลัพธ์ของโหนด ช่วยแนะนำลักษณะไม่เชิงเส้นเข้าสู่โมเดล ตัวอย่างเช่น ReLU, Sigmoid และ Tanh

 

32. Gradient Descent (การลดเกรเดียนต์)

อัลกอริทึมปรับพารามิเตอร์ของโมเดลเพื่อลดความผิดพลาด โดยเคลื่อนที่ไปตามทิศทางของเกรเดียนต์ของฟังก์ชันต้นทุนที่ชันที่สุด

 

33. Backpropagation (การแพร่ย้อนกลับ)

อัลกอริทึมที่ใช้ในการฝึกเครือข่ายประสาทเทียม ทำงานโดยคำนวณผลกระทบของแต่ละพารามิเตอร์ต่อความผิดพลาดโดยรวม แล้วปรับพารามิเตอร์เหล่านั้นเพื่อลดความผิดพลาด

 

34. Transfer Learning (การเรียนรู้แบบถ่ายโอน)

เทคนิคที่นำโมเดลที่ฝึกไว้แล้วสำหรับงานหนึ่ง มาปรับใช้กับอีกงานหนึ่งที่เกี่ยวข้องกัน ช่วยประหยัดเวลาและทรัพยากรในการฝึกโมเดลใหม่ทั้งหมด

 

35. Recurrent Neural Network (RNN) (เครือข่ายประสาทเทียมแบบวนซ้ำ)

ประเภทของเครือข่ายประสาทเทียมที่มีการเชื่อมต่อแบบวนซ้ำ ทำให้สามารถจำข้อมูลก่อนหน้าได้ เหมาะกับงานที่เกี่ยวกับลำดับข้อมูล เช่น การประมวลผลข้อความหรือการทำนายอนุกรมเวลา

 

36. Convolutional Neural Network (CNN) (เครือข่ายประสาทเทียมแบบคอนโวลูชัน)

เครือข่ายประสาทเทียมที่ออกแบบมาเพื่อประมวลผลข้อมูลที่มีโครงสร้างแบบตาราง เช่น รูปภาพ ใช้ตัวกรองคอนโวลูชันเพื่อจับลักษณะเฉพาะจากข้อมูลนำเข้า

 

37. Long Short-Term Memory (LSTM) (หน่วยความจำระยะยาวและระยะสั้น)

ประเภทพิเศษของ RNN ที่สามารถเรียนรู้การพึ่งพาระยะยาว ช่วยแก้ปัญหาการหายไปของเกรเดียนต์ในเครือข่าย RNN ดั้งเดิม

 

38. Attention Mechanism (กลไกความสนใจ)

เทคนิคที่ช่วยให้โมเดลโฟกัสบนส่วนที่สำคัญของข้อมูลนำเข้าในขณะที่ทำงาน ใช้มากในงานแปลภาษาและการประมวลผลภาษาธรรมชาติ

 

39. Ensemble Learning (การเรียนรู้แบบรวมกลุ่ม)

เทคนิคที่รวมการทำนายจากหลายโมเดลเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวม เช่น Random Forest ที่รวมผลจากหลาย Decision Tree

 

40. AutoML (การเรียนรู้ของเครื่องจักรอัตโนมัติ)

เทคโนโลยีที่ทำให้กระบวนการสร้างและปรับแต่งโมเดลแมชชีนเลิร์นนิงเป็นอัตโนมัติ ช่วยให้ผู้ที่ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้าน AI สามารถพัฒนาโมเดลประสิทธิภาพสูงได้

 

 

คำศัพท์ AI ระดับสูง (สำหรับสายวิจัยหรือพัฒนา)

 

คำศัพท์ AI ระดับสูง (สำหรับสายวิจัยหรือพัฒนา)

41. Generative AI (ปัญญาประดิษฐ์เชิงสร้างสรรค์)

Generative AI คือระบบ AI ที่สามารถสร้างเนื้อหาใหม่ที่คล้ายกับข้อมูลที่ใช้ฝึก เช่น การสร้างรูปภาพ เขียนบทความ หรือแต่งเพลง ตัวอย่างเช่น GPT, DALL-E และ Stable Diffusion

อ่านบทความเพิ่มเติม : DALL-E คืออะไร? AI สร้างภาพ พร้อมเปรียบเทียบกับ DALL-E 2 และ 3

 

42. Transformer (ทรานส์ฟอร์เมอร์)

สถาปัตยกรรมเครือข่ายประสาทเทียมที่อาศัยกลไกความสนใจเพื่อประมวลผลข้อมูลที่มีลำดับ เป็นพื้นฐานของโมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่ทรงพลังหลายตัว รวมถึง BERT และ GPT

 

43. Fine-tuning (การปรับแต่งละเอียด)

กระบวนการปรับแต่งโมเดลที่ผ่านการฝึกมาก่อนให้เหมาะกับงานเฉพาะ โดยฝึกต่อด้วยข้อมูลใหม่ที่เกี่ยวข้องกับงานนั้น ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพของโมเดลสำหรับงานเฉพาะทาง

 

44. Pre-trained Model (โมเดลที่ผ่านการฝึกมาแล้ว)

โมเดลที่ฝึกมาแล้วบนชุดข้อมูลขนาดใหญ่ สามารถนำไปใช้เป็นจุดเริ่มต้นสำหรับงานที่คล้ายกัน โดยอาจปรับแต่งเพิ่มเติมหรือใช้เป็นตัวสกัดคุณลักษณะ

 

45. Zero-shot / Few-shot Learning (การเรียนรู้แบบไม่มีตัวอย่าง / มีตัวอย่างน้อย)

ความสามารถของโมเดลในการทำงานกับข้อมูลประเภทที่ไม่เคยเห็นมาก่อน (zero-shot) หรือเห็นเพียงไม่กี่ตัวอย่าง (few-shot) แสดงถึงความยืดหยุ่นและการทั่วไปของโมเดล

 

46. Prompt Engineering

ศิลปะและวิทยาศาสตร์ของการออกแบบคำแนะนำที่มีประสิทธิภาพเพื่อให้โมเดลภาษาขนาดใหญ่ทำงานตามที่ต้องการ การปรับแต่งคำพูดเล็กน้อยสามารถส่งผลต่อคุณภาพของผลลัพธ์อย่างมาก

 

47. Explainable AI (XAI) (ปัญญาประดิษฐ์ที่อธิบายได้)

แนวคิดและเทคนิคที่ทำให้ระบบ AI สามารถอธิบายกระบวนการตัดสินใจของตนเองได้ ช่วยสร้างความโปร่งใสและความเชื่อมั่นในระบบ AI

 

48. Multimodal AI (ปัญญาประดิษฐ์หลายรูปแบบ)

ระบบ AI ที่สามารถประมวลผลและเข้าใจข้อมูลหลายประเภท เช่น ข้อความ รูปภาพ เสียง และวิดีโอ ทำให้เกิดการโต้ตอบที่เป็นธรรมชาติมากขึ้นระหว่างมนุษย์และคอมพิวเตอร์

 

49. Causal Inference (การอนุมานเชิงสาเหตุ)

สาขาที่ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างสาเหตุและผล ในระบบ AI ช่วยให้โมเดลไม่เพียงแค่หาความสัมพันธ์ทางสถิติ แต่ยังเข้าใจว่าการเปลี่ยนแปลงหนึ่งเป็นสาเหตุของอีกการเปลี่ยนแปลงหนึ่งได้อย่างไร การเข้าใจความสัมพันธ์เชิงสาเหตุนี้ช่วยพัฒนาระบบ AI ที่ตัดสินใจได้ชาญฉลาดและน่าเชื่อถือมากขึ้น

 

50. Agentic AI (ปัญญาประดิษฐ์แบบตัวแทน)

ระบบ AI ที่สามารถทำงานอย่างเป็นอิสระในนามของผู้ใช้ สามารถตัดสินใจ วางแผน และดำเนินการเพื่อบรรลุเป้าหมายที่กำหนด เช่น ผู้ช่วยเสมือนที่จองร้านอาหารหรือซื้อสินค้าออนไลน์ได้โดยอัตโนมัติ Agentic AI เป็นทิศทางที่น่าตื่นเต้นในวงการ AI ที่จะเปลี่ยนวิธีที่เราทำงานและใช้ชีวิตในอนาคต

 

 

สรุป

เทคโนโลยี AI ไม่ใช่เพียงเครื่องมือสำหรับนักเทคโนโลยีอีกต่อไป แต่กำลังกลายเป็นส่วนสำคัญของชีวิตประจำวันและการทำงานในหลากหลายอุตสาหกรรม การเข้าใจคำศัพท์ AI 50 คำที่นำเสนอในบทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจการทำงานของเทคโนโลยีนี้ได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

 

หากธุรกิจของคุณต้องการคำปรึกษาเกี่ยวกับการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาประยุกต์ใช้ สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของ Yes Web Design Studio ได้ เราเป็นบริษัทเว็บดีไซน์ชั้นนำในไทยที่ไม่เพียงรับทำเว็บไซต์ แต่ยังให้คำปรึกษาด้านการตลาดดิจิทัลและ AI Solution อย่างครบวงจร

 

 

 

 

Yes Web Design Studio
Tel. : 096-879-5445
LINE : @yeswebdesign
E-mail : [email protected]
Address : ชั้น 17 อาคารวิทยกิตติ์ ถนนพญาไท วังใหม่ ปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330 (สถานี BTS สยาม)

มีโปรเจกต์ในใจแล้วใช่ไหม ?