ปกป้องเว็บไซต์ของคุณจากภัยเงียบก่อนที่จะสายเกินไป ด้วย 3 วิธีง่ายๆ

บทความโดย Yes Web Design Studio

ปกป้องเว็บไซต์ protect website from hacker

เหตุผลที่เจ้าของเว็บไซต์ไม่ลงทุนกับความปลอดภัยของเว็บไซต์ในการปกป้องเว็บของพวกเขาจากแฮกเกอร์และผู้ไม่หวังดีมักเป็นเหตุผลเหล่านี้

– คิดว่าเว็บไซต์ของตัวเองไม่มีอะไรที่มีค่ามากพอที่จะมีใครมาแฮก

-คิดว่าเว็บไซต์ของตัวเองไม่มีทางโดนแฮก

เหล่าแฮกเกอร์และผู้ไม่หวังดีชอบความคิดเหล่านี้มาก ๆ เพราะมันทำให้เว็บไซต์ของคุณขาดการรักษาความปลอดภัยที่ดีและทำให้พวกเขาแฮกเว็บไซต์ของคุณได้ง่ายขึ้น ซึ่งเป็นภัยร้ายแรงมากต่อคุณ ลูกค้าของคุณ และบริษัทของคุณ

เพื่อที่จะช่วยการันตีว่าเว็บของคุณจะไม่ถูกแฮก เราจะมาพูดถึง 3 สิ่งง่ายๆ ที่คุณเริ่มทำได้ทันทีเพื่อปกป้องเว็บไซต์ของคุณจากภัยคุกคามออนไลน์ต่าง ๆ

อย่างไรก็ตาม การทำตาม 3 ข้อนี้ไม่สามารถการันตีได้ว่าเว็บไซต์ของคุณจะไม่มีวันถูกแฮก แต่มันจะช่วยลดความเสี่ยงได้มากเลยทีเดียว

1. ติดตั้ง Security Socket Layer (SSL)

วิธีการที่มีประสิทธิภาพที่สุดและเป็นที่นิยมมากที่สุดในการติดตั้ง security socket layer (SSL) บนเว็บไซต์ก็คือการใช้ HTTPS ซึ่งเป็นข้อกำหนดหรือข้อตกลงในการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ทำให้เราสามารถสื่อสารกันในเครือข่ายคอมเพิวเตอร์ได้อย่างปลอดภัย และไม่ให้ใครเข้ามาเห็นข้อมูลในเครือข่ายของคุณได้ง่าย ๆ  ซึ่งก็หมายความว่าคุณจะสามารถใช้เว็บไซต์ได้อย่างปลอดภัย ไม่ต้องกังวลว่าจะมีใครมาขโมยข้อมูลทางการเงินหรือการลงทะเบียนและล็อกอิน

เพราะเหตุผลนี้เอง คุณจึงควรใช้ HTTPS บนเว็บไซต์ของคุณ ที่จะต้องได้มีการวบรวมข้อมูลของผู้ใช้เช่นรหัสล็อกอิน ข้อมูลบัตรเครดิต และข้อมูลส่วนตัวอื่น ๆ ไม่เช่นนั้นหากโดนแฮกและขโมยข้อมูลไปแฮกเกอร์ก็จะปลอมแปลงเป็นผู้ใช้และนำข้อมูลนั้น ๆ ไปใช้ในทางที่ไม่ดีได้

นอกจากนี้ การใช้ HTTPS ยังช่วยทำให้เว็บไซต์ของคุณหาเจอได้ง่ายในเสิร์ชเอนจินอย่าง Google ด้วยเพราะถือว่าเป็นเว็บไซต์ที่ปลอดภัย Google ก็จะให้ความสำคัญมากกว่าและทำให้เว็บของคุณมีอันดับดีกว่าด้วย

2. ปกป้องเว็บไซต์ของคุณจาก SQL Injection

SQL Injection คือการใส่หรือแฝงคำสั่ง SQL เข้าไปใน HTTP request ที่จะส่งไปยัง Server เพื่อที่จะเข้าถึงและขโมยข้อมูล ลบข้อมูล และอื่น ๆ อีกมากมาย

หากคุณยังใช้ Transact SQL แบบธรรมดาที่ไม่มีการป้องกันใด ๆ  คุณก็จะยิ่งมีความเสี่ยงในการโดนเจาะเอาข้อมูลไปอย่างง่ายๆ เพียงแค่แฮกเกอร์พิมพ์โค้ดเช้ามาเจาะเอาข้อมูลของคุณไป เพราะฉะนั้นคุณจึงต้องตั้งกฎเกณฑ์ในการใช้ช่องค้นหา เพื่อป้องกันไม่ให้แฮกเกอร์นำโค้ดมาใส่ได้นั่นเอง

3. อย่าอนุญาติให้อัปโหลดไฟล์ลงบนเว็บไซต์ของคุณ

หากคุณอนุญาตให้ผู้คนอัปโหลดไฟล์ลงเว็บไวต์ของคุณได้ นั่นแปลว่าคุณกำลังเอาความปลอดภัยของเว็บไซต์และบริษัทของคุณมาไว้ในความเสี่ยงที่สูงมาก เพราะแฮกเกอรือาจเข้ามาอัปโหลดไฟล์บางอย่างที่ช่วยให้พวกเขาแฮกเข้ามาในเว็บไซต์ของคุณได้นั่นเอง 

แม้แต่การอนุญาตให้ผู้คนอัปโหลดรูปได้ก็ยังถือว่าเสี่ยงมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปที่อัปโหลดมาในฟอร์ม หรือในคอมเม้น คุณก็ต้องคิดไว้ก่อนเลยว่ามันอาจจะเป็นไฟล์ที่ไม่ปลอดภัยก็ได้ และแม้ว่าคุณจะใช้ตัวช่วยในการตรวจสอบไฟลฺ มันก็ยังไว้ใจไม่ได้ 100% เพราะมันสามารถเป็นไฟลืปลอมได้นั่นเอง. 

วิธีที่ดีที่สุดที่จะหยุดการรับไฟล์ที่ไม่ปลอดภัยเหล่านี้ก็คือการไม่ให้ผู้คนอัปโหลดไฟล์ไปยังเว็บไซต์ของคุณโดยตรง แต่ให้อัปโหลดไปยังแฟ้มภายนอกเว็บไซต์ (external folder) แทน ก่อนที่จะไปเขียนโค้ดเพื่อช่วยค้นหาและคัดเลือกไฟล์ที่ต้องการมายังเว็บของคุณ 

หากคุณชอบเนื้อหาที่มีประโยชน์แบบนี้ ติดตามเราได้ที่ yeswebdesignstudio.com

มีโปรเจกต์ในใจแล้วใช่ไหม ?